แสนสิริฯโต้ข้อมูลพาดพิงวิธีการจัดซื้อที่ดินย่านทองหล่อบิดเบือน แจงการสรรหาจัดซื้อที่ดินถูกต้องตามกฏหมาย โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ทั้งมีการสำรวจข้อมูลเชิงลึกก่อนอนุมัติส่วนโครงการ “KHUN by YOO”ยันไม่มีความสัมพันธ์ผูกโยงเกี่ยวข้องกับ เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ทฯ เจ้าของโฉนดเดิม ลั่นซื้อที่ดินตามราคาตลาด 1,100,000 บาทต่อตารางวา เตรียมดำเนินการทางกฏหมายผู้บิดเบือนข้อมูล ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
นายอุทัย อุทัยแสงสุข
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือSIRI เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีผู้นำเสนอข้อมูลบิดเบือนพาดพิง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับวิธีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริฯว่ามีการดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้สาธารณชนเข้าใจคลาดเคลื่อน และทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า  

การสรรหาและจัดซื้อที่ดินของแสนสิริฯถูกต้องตามกฏหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน บริษัทฯ มีแนวทางการพิจารณาการจัดซื้อที่ดินอย่างชัดเจน ผ่านการประเมินความเสี่ยงในหลากหลายมิติ

ก่อนการอนุมัติจัดซื้อที่ดินของแสนสิริฯแต่ละแปลงจะมีทีมสรรหาที่ดินที่มีความเชี่ยวชาญ ทำการตรวจสอบข้อมูลขั้นต้นและข้อมูลรายละเอียดของที่ดินที่ได้รับการเสนอขาย โดยมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียด ทั้งในเชิงมหภาค การขยายตัวของเมืองประชากร และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงพิจารณาราคาตามกลไกของตลาด ทำเลที่ตั้งของที่ดิน การสำรวจตลาดคู่แข่ง เงินลงทุน กำไรที่คาดว่าจะได้รับอย่างละเอียด ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

สำหรับกรณีที่ดินทองหล่อ ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ “KHUN by YOO” นั้น แสนสิริฯและบริษัทย่อยของแสนสิริ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวโดยแสนสิริฯ ซื้อที่ดินทองหล่อในปี 2559 ในราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา(ตร.ว.)จากบริษัทเอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมเทียบเคียงกับราคาตลาด

ซึ่งตามที่มีการกล่าวอ้างว่า แสนสิริฯซื้อที่ดินราคาแพง ควรจะซื้อเพียง 565 ล้านบาทหรือเท่ากับตารางวาละ 650,000 บาทเท่านั้น เป็นการพูดที่ไม่สมเหตุผล เพราะไม่มีเจ้าของที่ดินรายใดที่มีที่ดินอยู่ในซอยทองหล่อจะขายที่ดินในราคาดังกล่าว

อีกทั้ง บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นธรรมดาที่เจ้าของที่ดินจะต้องขายที่ดินที่มีกำไร คงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมขายในราคาตารางวาละ650,000 บาท ที่ต่ำกว่าราคาตลาดอย่างมาก และบริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแสนสิริฯ ไม่เคยให้กู้ยืมเงินแก่ บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด โดยมีหลักฐานที่อยู่ในสัญญาจำนองฉบับกรมที่ดิน (เอกสารแนบ) ว่า การจำนองดังกล่าวเป็นการจำนองเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินของผู้ขายเพื่อให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญาให้ครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเคลียร์ผู้เช่า ในที่ดินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยปลอดจากภาระผูกพันใดๆและเมื่อผู้ขายได้ดำเนินการครบถ้วนเสร็จสิ้นแล้ว แสนสิริฯจึงได้ดำเนินการรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวและจัดทำเป็นโครงการอาคารชุดที่มีการขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าแล้ว

ทั้งนี้ แสนสิริฯ อยู่ในระหว่างพิจารณาดำเนินการทางกฏหมายต่อผู้กระทำการบิดเบือนข้อมูล และทำให้ชื่อเสียงแสนสิริฯได้รับความเสียหาย แสนสิริฯ ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ จึงขอชี้แจงมา ที่นี้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*