ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติไตรมาส 2 ปี 2566 เพิ่มขึ้น 53.4% ส่วนช่วง 6 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 65.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยชาวต่างชาติที่ทำสัญญาซื้อขายก่อนหน้าสามารถกลับมารับโอนกรรมสิทธิ์ได้เพิ่มขึ้น

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศในช่วง 6 เดือนแรกปี 2566 มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดรวม 7,338 ยูนิต มูลค่า 35,211 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวพบว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีนจำนวน 3,448 ยูนิต มูลค่าสูงสุดจำนวน 16,992 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 48.3% ของมูลค่าทั้งหมด รองลงมาคือ รัสเซียจำนวน 702 ยูนิต  มูลค่า 2,556 ล้านบาท สหรัฐอเมริกาจำนวน 293 ยูนิต มูลค่า 1,289 ล้านบาท  สหราชอาณาจักรจำนวนจำนวน 260 ยูนิตมูลค่า1,287 ล้านบาท และพม่าจำนวน 1,274 ล้านบาท

หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ทั่วประเทศ  เรียงตามสัญชาติสูงสุด 10 อันดับ

ส่วนจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากเป็นอันดับ 1 คือ จังหวัดชลบุรี มีสัดส่วนสูงถึง 43.4% จำนวน 3,183 ยูนิต มูลค่า 9,840 ล้านบาท ขณะที่กรุงเทพฯอยู่อันดับ 2 มีสัดส่วน 37.7% จำนวน 2,765 หน่วย มูลค่า 20,233 ล้านบาท และภูเก็ตมีสัดส่วนเป็นอันดับ3 อยู่ที่ 6.3% ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ซึ่งแตกต่างจากช่วงปี 2561 – 2565 ที่กรุงเทพฯมียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติเป็นอันดับ 1 สัดส่วนเฉลี่ย 48.8 %และชลบุรีเป็นอันดับที่ 2 มีสัดส่วนเฉลี่ย 30.8%

หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ทั่วประเทศ เรียงตามจังหวัดสูงสุด 5 อันดับ

ขณะที่สัญชาติพม่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุด 7 ล้านบาท ส่วนสัญชาติอินเดียมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ 89.8 ตารางเมตร

ขนาดและมูลค่าห้องชุดเฉลี่ยต่อหน่วยของสัญชาติที่มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศสูงสุด 10 อันดับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566

ส่วนภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในไตรมาส 2 มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศจำนวน 3,563 ยูนิต เพิ่มขึ้น 53.4% และมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 18,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 166,303 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

จำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ทั่วประเทศ

สำหรับระดับราคาห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิมากที่สุด จะอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยมีการโอนจำนวน 1,586 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 44.5% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับราคาที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดมาตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน รองลงมาคือ ระดับราคา 3.01 – 5 ล้านบาท มีจำนวน 880 ยูนิต ระดับราคา 5.01 – 7.5 ล้านบาท มีจำนวน 567 ยูนิต ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 321 ยูนิต และระดับราคา 7.51 – 10 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด 209 ยูนิต

ส่วนขนาดห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ คือ ขนาดพื้นที่ 31 – 60 ตารางเมตรแบบ 1 – 2 ห้องนอน โดยมีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์จำนวน 1,909 ยูนิต มีสัดส่วนสูงถึง 53.6% รองลงมา คือ ห้องชุดขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร แบบสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอน มีจำนวน 1,037 ยูนิต ห้องชุดขนาดพื้นที่ 61 – 100 ตารางเมตร แบบ 2 – 3 ห้องนอนขึ้นไปจำนวน 379 ยูนิต และห้องชุดขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตรแบบ3 ห้องนอนขึ้นไป มีจำนวนน้อยที่สุด 238 ยูนิต

 “ภาพรวมของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั้งในมิติของจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ ฟื้นตัวกลับมาอย่างชัดเจนแล้ว แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงที่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยมีข้อสังเกตว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และยังเป็นการซื้อขายห้องชุดที่ขายได้จริง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากภาวะการโอนกรรมสิทธิ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับการโอนกรรมสิทธิ์ทุกประเภททั่วประเทศ หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ มีสัดส่วน 13.6% ของการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ  โดยเพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วน 9.3% ขณะที่มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด มีสัดส่วน 24.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วน 18.7% ส่วนพื้นที่ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติ มีสัดส่วน 18.3% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วน 12.7%

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*