แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ฯเผยทำเลกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกยังแข่งเดือด โดยเฉพาะทำเลศาลายา-พุทธมณฑล โตต่อเนื่อง4-5% ชี้เทรนด์การอยู่อาศัยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงสัยและGen Y แนะผู้ประกอบการต้องพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ ยันปักหมุดผุดแนวราบทำเลพุทธมณฑล แบรนด์ ต่อเนื่อง ด้านเดอะ บาลานซ์ (ปิ่นเกล้า – สาย 5)ยอดขายพุ่งแล้ว75% พร้อมเปิดตัว 3-4 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ด้วยราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท คาดปิดขายภายในปี61นี้ และนอดขายแตะ 1,000ล้านบาทในปี62

 

 

นายชนะ เลิศลุมพลีพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จำกัด ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันตกกว่า 20 ปี เปิดเผยถึงภาพรวมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระยะ 1-2 ปี ที่ผ่านมา พบว่า ทำเลที่ดินกรุงเทพฝั่งตะวันตก โซนศาลายา-พุทธมณฑล มีความเจริญอย่างต่อเนื่องมาจากย่านปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ และถนนบรมราชชนนี กลายเป็นทำเลขยายของตลาดอยู่อาศัยแห่งใหม่ที่คนเมืองยุคใหม่ต้องการ เพราะมีระบบขนส่งมวลชนและการคมนาคมรองรับสะดวก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า ชานเมืองสายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน – ศาลายา) ซึ่งกำลังก่อสร้างช่วงแรก บางซื่อ-ตลิ่งชัน รวมถึงการเปิดใช้ทางด่วนตัดใหม่ศรีรัชวงแหวน ทำให้ผู้ที่ทำงานในตัวเมืองโซนพระนคร ปิ่นเกล้า จรัญสนิทวงศ์ หรือโซนสาทร สีลม จตุจักร ฯลฯ ให้ความสนใจมองหาที่อยู่อาศัยในย่านศาลายา-พุทธมณฑล มากขึ้น นอกจากนี้รอบพื้นที่ย่านศาลายา-พุทธมณฑล ยังมีไลฟ์สไตล์ใหม่มารองรับ ทั้งไลฟ์สไตล์ มอลล์ และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เซ็นทรัล ศาลายา เป็นต้น จึงเขื่อว่าอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ศาลายา-พุทธมณฑล จะมีอัตราการเติบโตประมาณ4-5% สอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5-7 % ปัจจุบันย่านดังกล่าวมีการแข่งขันที่สูง โดยเฉพาะราคา 3-4 ล้านบาท โครงการส่วนใหญ่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ละรายก็มีจุดยืนของตนเอง ซึ่งบริษัทก็เช่นกัน

 

 

สำหรับเทรนด์การอยู่อาศัยในปัจจุบันเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น และอนาคตผู้บริโภคกลุ่มใหญ่จะเป็นกลุ่ม Gen Y อายุตั้งแต่ 20-40 ปี ซึ่งจะเป็นครอบครัวใหม่ ที่มีขนาดเล็ก ดังนั้นจึงมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีขนาดเล็กลงแต่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีความเข้าใจในความต้องการดังกล่าวด้วย

 

อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบแบรนด์”เดอะ บาลานซ์” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว40-70 ไร่ ย่านพุทธมณฑล สาย5 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล ว่าจะพัฒนาในรูปแบบไหน ซึ่งอาจแบ่งเป็น 2 โครงการ คาดว่ามูลค่าโครงการจะมากกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเปิดตัวในปี2562 หรือ2563 จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

ส่วนความคืบหน้าโครงการเดอะ บาลานซ์ (ปิ่นเกล้า – สาย 5) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 45 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว ขนาด 52.5 ตารางวา ขนาดตั้งแต่ 36.7-42 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 3.39-4.99ล้านบาท มีจำนวนทั้งหมด 236 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท และเปิดขายไปเมื่อต้นปี 2560 ปรากฏว่าสามารถได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดย 10 เดือน สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 75%หรือประมาณ 120 ยูนิต ซึ่งรับรู้เป็นรายได้ในปี 2560 แล้ว ประมาณ 150 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 320 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในสิ้นปี 2561

 

 

“บริษัทมีเป้าหมายพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องภายใต้แบรนด์ใหม่ เดอะ บาลานซ์ (The Balanz) ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2558  และเพื่อผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนต่อเนื่องโดยตั้งเป้าหมายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2560-2562) บริษัทจะมีรายได้จากยอดขาย เดอะ บาลานซ์ แตะระดับ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ 250 ล้านบาท ในปี 2560 ที่ผ่านมา และประมาณการยอดรับรู้รายได้ในปี 2561 คิดเป็น 400 ล้านบาท และในปี 2562 อีก 450 ล้านบาท”นายชนะ กล่าว

 

ด้านนายปิติ เลิศลุมพลีพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ด้วยความเป็นผู้ประกอบการรายเล็กจึงสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตามสถานการณ์ และสามารถฝ่าฟันมาได้จนถึงปัจจุบัน โดยชูจุดยืนของบริษัทคือ ทุกโครงการจะก่อสร้างด้วยอิฐแดง ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันไปใช้ระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปกันมาก จึงเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ผู้บริโภคยังมีความต้องการรูปแบบการก่อสร้างดังกล่าวอยู่ โดยจะเป็นการสร้างก่อนขายอย่างต่องเนื่อง ไม่เร่งสร้างแต่อย่างใด แม้สภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ก็ไม่ประสบปัญหาในเรื่องการก่อสร้าง  ซึ่งบ้าน 1 หลัง ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 6 เดือน

 

ล่าสุดได้เตรียมจัดงานเปิดตัวโครงการเดอะ บาลานซ์ ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑลสาย 5 อย่างเป็นทางการในวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ด้วยราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท เฉพาะวันงานเท่านั้น พร้อมมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษให้กับลูกค้าที่จองในงาน ได้แก่ ฟรีเครื่องปรับอากาศ ฟรีค่าส่วนกลาง ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ โดยตั้งเป้าปิดการขายโครงการดังกล่าวได้ภายในปี2561 นี้

 

“แม้บริษัทฯจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กแต่มีสายป่านทางการเงินที่ดี จึงไม่มีปัญหาในการพัฒนาโครงการ โดยที่ผ่านมาไม่เคยกู้สินเชื่อโครงการจากสถาบันการเงินแต่อย่าง แต่2 ปีที่ผ่านมาได้ปรับแผนหันมากู้สินเชื่อโครงการบ้างประมาณ 20% เพื่อสร้างพันธมิตรทางการเงิน และเพิ่มทางเลือกในการกู้สินเชื่อรายย่อยให้กับลูกค้าโครงการด้วย โดยปี2561 ตั้งเป้ารับรู้รายได้ปี2561 ที่ 4,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 50%”นายปิติ กล่าวในที่สุด