อีสเทอร์น สตาร์ฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้จากโครงการแนวราบฝั่งตะวันออกแตะ700 ล้านบาท พร้อมขยับเป้า 5ปีรายได้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 5โครงการ ต้นปีหน้าเตรียมเปิดตัวโครงการน้องใหม่ ‘เวลาน่า ไฮด์’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 780 ล้านบาท พร้อมเล็งแผนเปิดตัวคอนโดฯโลว์ไรส์ในอนาคต

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัทอีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทสามารถปิดยอดขายโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ระยอง – บ้านฉางไปแล้ว   3 โครงการ อาทิ โครงการบ้านสินทวี การ์เด้นท์ 2,โครงการแฮมเล็ต 3 และโครงการเวลาน่า กอล์ฟ เฮ้าส์ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและพัฒนา คือ โครงการบรีซ แอท อีสเทอร์น สตาร์ ฟอเรสโต้ ทำยอดขายได้แล้ว 99% คาดว่าจะปิดได้ในสิ้นปีนี้ โครงการเวลาน่า อะโมด้า อู่ตะเภา – บ้านฉาง ทำยอดขายแล้ว 96% เป็นบ้านเดี่ยว พร้อมอยู่ 2 ชั้นจำนวน 104 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท และโครงการแกรนด์ เวลาน่า ยอดขาย 80%

ส่วนโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว คือ โครงการเธร่า พรีม่า บูรพาพัฒน์ – สุขุมวิท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ทำยอดขายได้แล้ว 75% ของเฟสแรก และโครงการบรีซ ชาเล่ต์ บูรพาพัฒน์ – สุขุมวิท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท เปิดขายเฟสแรกก่อนทำยอดขายได้แล้ว 80% พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่โครงการกว่า 27ไร่ จำนวน 134 ยูนิตเป็นบ้าสไตล์ Modern English Garden Home ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท

นอกจากนี้ในช่วงต้นปีหน้า บริษัทวางแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ คือ โครงการเวลาน่า ไฮด์ อู่ตะเภา – บ้านฉาง อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 60% โดยพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 186-272 ตารางเมตรจำนวน 128 ยูนิต ราคาขาย 5.5-9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 780 ล้านบาท เน้นกลุ่มเป้าหมายผู้บริหาร บริษัทในนิคมฯ มาบตาพุด กลุ่มหมอ และพนักงานสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ตั้งแต่ช่วง อายุ 30-55 ปี รายได้เดือนละ 7 หมื่น – 3 แสนบาท

“พื้นที่ทำเลในบริเวณรัศมีรอบโครงการอีสเทอร์น สตาร์ โซนระยอง – บ้านฉาง มีศักยภาพทำเลสูง เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมและประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น อีกทั้งยังมีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย โดยเฉพาะสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาที่มีโปรเจกต์ในการก่อสร้างส่วนต่อขยายเพิ่ม อีกทั้งยังมีโครงการในอนาคตที่เป็นเมกะโปรเจกต์ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และเชื่อมพื้นที่กรุงเทพฯสู่ EEC คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2029 ทำให้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และมีการจ้างงานในอุตสาหกรรมต่อเนื่องกว่า 1 แสนตำแหน่งทำให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์มีอย่างต่อเนื่อง”

แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับต้นทุนที่เพิ่มทุน อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น และการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยของสถาบันการเงิน ทำให้ประเมินว่าในปีนี้ตลาดอสังหาฯจังหวัดระยอง ในพื้นที่อำเภอเมือง ปลวกแดง นิคมพัฒนา และอำเภอบ้านฉางจะชะลอตัวลง โดยจำนวนยอดขายบ้านใหม่จะอยู่ที่ 10,240 ยูนิตลดลง 15% และมูลค่าการขายอยู่ที่ 23,178 ล้านบาท ลดลง 11% โดยบริษ้ทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 3% แต่ในพื้นที่บ้านฉางที่มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 2,752 ล้านบาท บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 25%

โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการขายและโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบในพื้นที่บ้านฉางไว้ที่ 700 ล้านบาทจากเป้ารายได้รวมทั้งบริษัทอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และตั้งเป้าภายใน 5ปีจะเพิ่มรายได้ในพื้นที่บ้านฉางเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าหลักกว่า 50% จะเป็นคนกรุงเทพฯที่ไปทำงานอยู่ในจังหวัดระยองและซื้อทีอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังแรก

ทั้งนี้บริษัทมีแลนด์แบงก์อยู่ในพื้นที่อีสเทอร์น สตาร์และพื้นที่โดยรอบกว่า 1,000 ไร่ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านฉาง 500 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ของสนามกอล์ฟ 250 ไร่ ส่วนที่เหลือพัฒนาเป็นบ้านจัดสรรรอบสนามกอลฟ์จำนวน 5 โครงการ อีก 500 ไร่ตั้งอยู่พื้นที่รอบนอกใกล้กับโครงการอีสเทอร์นสตาร์ เช่น ถนนบูรพาพัฒน์ 100 ไร่เน้นการพัฒนาเป็นบ้านจัดสรร ที่ดินติดกับห้างงโรบินสัน 50 ไร่ และใกล้ห้างโลตัส บ้านฉางอีก 7 ไร่ ซึ่งที่ดิน 2แปลงนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุน โดยสนใจจะพัฒนาเป็นคอนมิเนียมโลว์ไรส์ในอนาคต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*