“ซีอาร์ซี ไทวัสดุ”  ในเครือเซ็นทรัล รีเทล   เจ้าของแบรนด์ไทวัสดุ,บีเอ็นบีโอม,ออโต้วัน,โก!ว้าว และวีฟิกซ์  ทุ่มงบลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาทเพื่อขยายสาขาใหม่เพิ่ม ปรับปรุงสาขาเดิม การรีแบรนด์ และพัฒนารูปแบบบริการในทุกแบรนด์ รองรับเป้าการเติบโตปีละ18%ในช่วง 5 ปีนับจากปีนี้ พร้อมขยายรูปแบบการขายสินค้าผ่านออนไลน์ ตั้งเป้าการเติบโตผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 150%ภายในปีนี้

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด บริษัทในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ธุรกิจจำนวนไม่น้อยต้องปิดตัวลง ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศได้รับผลกระทบโดยตรง   แต่ในส่วนของธุรกิจซีอาร์ซี ไทวัสดุยังคงเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยในปี 2564 บริษัทสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2563 พร้อมกับการขยายสาขาไทวัสดุ 5 สาขา และเปิดตัวธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ “โก! ว้าว” เพื่อรองรับเทรนด์ Home Convenience ของผู้บริโภคในอนาคต ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

“ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทได้วางแผนรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อตอบรับและตอบโจทย์กับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป  ขณะที่ความต้องการด้านซ่อมแซมและตกแต่งที่อยู่อาศัยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดยังคงมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหลายๆบริษัทปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Work from Home”

โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 2,000 ล้านบาทในการขยายสาขาใหม่ ทั้งในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัดรวม 5 สาขา โดยแต่ละสาขามีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 15,000 – 20,000 ตารางเมตร มีสินค้าจำหน่ายที่ครบครัน ครอบคลุมทั้งวัสดุก่อสร้าง และสินค้าเพื่อบ้าน  อุปกรณ์ไฟฟ้า  อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เครื่องมือช่าง ประปา สี กระเบื้อง อุปกรณ์เพื่อการเกษตร สุขภัณฑ์ห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครัว อุปกรณ์ครัว และของตกแต่งบ้าน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีบริการออกแบบจากทีมวีฟิกซ์ ทีมช่างมืออาชีพ ที่จะช่วยให้การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเป็นเรื่องง่าย และเพื่อการบริการที่ทั่วถึง  รวมทั้งยังมีบริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaiwatsadu.com ที่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมบริการไดรฟ์ทรู ยกของขึ้นรถให้และบริการส่งของให้ถึงที่

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทได้เป้าการเติบโตของธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำค้าปลีกออมนิชาแนลตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรในภูมิภาคเอเชีย พร้อมสานต่อยุทธศาสตร์ CRC Retailligence สร้างอัตราการเติบโตของธุรกิจในระยะ 10 ปี (2560-2569)

โดยในช่วง 5 ปี แรกตั้งเป้าอัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ 12% ส่วนใน 5 ปีข้างหน้า (2565-2569) คาดการณ์อัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ 18% และตั้งเป้าผลกำไรเพิ่มขึ้น 30% ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจใน 5 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย

Thriving การสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยการตั้งงบลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาทเพื่อขยายสาขาใหม่เพิ่ม ปรับปรุงสาขาเดิม การรีแบรนด์ และพัฒนารูปแบบบริการในทุกแบรนด์ (Multi-Brands) ครอบคลุมทั้งไทวัสดุ,บีเอ็นบีโฮม,ออโต้วัน,โก! ว้าว และหลากหลายในทุกฟอร์แมททั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ (Multi-Channels : Chat & Shop, Call & Shop, e-ordering, Direct Sales) ขยายประเภทและชนิดของสินค้าให้หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค

Seamless Omnichannel Shopping Experience ในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่เติบโตขึ้นกว่า 400% จากรายการสินค้ากว่า 70,000 รายการ โดยมียอดการเยี่ยมชมสินค้ากว่า 17 ล้านครั้งต่อเดือน มีลูกค้าจำนวน 2 ล้านรายต่อเดือน สามารถสร้างยอดขายกว่า 60,000 ออเดอร์ต่อเดือน

ดังนั้นในปี 2565นี้ บริษัทจะต่อยอดการช้อปปิ้งสินค้าผ่านช่องทางออมนิชาแนลแบบไร้รอยต่อ โดยตั้งเป้าการเติบโตผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 150% พร้อมเปิดตัวโมบายแอปพลิเคชัน ‘ไทวัสดุ’ ในเดือนพฤษภาคมนี้ และอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันบีเอ็นบี โฮม และออโต้วัน

Supply Chain & Logistics Expansion เน้นการปรับปรุงและขยายคลังสินค้าแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 160,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นกว่า 120% เพื่อรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ในอีก 5 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบโลจิสติกส์ ลงทุนขยาย fleet รถบรรทุกกว่า 25 % และเริ่มทดลองวิ่งรถบรรทุก EV Charge ในเดือนพฤษภาคมนี้ ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 30 คัน ในปี 2566 เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

New Market Penetration การลงทุนขยายธุรกิจใหม่ในกลุ่มฟาสต์ฟิตของแบรนด์ออโต้วัน โดยให้บริการตรวจสภาพรถฟรี 38 รายการ เช่น ฟรีเติมลมไนโตรเจน ฟรีปะยาง เร่งเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในสิ้นปี 2565 นี้จะเปิดสาขารวมทั้งสิ้น 30 สาขา พร้อมเปิดตัว Super App AUTO1 และ Line Connect (Live Chat) ให้บริการสั่งซื้อ จองคิวรับบริการ การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดระยะ รวมถึงแจ้งเหตุฉุกเฉิน

ส่วน “โก! ว้าว” ซึ่งเป็นธุรกิจน้องใหม่ ภายใต้แนวคิดของใช้ราคาเริ่มต้น 5 บาท ตอบรับกระแสสินค้า Home Convenience ครอบคลุมสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใช้ในชีวิตประจำวันกว่า 20,000 รายการ  ตั้งเป้าจะขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่จำนวน 70 สาขาขภายในสิ้นปี 2565นี้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*