เจ้าพระยามหานคร  เตรียมเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์mai ไตรมาส4/61  โดยมีบลจ.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นที่ปรึกษา หวังนำเงินซื้อที่ดิน ผุดโครงการใหม่ สร้างความแกร่งทางการเงิน ระบุมีโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน 25 โครงการ มูลค่าคงเหลือกว่า 3,800 ล้านบาท ตั้งเป้า 3 ปีเปิด 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

 

 

นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในการเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในไตรมาส 4 ของปี 2561 นี้ เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย  ซึ่งในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงมาโดยตลอด โดยบริษัทฯมีรายได้รวม 1,525 ล้านบาทในปี 2560 , 2,091 ล้านบาท ในปี 2559 และ1,419 ล้านบาท ในปี 2558 โดยมีกำไรขั้นต้น 634 ล้านบาทในปี 2560, 879 ล้านบาท ในปี 2559 และ 558 ล้านบาทในปี 2558 และมีกำไรสุทธิ 127 ล้านบาท ในปี 2560 , 156 ล้านบาท ในปี 2559 และ 47 ล้านบาทในปี 2558 ตามลำดับ

 

ขณะนี้ CMC มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนที่ชำระแล้ว 750 ล้านบาท และมีแผนจะระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 250,000,000 หุ้น (พาร์ 1 บาท/หุ้น) หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เสนอขายต่อนักลงทุน ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปซื้อที่ดิน และใช้ในการลงทุนโครงการใหม่ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน จากปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ประมาณ 2 เท่าให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างต่อเนื่อง

 

ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งสร้างเสร็จพร้อมโอน 25 โครงการ มูลค่าคงเหลือกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งสามารถโอนรับรู้รายได้ได้ทันทีและมีโครงการระหว่างก่อสร้างอีก 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ 1 โครงการ และจะแล้วเสร็จในปี 2562 จำนวน 2 โครงการ คาดว่าโครงการเหล่านี้จะสร้างผลกำไรและการเติบโตให้แก่บริษัทฯอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีโครงการที่จะพัฒนาเพิ่มเติมตามแผนปัจจุบันอีกทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

 

ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CMC Group กล่าวว่า  มั่นใจว่าหุ้นไอพีโอของ CMC จะได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯมีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง คณะผู้บริหารมีประสบการณ์ความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วมาร่วม 24 ปี และมีแผนการรับรู้รายได้จากการดำเนินธุรกิจที่ดี ซึ่งการเข้าจดทะเบียนของ CMC ในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนด้านการเงินของบริษัทฯลงและทำให้ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งขึ้น และจะเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่พร้อมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุนได้อย่างแน่นอน