3 นายกสมาคมอสังหาฯ เปิดมุมมองภาพรวมอสังหาฯปี62 โดยตลาดแนวราบพบความต้องการที่อยู่อาศัยยังมี แต่ความสามารถในการซื้อลดลง ครึ่งปีแรกโครงการใหม่เปิดตัวลดลง 35% ผู้ประกอบการปรับตัวขายบ้านสั่งสร้าง ส่วนตลาดคอนโดฯครึ่งปีแรกลดลงไม่มากนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ3-4%  คาดหลังการเมืองนิ่งมั่นใจตลาดฟื้นตัว
นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดแนวราบในปี 2562 ว่า ยังผันผวนไปตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยกลับไม่ลดลง จากการสำรวจพบว่ายังมีการค้นหาที่อยู่อาศัยทางช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยกลับลดลง ดังนั้นผู้ที่ยังมีกำลังซื้อควรที่จะถือเป็นโอกาสที่ดีในการมองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่ไม่แพงในช่วงครึ่งปีหลังนี้  ในด้านผู้ประกอบการอสังหาฯในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 35% และผู้ประกอบการหลายรายได้มีการปรับตัวด้วยการลดสต๊อกบ้านลง จากเดิมที่สร้างบ้านพร้อมขาย มาเป็นบ้านสั่งสร้างมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีความพร้อมจะซื้อบ้านอาจจะใช้ระยะเวลาในการรอระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันผู้ที่พร้อมจะซื้อบ้านทันที คิดว่าสถาบันการเงินก็พร้อมที่จะอนุมัติ

 

ส่วนมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(Loan to Value: LTV)สำหรับผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง จะไม่มีผลกระทบสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก ส่วนผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่สองก็ถือเป็นเรื่องปกติ  เพราะไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไรแต่อย่างใดดังนั้นจึงอยากให้ผู้ที่สนใจซื้อบ้านแนวราบช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี

 

ปัจจุบันนี้สภาวะเศรษฐกิจยังผันผวน ผู้ประกอบการก็มีการปรับตัว หันไปทำบ้านที่ขายไปสร้างไปมากขึ้น ส่วนผู้ซื้อก็มีเวลาตรวจสอบคุณภาพสินค้าได้มากขึ้นเช่นกันนายวสันต์กล่าว

ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังผันผวน ทุกธุรกิจยังประสบปัญหากันแทบทั้งสิ้น ยิ่งในช่วงนี้ที่มีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ประเทศไทยก็ยังไม่มีผลกระทบมากนัก  เพราะยังมีเงินคงคลังที่มาก เมื่อเทียบกับประเทศที่กำลังพัฒนาด้วยกัน  ส่วนภาพรวมตลาดอาคารชุดในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมายอดขายลดลงกว่า10% เมื่อนำมาหักลบกับในช่วงไตรมาส ที่ผ่านมาที่มีเพิ่ม 10% ก็ถือว่าโดยรวมแล้วในครึ่งปีแรกลดลงไม่มากนักจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ3-4%

 

ขณะเดียวกันในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก คิดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ไม่น่าจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดมากนัก ขณะที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงต้องมีการพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 

สำหรับในครึ่งปีหลังเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว คาดการณ์ว่าภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯจะดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งในเฟสแรกรัฐบาลได้มีการอนุมัติงบประมาณด้านอุปโภคไปแล้วกว่า 300,000 ล้านบาท  ส่วนเฟส 2 นั้นจะต้องมีการผลักดันการส่งออกให้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านแถบประเทศกัมพูชา,สปป.ลาว,เมียนมาและเวียดนาม(CLMV) ดังนั้นเชื่อว่าภาพรวมปี 2562 น่าจะอยู่ในระดับที่ทรงตัวบวกลบ 10%

 

การเมืองในประเทศหากไม่มีเสถียรภาพ ก็จะทำอะไรไม่คล่องตัว แต่ถ้าการเมืองดี ทุกอย่างก็เป็นตัวชี้นำคุณภาพชีวิตให้สบาย หรือลำบากดร.อาภากล่าว

ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ตลาดภูมิภาคแม้จะยังชะลอตัวแต่ก็ยังมียอดขายที่ดี โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับความต้องการ และกำลังซื้อของดีมานด์ส่วนตลาดอาคารสำนักงานยังไปได้ดี สังเกตจากทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือรีท(REIT: REAL ESTATE INVESTMENT TRUST)ราคาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และในช่วงนี้หากผู้ประกอบการรายใดคิดจะพัฒนาอาคารสำนักงานใหม่คงเหนื่อย เพราะอนาคตจะมีอาคารสำนักงานเพิ่มเข้ามาในตลาดอีกกว่า 100,000 ตารางเมตร ส่วนอาคารสำนักงานเก่า ก็คงต้องมีการปรับปรุง เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่สูงขึ้น

 

สำหรับตลาดโรงแรมก็ยังดีอยู่ ส่วนตลาดคอนโดฯจะมีโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเลเท่านั้น  ในขณะที่ตลาดนิคมอุตสาหกรรม ยังขายดีอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ราคาขายไม่เคยลดลงแต่อย่างใด เพราะมีนักลงทุนจากจีนเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง

 

พฤติกรรมผู้บริโภคคงไม่เปลี่ยนมาก แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามามาก จะทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมากกว่า  และหลายโครงการที่เจาะลูกค้า Gen Y มากขึ้น และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในการใช้งานที่มากขึ้น  แต่ขนาดต่อยูนิตคงไม่ลดพื้นที่ใช้สอยไปมากกว่าในปัจจุบันแล้ว ขณะเดียวกันที่ดินในการพัฒนาก็หาได้ยาก เพราะมีราคาที่สูงขึ้น โดยรวมแล้วก็คิดว่าภาพรวมตลาดยังไม่เลวร้ายมากนักนายพรนริศ กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*