วัน แบงค็อก เผยยอดจองพื้นที่เช่าอาคารสำนักงานตึกแรกพุ่งกว่า 50% หลังจากเปิดตัวมาได้1ปี คาดว่าจะปิดยอดจองได้ถึง 80% ภายในไตรมาส 2 ปี 2567 ขณะที่อาคารสำนักงานที่ 2 สูง 48 ชั้น มีพื้นที่ให้เช่ารวม 97,000 ตารางเมตร  คาดว่าจะมียอดจองถึง 55% ภายในช่วงเวลาเดียวกัน

นางสาวทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายอาคารสำนักงาน โครงการ วัน  แบงค็อก ซึ่งพัฒนาโดยบริษัททีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทยจำกัด และบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทยเปิดเผยว่า  หลังจากเปิดให้จองพื้นที่เช่าอาคารสำนักงานตึกแรกสูง 50ชั้น พื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 95,000 ตารางเมตรไปตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน มียอดจองพื้นที่แล้วกว่า50 %จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ สำนักงานกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านความบันเทิง ธนาคารต่างประเทศ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามระดับโลก

คาดว่าจะสามารถปิดยอดจองได้ถึง 80% ภายในไตรมาส 2 ปี 2567 ขณะที่อาคารสำนักงานที่ 2 สูง 48 ชั้น มีพื้นที่ให้เช่ารวม97,000ตารางเมตร  คาดว่าจะมียอดจองถึง 55% ภายในช่วงเวลาเดียวกัน และในส่วนของอาคารสำนักงานที่ 3  สูง 35ชั้น พื้นที่ให้เช่ารวม 97,000 ตารางเมตร  ได้เริ่มเปิดให้จองแล้วเช่นกัน โดยมีซีบีอาร์อี(CBRE)  และเจแอลแอล (JLL) ผู้นำด้านบริการและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่า

“วัน แบงค็อก ประกอบด้วยอาคารสำนักงานระดับพรีเมียมจำนวน 5 อาคาร เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์จะมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมกว่า 500,000 ตารางเมตร ขณะที่ทำเลที่ตั้งอยู่บนทำเลหัวมุมถนนวิทยุตัดกับพระราม 4 เพิ่มการเดินทางที่สะดวกสบายเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี และยังมีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด รวมถึงทางเชื่อมตัดตรงเข้าสู่ทางด่วนซึ่งถือเป็นโครงแห่งแรกในประเทศไทย”

นอกจากนั้นภายในโครงการ วัน แบงค็อก ยังมีพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวกว่า 50ไร่หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโครงการ และมีทางเดินปกคลุมด้วยร่มไม้กว่า 5 กิโลเมตร รวมถึง  Art Loopพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะสาธารณะและความคิดสร้างสรรค์ โดยรอบโครงการกว่า 2 กิโลเมตร  รมทั้งได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน LEED for Neighbourhood Development ระดับ Platinum และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร

ดังนั้นพื้นที่สำนักงานภายในโครงการจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงสุขภาวะของผู้ใช้อาคารเป็นสำคัญ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบอาคารให้เหนือกว่ามาตรฐานของอาคารสำนักงานทั่วไป เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้อาคาร อาทิ การนำกระจกฉนวนกันความร้อน หรือกระจกอินซูเลทที่สามารถกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้กว่า 75% มาใช้กับอาคารสำนักงาน ทำให้อาคารสามารถปกป้องผู้คนในอาคารจากสภาพภูมิอากาศที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบระบายอากาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถดึงอากาศจากภายนอกเข้าสู่อาคารสูงกว่ามาตรฐานสากลถึง 30%โดยนำมาผ่านแผ่นกรองอากาศระดับพรีเมียมพร้อมฉายรังสียูวีฆ่าเชื้อโรค เพื่อให้ได้อากาศบริสุทธิ์และสะอาดหมุนเวียนในอาคารมากขึ้น

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*