ปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นครั้งใหญ่เมื่อปี 2558 จากกลุ่มตระกูลงามอัจฉริยะกุล มาเป็นกลุ่มนายภัทรภพ อิทธิสัญญากร และเปลี่ยนมาเป็นนายสันติ ปิยะทัต เมื่อปี 2561 ซึ่งได้เข้ามาปรับเปลี่ยนโครงสร้างงานบริหารทั้งหมดของบริษัทเค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนานถึง 40 ปี มีมูลค่าการลงทุนโครงการไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท

ล่าสุดกลุ่มเค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ ได้กลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในหมวดกลุ่มอสังหาฯและก่อสร้าง หลังจากหลักทรัพย์ KC ได้ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP มาตั้งแต่ปี 2560

นายสันติ  ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “KC” เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้เวลา4ปีในการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กรให้มีความโปร่งใสรวมทั้งสามารถสร้างฐานะทางการเงินให้กลับมามีความมั่นคงและล้างภาระขาดทุนสะสมได้หมดแล้ว โดยเฉพาะภาระหนี้กับสถาบันการเงินที่มีอยู่ถึง 200 ล้านบาทจนสามารถกลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง

ดังนั้นบริษัทได้วางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2565 โดยตั้งเป้ารายได้ 300 ล้านบาทเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 100% โดยมีแผนจะนำที่ดินที่มีอยู่บางส่วนมาพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ

รวมถึงการพัฒนาโครงการใหม่ในรูปแบบร่วมทุนหรือ Joint Venture กับเจ้าของที่ดิน โดยบริษัทจะรับผิดชอบในส่วนของงานก่อสร้าง แล้วแบ่งรายได้จากการโอนบ้านร่วมกันตามสัดส่วนการลงทุน ล่าสุดได้มีการเจรจาร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินไปแล้ว  3 ราย โดยวางแผนจะพัฒนาเป็นบ้านจัดสรรระดับพรีเมี่ยมราคา 20-50 ล้านจำนวน 3โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท

โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัวโคครงการแรกได้ในช่วงปลายปีนี้ในรูปแบบบ้านเดี่ยว 3ชั้นในย่านเสนานิคมหนือพระราม 2 ขนาดเนื้อที่ประมาณ 15-20 ไร่

นอกจากนี้บริษัทยยังมีโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการขาย 5 โครงการมีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ ประกอบด้วย  โครงการเค.ซี.เนเชอรัลวิลล์,โครงการเค.ซี.สุวินทวงศ์ 2,โครงการเค.ซี.คลัสเตอร์ นิมิตรใหม่,โครงการแพลทฟอรฺม ออร์คิด พาร์ค และอาคารพาณิชย์สูง3ชั้นพร้อมติดตั้งโซล่าร์ รูฟท็อป ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการเค.ซี.สุวินทวงศ์ 2

ขณะดียวกันบริษัทได้วางกลยุทธ์เพื่อแก้ไขและปรับปรุงจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ดียิ่งขึ้น เช่น การเพิ่ม Product line ใหม่ ในส่วนที่เป็นเชิงพาณิชย์ ประเดิมด้วยการเปิดตัวอาคารพาณิชย์ในโครงการ เค.ซี.สุวินทวงศ์ 2 รองรับกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจออนไลน์

นอกจากนี้ยังได้เพิ่มกลยุทธ์ด้าน Process เพื่อแก้ปัญหาของความล่าช้าที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงานพร้อมปรับปรุงเป็นกระบวนการ FAST process เพื่อทำให้การทำงานรวดเร็วและถูกต้องมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มกลยุทธ์ด้านธุรกิจใหม่ด้านงานบริการ เพื่อให้บริการด้านงานซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติม โดยมีบริษัทในเครือ คือ บริษัทโมเดิร์น สตรีท จำกัด รับผิดชอบงานในส่วนนี้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*