เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ทแจงผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้แตะ 2,742.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวของปีก่อน หลังปรับปรุงห้องพักรูปแบบใหม่ของโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอ ส่งผลให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยทั้งพอร์ตเติบโตขึ้น 24%

นายไมเคิล เดวิด มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในเครือบริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกทั้งรายได้และ EBITDA ของกลุ่มบริษัทเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทำรายได้รวม 2,742.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์หลักที่มีศักยภาพตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะอัตราค่าห้องพักที่มีการปรับปรุงสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ถึง 30-40% จากปีฐานอีกด้วย

นอกจากนี้การเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของโรงแรมในประเทศไทย และมัลดีฟส์ ประกอบกับจำนวนห้องพักพร้อมให้บริการได้เต็มจำนวน ส่งผลให้ระดับรายได้เฉลี่ยต่อห้องของโรงแรมที่บริษัทบริหารจัดการเองในประเทศไทย และโรงแรมในโครงการ CROSSROADS เพิ่มขึ้น 94% และ 46% จากไตรมาส 4 ปี 2566 ตามลำดับ หนุนให้กำไรสุทธิสำหรับในไตรมาส 1 ปี 2567 เติบโตขึ้น 75% จากไตรมาสก่อนหน้า

“สัญญาณเชิงบวกในภาคการท่องเที่ยวในหลายๆประเทศที่บริษัทมีการดำเนินงานอยู่ สอดคล้องกับยอดจองห้องพักในช่วง 3 – 6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกของบริษัททั้งการเพิ่มช่องทางการขายให้สามารถเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพใหม่ ๆ มากขึ้น และกลยุทธ์การตั้งราคาแบบเฉพาะเจาะจงที่มีประสิทธิภาพ”

เช่นเดียวกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของกิจการร่วมค้า SO/ Maldives ที่มีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงแผนลดต้นทุนทางการเงิน และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่คาดว่าจะเริ่มปรับตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง จะเป็นแรงหนุนให้บริษัทสามารถสร้างผลการดำเนินงานตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ในปี 2567

สำหรับปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท การคาดการณ์กำไรสุทธิจะสามารถเติบโตขึ้นจากปีก่อน จากข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งของโรงแรมที่ได้รับความนิยม และความสามารถในการปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักให้สอดคล้องกับความต้องการท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโต อีกทั้งยังสามารถตอบสนองแนวโน้มการแสวงหาความคุ้มค่าเงิน (Value for Money) ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี มากไปกว่านั้นยังมีแผนพัฒนาสินค้าที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน อาทิ เมนูอาหาร บริการต่าง ๆ อาทิ สปา และบีชคลับ จากความมุ่งมั่นในการควบคุมต้นทุน และบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) ให้ขยายตัวขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*