บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้  มาเนจเมนท์ จำกัด หรือชื่อเดิม บริษัทลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด เป็นบริษัทลูกในเครือ แอล.พี.เอ็น. ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)ที่กำลังแต่งตัวเตรียมพร้อมเข้าตลาดเอ็มเอไอ หลังจากได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อให้มีความชัดเจนในการบริหารจัดการ และเพื่อประโยชน์ในการขยายธุรกิจในอนาคต โดยรับผิดชอบงานบริการหลังการขายอย่างครบวงจรทั้งอาคารชุดและบ้านพักอาศัยเป็นต้น นอกจากนี้ยังรับบริหารจัดการทรัพย์สินภายในโครงการ บริหารจัดการงบประมาณ ดูแลคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังรับงานบริหารอาคารพักอาศัย สำนักงาน และอาคารเชิงพาณิชย์ รับผิดชอบในการบริหารจัดการทรัพย์ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงให้บริการบริหารงานระบบ การจัดการสินทรัพย์ให้เช่า วางระบบ-บริหารจัดการอาคารชุด รวมถึงการบริหารอาคารสำานักงาน และอาคารเชิงพาณิชย์ ร้านค้าขนาดใหญ่  หรืออาคารธุรกิจอื่นๆ ตามขอบเขตงานที่ผู้ว่าจ้างกำหนด

นอกเหนือจากรับบริหารอาคาร การดูแลอาคารให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว บริษัทยังดูแลถึงประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและคุ้มค่า ตั้งแต่การวางแผน การควบคุม การประเมินผล รวมทั้งการจัดฐานข้อมูลและการตรวจสอบ ด้วยบุคลากรและทีมงานที่มากประสบการณ์ในทุกๆ ด้าน

งานบริการจัดหาผู้เช่า และผู้ซื้อ รับผิดชอบในการบริหารทรัพย์สินประเภทห้องชุดพักอาศัยที่ผู้ซื้อ (นักลงทุน) ต้องการจัดหาผู้เช่าและผู้ซื้อ นอกจากนั้นยังดำาเนินการ ตรวจคัดกรองผู้เช่า เพื่อความปลอดภัยในชุมชน

งานบริการด้านวิศวกรรม รับผิดชอบในการให้บริการด้านวิศวกรรมอาคารชุดตามความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร ดำาเนินงานตั้งแต่การดูแลควบคุม การบำรุงรักษา การซ่อมแซมอาคารชุด เช่น งานระบบไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาล ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบปรับอากาศ และงานทาสีอาคาร เป็นต้น

นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด  เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เปิดให้บริการมา 32 ปี บริษัทมีงานดูแลโครงการทั้งหมด 261 โครงการ จำนวนลูกค้ากว่า 400,000 ราย คิดเป็นพื้นที่กว่า 11 ล้านตารางเมตร โดยเป็นงานบริหารโครงการของกลุ่แอล.พี.เอ็น.ประมาณ 60% อีก40%เป็นงานของลูกค้าภายนอก เช่น งานโครงการของกลุ่มอนนันดาฯ กลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กลุ่มพฤกษา และกลุ่มแอสเซทไวส์ เป็นต้น

โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 90% ยังคงใช้งานบริการของแอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ต่อเนื่อง และอีก 80%มีการต่อสัญญาใช้บริการนานถึง 5ปี โดยสัญญาที่รับงานบริหารนิติบุคคลอาคารชุดจะมีตั้งแต่ 1-3 ปี ซึ่งแต่ละปีจะมีงานบริหารนิติบุคคลเข้ามาประมาณปีละ 20-30 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการบอกต่อปากต่อปากจากกลุ่มลูกค้า

สำหรับแผนงานปีนี้ บริษัทวางแผนรับงานบริหารเพิ่ม 30 โครงการ  และตั้งเป้ารายได้ไว่ที่ 1,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากมีปี 2566 ที่มีรายได้ประมาณ 1,562  ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการชุมชนและทรัพยากรอาคาร 1,105 ล้านบาท  ธุรกิจรับกษาความปลอดภัยและรักษาความสะอาด  500 ล้านบาท และธุรกิจบริการวิศวกรรมและที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์อีก  275 ล้านบาท

โดยรายได้หลัก 65%  มาจากบริษัทแอล พี พี พรอพเพอร์ตี้  มาเนจเมนท์ จำกัด ในจำนวนนี้ประมาณ 90% มาจากธุรกิจบริหารชุมชน ส่วนรายได้อีก 20%มาจากบริษัทแอล พี เอส โปรเจค  มาเนจเมนท์ จำกัด  ประมาณ 80% มาจากธุรกิจบริการงานวิศวกรรม  และ15%  มาจากบริษัทรักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส  โซลูชั่นส์  จำกัด ธุรกิจบริการรปภ. และ แม่บ้าน

ส่วนเป้าหมายภายใน 3ปี (ปี 2567-2569)จะสร้างรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 2,545ล้านบาท และมีโครงการที่รับบริหารอยู่ในพอร์ตประมาณ  351 โครงการ คิดเป็นพื้นที่รวม 13-14 ล้านตารางเมตร

ขณะที่ในปี 2566 ที่ผ่านมากลุ่ม LPP ได้ขยายธุรกิจบริการในกลุ่มด้วยการเข้าถือหุ้น 60% ในบริษัทพี ดับบลิว กรุ๊ป เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านงานวางระบบสุขาภิบาล ระบบท่อประปา ระบบท่อปรับอากาศ  และได้ขยายขอบเขตงานบริหารชุมชน และสร้าง Synergy ของงานบริการ ด้วยการเข้าไปลงทุนในโครงการ U-Center เพื่อปรับปรุงอาคารหอพัก บริหารจัดการหอพักและการปล่อยเช่าของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ สัญญา 8 ปี โดยปัจจุบันได้เปิดให้นักศึกษาเช่าแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีอัตราการเข้าพักสูงถึง 90%

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับบริษัทซลีปชาร์จ จำกัด ขยายโซลูชั่นด้านบริการจุดชาร์จรถ EV สำหรับคอนโดมิเนียม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านที่ LPP ดูแล  โดยปีที่ผ่านมาได้ติดตั้งไปแล้ว 8 โครงการ หรือ 16 เครื่องชาร์จ และจะเพิ่มเป็น 100 โครงการในปี 2567 รวมทั้งได้รับบริหารงานขายและการตลาดแบบครบวงจร (Sole Agent) ประเดิมโครงการแรก MIDTOWN เพชรเกษม – สาทร ในรูปแบบทาวน์โฮม 3 และ 4 ชั้น จำนวน 49 ยูนิต

ล่าสุดบริษัทกำลังจัดตั้งศูนย์ Emergency รองรับงานรักษาความปลอดภัย ที่สามารรุเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้ทุกโครงการที่บริษัทรับบริหารตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งวางแผนขยายรับงานบริหารจัดการไปยังจังหวัดอื่นๆ เพิ่มขึ้นในปี 2567 โดยเน้นจังหวัดที่บริษัทแม่ LPN ได้เข้าไปลงทุน และพัฒนาโครงการไปแล้ว เช่น ชลบุรี อุดรธานี หัวหิน เป็นต้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*