เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 2 ชุด อายุ 3 ปีและ 4 ปี ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดจะเสนอขายระหว่างวันที่ 13 – 14 และ 17 กรกฎาคมนี้  นำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้คืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและเป็นเงินทุนหมุนเวียน

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี และชุดที่ 2 อายุ 4 ปี โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารทหารไทยธนชาต โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง

ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้คืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการของบริษัทต่อไป  ซึ่งผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้จากบริษัททริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”

สำหรับผลการดำเนินงานโดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 4,922 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 29% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2566 นี้บริษัทตั้งเป้ารายได้และยอดขาย 25,000 ล้านบาท และ 30,000 ล้านบาท ตามลำดับ และมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 75% และคอนโด 25% นอกจากนี้ยังมีการเปิด 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ “95E1” โครงการบ้านเดี่ยวระดับ 100 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม “COBE” ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ส่วนธุรกิจใหม่ที่เน้นการสร้างรายได้จากค่าเช่าและบริการ บริษัทได้เปิดโรงแรมแห่งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ใช้ชื่อโครงการว่า Yanh Ratchawat จำนวน 79 ห้อง มีอัตราเข้าพักสูงถึง 48% และยังมีแผนเปิดโรงแรมเพิ่มเติมในช่วงปี 2568-2569  อีก 2 แห่งคือที่สุขุมวิทและพัทยา ส่วนของคลังสินค้าให้เช่า มีแผนจะเปิดโครงการแห่งแรกที่นครสวรรค์ ในไตรมาส 1 ของปี 2567 และแห่งที่ 2 ที่สมุทรปราการและอยู่ระหว่างจัดหาเพิ่มอีก 3 – 4 แห่งในปี 2566 พื้นที่เช่ารวมกว่า 130,000 ตารางเมตร โดยบริษัทคาดว่าปี 2566 นี้ จะสามารถทำผลการดำเนินงานได้ตามเป้าหมายและรวมถึงสามารถขยายธุรกิจใหม่ได้ตามแผนเช่นกัน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*