ศุภาลัย กางโรดแมพปี 2567 ทุบสถิติทั้งจำนวนโครงการใหม่และมูลค่ารวมสูงสุดจำนวน 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค เน้นโครงการแนวราบมากสุดถึง 38 โครงการ มูลค่ารวม 43,500 ล้านบาท ประเดิมไตรมาสแรกเปิด14 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายและรายได้เท่ากันที่ 36,000 ล้านบาท
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากปัจจัยบวกด้านอัตราดอกเบี้ยขาลง อัตราเงินเฟ้อเริ่มทรงตัว การท่องเที่ยวและการส่งออกเริ่มดีขึ้น ทำให้มีการลงทุนเริ่มมากขึ้น แต่จะเป็นอีกปีที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น แม้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยยังต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายต่างๆ แต่น่าจะขับเคลื่อนไปต่อได้ เป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาฯ ความต้องการสินค้าที่อยู่อาศัยในกลุ่มแนวราบยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าระดับกลาง-บน ขณะที่สินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียมเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวในทำเลศักยภาพ
ดังนั้นในปี 2567 นี้จะเป็นปีที่บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการมากที่สุด และมีมูลค่าโครงการสูงสุด ส่งผลให้ปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการสะสมรวมทั้งหมด 441 โครงการนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ แบบบ้านใหม่ การพัฒนาคุณภาพสินค้า และนวัตกรรมที่อยู่อาศัยรักษ์โลกมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการขยายการลงทุนต่อเนื่องในประเทศออสเตรเลีย โดยจับมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ตั้งกิจการร่วมค้าในชื่อ “SSRCP HoldCo Pty Ltd” เพิ่มเงินลงทุนอีก 12,600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มอีก 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 137,700 ล้านบาทใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญ ทำให้ปัจจุบันบริษัทได้มีการพัฒนาโครการในประเทศออสเตรเลียแล้วรวม 24 โครงการ มูลค่าโครงการ 187,700 ล้านบาท คิดเป็นเงินทุนรวมของศุภาลัย 22,300 ล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดและมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจมา 35ปี จำนวนทั้งหมด 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกโปรดักต์และระดับราคารองรับทุกความต้องการทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค ในจำนวนนี้เป็นโครงการแนวราบมากสุดถึง 38 โครงการ มูลค่ารวม 43,500 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท นอกจากนี้จะเปิดตัวโครงการในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 3 จังหวัดใหม่ๆ ได้แก่ ลำปาง ราชบุรี และลพบุรี ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทมีการเปิดตัวโครงการสะสมในต่างจังหวัดครอบคลุมมากถึง 29 จังหวัด
โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกจะมีมูลค่าการเปิดตัวโครงการมากถึง 30,000 ล้านและจะเปิดตัวในไตรมาสแรกจำนวน 14 โครงการ มูลค่ารวม 14,990 ล้านบาท โดยมีโครการส่วนหนึ่งที่เลื่อนเปิดตัวมาจากไตรมาส 4ปี 2566 แบ่งเป็นโครงการในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างงจังหวัดในสัดส่วนเท่ากัน 50:50
นอกจากนี้จะเพิ่มแชร์ตลาดบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรีระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายมากขึ้น 56% จากปีที่ผ่านมา พร้อมขยายทำเลใหม่เพิ่มขึ้นด้วย อาทิ อรุณอมรินทร์,กรุงเทพกรีฑา,อุทยาน – อักษะ และพุทธมณฑล ภายใต้แบรนด์ศุภาลัย ไพร์ม วิลลา ณุภาลัย ริเวียรา ศุภาลัน พรีมา วิลลา ศุภาลัย ทัศคานี และศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์
“ปี 2567 นี้จะเป็นอีกปีที่บริษัทมีการเติบตั้งยอดขาย รายได้ และกำไร ด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมมากถึง 29 จังหวัด และมีสินค้าพร้อมอยู่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ความพร้อมทางต้นทุนทางการเงิน สร้างสรรค์สินค้าและนวัตกรรมต่างๆ การตลาดและการขาย การบริการอย่างครบวงจร”
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายและรายได้ในสัดส่วนเท่ากันที่ 36,000 ล้านบาท และงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะมีคอนโดฯสร้างเสร็จพร้อมอยู่จำนวน 5โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการไอคอน สาทร,โครงการพรีเมียร์ รามเสน-รัตนาธิเบศร์,โครงการลอฟท์ ภาษีเจริญ สเตชัน,โครงการซิตี้โฮม สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์ และโครงการซิตี้โฮม ระยอง ขณะที่ปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายได้รวม 28,864 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดฯ 26 โครงการ มูลค่ารวม 29,640 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 23 โครงการ ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 โครงการ ภูมิภาค 15 โครงการ และคอนโดฯอีก 3 โครงการ
