แอสเซท ไฟว์ สานต่อความสำเร็จ เดินหน้าพัฒนาบ้านแนวราบลักชัวรีมูลค่ารวม 8,200 ล้านบาทภายในปี 2567-2568 ปีนี้เปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,350 ล้านบาท ปักหมุดทำเลศักยภาพกรุงเทพฯตะวันออก-ตก เจาะตลาดเรียลดีมานด์ ชูจุดเด่นบ้านทุกหลัง สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด A5 GREATNESS Inspired by Love หนุนรายได้ปี 2567 แตะ 2,500 ล้านบาท

 

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า หลังประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ามาโดยตลอด บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ภายในปี 2567-2568 จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 8,200 ล้านบาท บนทำเลกรุงเทพฯ โซนตะวันออกและตะวันตก เจาะกลุ่มลูกค้า Real Demand

โดยในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,350 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ VANA ราชพฤกษ์ – เวลต์วิลล์ โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 43 ยูนิต บนที่ดิน 17 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 1,700 ล้านบาท ติดห้างใหญ่ Central Westville และ The Crystal SB ราชพฤกษ์ เน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง  แหล่งไลฟ์สไตล์ และใกล้ชิดธรรมชาติ เปิดPre – Sale ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ช่วงไตรมาส 2นี้เป็นต้นไป

โครงการ CINQ ROYAL โซนบางนา-ตราด มูลค่าโครงการประมาณ 1,650 ล้านบาท เน้นความเป็นส่วนตัวเพียง 18 ยูนิต ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล และสนามกอล์ฟ คาดจะสามารถเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4นี้

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าจะสร้างการเติบโตของรายได้ปีนี้เพิ่มกว่า 70%  โดยมีเป้ายอดรับรู้รายได้ 2,500 ล้านบาท และเตรียมงบลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มมูลค่า 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ส่วนในปี 2568 บริษัทเตรียมแผนพัฒนาโครงการแนวราบเพิ่มจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,850 ล้านบาท โดยเน้นการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรี ภายใต้แบรนด์ VANA พร้อมกับบ้านหรูแบรนด์ใหม่ บนทำเลที่มีศักยภาพ เดินทางสะดวก เพื่อผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาทภายใน ปี 2569

ทั้งนี้ภาพรวมตลาดอสังหาฯระดับบนยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง แต่การแข่งขันมีความรุนแรงมากขึ้น บริษัทจึงมุ่งเน้นกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ โดยเน้นพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก ผ่านการวิจัยศึกษาตลาดและพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย มองหาโอกาสขยายโครงการไปในทำเลที่มีศักยภาพสูง เพื่อพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งบริหารจัดการต้นทุนที่ดิน และค่าก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร ผลักดันให้รายได้เติบโตตามเป้าหมาย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*