ศุภาลัยจับมือพันธมิตรธุรกิจผู้นำนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างกลุ่มทีโอเอ เพ้นท์ ผุดโปรเจกต์ “ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” นำร่อง 2 โครงการคอนโดมิเนียม และเลือกใช้ “สีรักษ์โลก รุ่น Expert” สำหรับบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัย ตั้งเป้าปี’67 เดินหน้าเพิ่ม 23 โครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดฯในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เพื่อพิชิตการเป็นองค์กร Zero Waste


นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
 เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา บริษัทเน้นย้ำการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มีความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG  โดยมีการตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual)  ด้วยการการคัดสรรวัสดุก่อสร้างที่เน้นประหยัดพลังงาน  ลดความร้อน  ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้น้ำ รวมถึงการบริหารจัดการขยะและวัสดุเหลือใช้ในงานก่อสร้าง (Waste Management) ให้เหลือน้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์  โดยสามารถนำเศษวัสดุก่อสร้างมาต่อยอดให้เกิดมูลค่าและประโยชน์สูงสุด

โดยบริษัทได้มีการหารือและร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจวัสดุก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนากระบวนการก่อสร้าง พร้อมการวางแผนจัดการที่ดีทั้งในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัยเพื่อนำมาใช้ภายในโครงการที่อยู่อาศัยของศุภาลัย พร้อมการันตีคุณภาพการก่อสร้าง

นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัททีโอเอ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาโปรเจกต์“ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” นำร่อง 2 โครงการคอนโดมิเนียม ด้วยการนำเศษฝ้าที่เหลือใช้จากงานก่อสร้างหน้างาน นำมาผ่านกระบวนการใหม่ที่ได้คุณภาพมาตรฐานดีเหมือนเดิม  และช่วยลดวัสดุเหลือใช้   รวมทั้งนวัตกรรมสีรักษ์โลก รุ่น Expert ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกจากการลดการใช้สีรองพื้น สำหรับโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัย

โดยทั้งสองนวัตกรรมสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 332,179 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ชดเชยการปลูกต้นสักได้ถึง 19,313 ต้น ภายใน 1 ปี ลดการใช้น้ำได้ถึง 98,347 ลิตรต่อปี โดยตั้งเป้าหมายใช้นวัตกรรมฝ้ายิปซัม รักษ์โลกอีก 23 โครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมภายในปี 2567 

“ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสีรองพื้นและสีทับหน้ารูปแบบใหม่ Direct to Metal  ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานสีรวมได้กว่า 10 ชั่วโมง จากรอบการทาและรอบรอสีแห้งที่ลดลง เมื่อเทียบกับสีรูปแบบเดิมโดยยังคงประสิทธิภาพสีเท่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการพัฒนานวัตกรรมในการก่อสร้างที่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอีกมากมาย เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม”

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัททีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีตลอดระยะเวลา 60 ปีบริษัทมีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญในเรื่องสุขอนามัยของผู้บริโภคและใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้ผลิตสีรายแรกในประเทศไทยที่ยกเลิกการใช้สารโลหะหนัก ปรอท ตะกั่ว ในสีทาอาคารได้สำเร็จตั้งแต่ปี 2520  พร้อมตั้งเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งพัฒนาสู่การเป็นองค์กรยั่งยืน (SDGs) ตามแนวทาง ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จึงได้ประกาศนโยบาย Green Mission เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2593 ตามโรดแมปอย่างเป็นรูปธรรม

ล่าสุดได้จับมือกับพันธมิตรองค์กรสีเขียวอย่าง “ศุภาลัย” ที่ให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการของเสียให้เป็นศูนย์  เพื่อช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  ผลักดันจนเกิดเป็นโปรเจกต์  “ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” ที่มีแนวคิดมาจากการพยายามลดเศษวัสดุฝ้าเหลือใช้ที่จะกลายเป็นของเสียในโครงการก่อสร้างต่างๆ นำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด

โดยได้เริ่มนำร่องไปแล้วกับ 2 โครงการคอนโดมิเนียม  คือ ‘ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ และซิตี้โฮม สนามบินน้ำ – รัตนาธิเบศร์’  ที่สามารถนำเศษวัสดุฝ้าจากหน้างานมาเข้ากระบวนการใหม่ได้ถึง 13.26% ทำให้ช่วยลดของเสียได้กว่า 10% และช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 2.50 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตารางเมตร

นอกจากนี้ ศุภาลัยยังได้ใช้นวัตกรรม “สีรักษ์โลก รุ่น Expert” ซึ่งเป็นนวัตกรรมสีทับหน้ารวมรองพื้นไว้ในกระป๋องเดียว สามารถทาง่ายเพียง 2 เที่ยว ไม่ต้องทารองพื้น ช่วยประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทำงานให้กับผู้ใช้งาน ที่สำคัญยังช่วยประหยัดการใช้น้ำได้มาก อาทิ การทาสี รุ่น Expert ในพื้นที่บ้านเดี่ยว 150 ตารางเมตร. ที่มีพื้นที่ฝ้า 450 ตารางเมตร. จะช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 78.70 ลิตรต่อหลัง และหากเทียบกับสีระบบเดิมที่ศุภาลัยใช้ จะช่วยลดการใช้น้ำได้ถึง 98,347 ลิตรต่อปี อีกทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ทาสีรองพื้นได้ถึง 2,297 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*