ก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 63 สำหรับกลุ่มซีคอน ผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้านในไทย ที่ได้เปิดตัวบริษัทขึ้นเมื่อปี 2504 โดยการรวมตัวของนักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง นำโดยนายวิชัย ซอโสตถิกุล ก่อนจะมอบหมายให้นายกอบชัย ซอโสตถิกุล บุตรชายที่สำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมโยธาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งขณะนั้นทำงานอยู่กับบริษัทออกแบบก่อสร้างของสหรัฐอเมริกา เข้ามารับผิดชอบบริหารงานในบริษัท มีผลทำให้บริษัทได้มีโอกาสเข้าไปรับผิดชอบการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญหลายๆ โครงการ

โดยผลงานแรก คือ โครงการออกแบบก่อสร้างตลาดและตึกแถวขนาด 200 คูหาย่านตลาดมหานาค หลังจากนั้นก็ได้มีการก่อสร้างในหลายโครงการ พร้อมกับได้คิดค้นและพัฒนา “ระบบซีคอน” ที่ทำให้สามารถสร้างอาคารที่แข็งแรงทนทาน ประหยัดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการก่อสร้าง ผลงานแรกที่ใช้การก่อสร้างระบบซีคอน ได้แก่ โครงการสร้างตึกแถวบริเวณถนนพระราม 4 และถนนบรรทัดทองของบริษัท วังใหม่ จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้บริษัทได้รับงานก่อสร้างศูนย์การค้าสยามสแควร์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย ณ ขณะนั้น ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ 3 โรง ลานโบว์ลิ่ง 1 แห่ง และตึกแถวประมาณ 550 คูหา รวมทั้งได้ร่วมมือกับบริษัทสี่พระยาก่อสร้าง จำกัด สร้างโรงแรมสยามอินเตอร์คอนติแนนตัล

ต่อมาในปี  2509 บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัทอเมริกาแห่งหนึ่งจัดสร้าง “หมู่บ้านมิตรภาพ” ออกแบบเป็นบ้านเดี่ยว ประมาณ 800 ยูนิตให้ประชาชนเช่าซื้อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระคืน 20 ปี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทยมีบ้านเป็นของตนเอง โดยการค้ำประกันเงินกู้ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อนำเงินกู้มาให้ประชาชนกู้ยืมสำหรับนำไปซื้อบ้าน

สำหรับในปี 2567 นอกจากโรงงานผลิตโครงสร้างชิ้นส่วนเสา–คานกึ่งสำเร็จรูประบบซีคอนแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ลำลูกกาคลอง 12 ได้สร้างเสร็จเรียบร้อย และมีกำลังการผลิตสูงถึง 1.2 แสนชิ้นต่อปี หรือ 700-800 หลัง เพื่อรองรับการขยายตัว และการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างรวดเร็วแบบ “Fast Forward” แล้ว นายกอบชัย ซอโสตถิกุล ได้มอบเจตนารมย์และวิสัยทัศน์แห่งผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านสู่ 2 ผู้บริหารรุ่นที่ 3 คือ นายไปรเทพ ซอโสตถิกุล ประธานกรรมการบริหาร และนายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ เพื่อสานต่อการพัฒนานวัตกรรม และบริการรับสร้างบ้านในไทยให้ก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

เริ่มจากการจัดแคมเปญพิเศษ “ซีคอน…ส่งต่อด้วยใจ” โดยได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาและมิวสิค วิดีโอ เพื่อคงความเชื่อมั่น และยอมรับต่อแบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน ภายใต้กลยุทธ์ Music marketing ที่นำ “เสียงเพลงและดนตรี” มาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อตอกย้ำ brand loyalty และสร้าง brand awareness แก่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ด้วยการร่วมกับ “บอย โกสิยพงษ์” นักแต่งเพลง นักร้อง และโปรดิวเซอร์ชื่อดังของไทย นำบทเพลง LIVE and LEARN มา rearrange ใหม่

โดยได้รับเกียรติจาก “ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” นักร้องมากความสามารถมาถ่ายทอดอารมณ์เพลง LIVE and LEARN ในแนวดนตรีดรัมแอนด์เบส เวอร์ชั่นพิเศษของซีคอน ร่วมกับ”กลม เดอะวอยซ์-อรวี พินิจสารภิรมย์” เพื่อถ่ายทอดเส้นทางและเรื่องราวตลอด 63 ปีในธุรกิจของซีคอน ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาศักยภาพ และบริการพร้อมค้นหา solution ใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคในทุกยุคด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง

“เหตุผลที่ ซีคอน เลือกบทเพลง LIVE and LEARN มาใช้ในแคมเปญนี้ เพราะเนื้อหาของบทเพลงนี้มีความหมายที่ดี สามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้สอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารออกไปได้ชัดเจน  สำหรับคนๆ หนึ่งที่ได้เดินทางหรือบริหารธุรกิจมานานถึง 63 ปีและสืบทอดไปสู่คนรุ่นถัดไป แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปคือ ปณิธานและความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในแบบ customer centric ที่เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ยั่งยืนจากปัจจุบันสู่อนาคต”  นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กล่าวพร้อมกับบอกว่า ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจของซีคอนในไตรมาสแรกของปี 2567 บริษัทมีมูลค่ายอดจองสร้างบ้านเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 15% และเชื่อว่าในไตรมาส 2 ของปีนี้ ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านจะเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะได้รับปัจจัยเสริมจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ  ที่ได้ลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน สูงสุด 100,000 บาท นาน 2 ปี  เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*