เอพีฯปลื้ม โควิด-19 ช่วยดันยอดขายเดือนเม.ย.-พ.ค สูง 6,255 ล้านบาท โตกว่า 43% เผยทำเลแนวรถไฟฟ้าMRTอโศก-เพชรบุรี ช่วงปี62-ไตรมาส1/63 ยังไม่มีคอนโดฯเปิดตัวใหม่ เหตุที่ดินมีศักยภาพเริ่มหายาก ล่าสุดเปิดตัว “THE FUTURE OF LONGEVITY DESIGN” แนวคิดใหม่ในการออกแบบพื้นที่และการบริหารจัดการเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกัน นำร่อง “LIFE อโศก-พระราม 9” ระบุยอดขายพุ่งแล้ว 95%  มั่นใจไม่มีปัญหาการโอนจากลูกค้าต่างชาติ ตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปีแตะ 33,500 ล้านบาท  รับรู้รายได้ที่ 40,500 ล้านบาท
นายวิทการ จันทวิมล

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท  เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน)หรือ AP เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 แพร่ระบาด ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ซึ่งในธุรกิจอสังหาฯนั้นมองว่าในช่วงเดือนมกราคม 2563 มองว่าเป็นปีที่เผชิญปัจจัยลบมากอยู่แล้ว แต่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ต้องประสบปัญหากับโควิด-19 อีก ก็ยิ่งซ้ำเติมธุรกิจมากขึ้น ส่งผลให้ในช่วงรอยต่อไตรมาส1-2 ซึ่งเป็นช่วงที่ความอารมณ์และความรู้สึกของผู้บริโภคแย่ลง  ส่งผลให้ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ต้นเดือนเมษายน 2563 มีผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการเพียง 720 คน/สัปดาห์ ดังนั้นผู้ประกอบการต่างต้องวางแผนการตลาดที่หนักมากขึ้น และเป็นช่วงที่ต้องทำงานอยู่กับบ้าน (Work From Home :WFH) ที่ถือเป็นความท้าทาย เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้เดิมในช่วงไตรมาส2 จะเป็นไตรมาสที่ทำยอดขายได้ต่ำที่สุดของปี แต่ปรากฏว่าในช่วงกลางเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมาอารมณ์ของผู้บริโภคเริ่มกลับมา และทำให้ยอดขายของบริษัทดีขึ้นสูงถึง 6,255 ล้านบาท โตกว่า 43% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ทำยอดขายได้ 4,380 ล้านบาท โดยไตรมาส2 ถือเป็นความท้าทายของทุกภาคส่วน และในวิกฤติต่างๆย่อมมีโอกาส อีกทั้งยังเชื่อว่าอสังหาฯยังมีความปลอดภัยและมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันดอกเบี้ยเงินฝากก็อยู่ในอัตราที่ต่ำมาก จึงมั่นใจว่าจะนำสิ่งเหล่านี้มาต่อยอดการลงทุนในไตรมาสที่ 2 ต่อไปได้

โดยในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม บริษัทฯได้มีการศึกษาข้อมูลและพฤติกรรมของผู้บริโภค ในช่วง WFH พบว่าแต่ละคนมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในที่อยู่อาศัยอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถทำให้บริษัทนำมาต่อยอดกับการทำงานได้  และพบใน 3 เรื่องหลักที่จะนำมาปรับในการออกแบบและส่งมอบพื้นที่ใหม่ๆให้กับลูกค้าในอนาคต เพื่อสามารถใช้พื้นที่ได้มีประสิทธิภาพได้สูงขึ้นได้แก่

1.ความหนาแน่น (Density) การจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการกับปริมาณการเข้าใช้งานในสเปซนั้นๆ

2.สุขภาพร่างกาย (Health) ความปรารถนาที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่ดี

3.ทางเลือกด้านเทคโนโลยี (Technology) การมองหาเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย ซึ่งทั้งหมดถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายยิ่งในการสร้างความมั่นใจ และทำให้สามารถใช้ชีวิตช่วงระหว่างและหลังวิกฤตได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีความสุข โดยไม่สร้างภาระการดูแลและค่าใช้จ่ายในอนาคต

นายวิทการ กล่าวต่อถึงภาพรวม ตลาดคอนโดฯในทำเลแนวรถไฟฟ้า MRTพระราม9 ถึง MRT เพชรบุรี ว่า ตั้งแต่ปี 2555-ไตรมาส1/2563 ที่ผ่านมามีคอนโดฯเปิดตัวทั้งหมด 16 โครงการ จำนวน  13,173 ยูนิต ปัจจุบันปิดการขายไปแล้ว 97% และมีเหลือขายประมาณ 395 ยูนิต อีกทั้งพบว่าในช่วงปี 2562-ไตรมาส1/2563 ยังไม่มีโครงการใหม่เปิดตัวในทำเลดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ปัจจัยใหญ่หลักคือที่ดินที่มีศักยภาพเริ่มหาได้ยากแล้ว

ทั้งนี้ปัจจัยในการเลือกซื้อของลูกค้าคือ ทำเล และราคาจะมาเป็นลำดับแรกๆ และที่เหลือจะเป็นความท้าทายในองค์กร เพื่อให้ราคาขายต่อสู้กับในตลาดได้ เพราะปัจจุบันราคาที่ดินสูงขึ้น 55-60% ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ในขณะที่ค่าก่อสร้างยังสามารถควบคุมได้ เพราะมีอำนาจในการต่อรองราคา ทำให้มีต้นทุนที่ถูกกว่า

ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวTHE FUTURE OF LONGEVITY DESIGN” แนวคิดใหม่ในการออกแบบพื้นที่และการบริหารจัดการเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันในวิถีใหม่อย่างยั่งยืนโดยนำร่องใช้ที่โครงการ LIFE อโศก-พระราม 9” เป็นแห่งแรก ประกอบด้วย 4 แนวทาง ได้แก่

1.The Next-Level of Sharing Space การนำเสนอทฤษฎีใหม่ “Human x Social Distancing Scale” ที่ใช้หลักการของการออกแบบสัดส่วนมนุษย์ กับการเว้นระยะห่างทางสังคมในพื้นที่ส่วนกลางที่มีระยะห่างตั้งแต่ 1.20-3.00 เมตร เพื่อลดความหนาแน่นในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ เช่น Lobby, Co-working Space, Fitness และ Lounge เป็นต้น

2.Clean Air Quality ใช้หลักการออกแบบระบบระบายอากาศ (Ventilation Design) เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายใน ตลอดจนและการพัฒนานวัตกรรมและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เอื้อให้เกิดอากาศที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับการคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน และการบำรุงรักษาในระยะยาว

3.Trustable Society ยกระดับมาตรฐานการทำงานของทีมบริหารจัดการจาก บริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SMART) พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ ในเครือเอพี เพื่อสร้างสังคมแห่งการเชื่อใจ อุ่นใจในทุกพื้นที่อยู่อาศัย ด้วยการวางแผนบริหารจัดการให้ทุกพื้นที่ห่างไกลเชื้อโรค พร้อมเป็นผู้ช่วยในการช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านในการเข้าใช้ Facilities ต่างๆ ภายในโครงการ นอกเหนือจากการเข้มงวดด้านความสะอาดที่ยึดเป็นพื้นฐาน

4.Tech-Life Management การนำ SMART WORLD ดิจิตอลแพลตฟอร์มบริหารคุณภาพชีวิตหลังการเข้าอยู่อาศัยเข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย

“ถือเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยก็ว่าได้กับการนำเสนอแนวคิดการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการจัดการพื้นที่ส่วนกลางในวิถีใหม่ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการหลังการเข้าอยู่อาศัย ซึ่งสุดท้ายแล้ว เชื่อว่ามนุษย์ยังคงต้องการ Socialization หรือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ซึ่งการปรับดีไซน์ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเชื่อมั่นและความอุ่นใจในการอยู่อาศัยของลูกค้าอย่างแน่นอน” นายวิทการ กล่าว

โครงการ “LIFE อโศก – พระราม 9” ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างเอพีฯ และพันธมิตรญี่ปุ่น มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 8 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ จำนวน 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ (ทาวเวอร์ A สูง 42 ชั้น และทาวเวอร์ B สูง 46 ชั้น)พื้นที่ใช้สอย 25-58 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 3.1-8  ล้านบาท หรือเริ่ม 125,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 2,248 ยูนิต และมีมูลค่าโครงการมากถึง 9,800 ล้านบาท  โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 7.5 ไร่ ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 95%  โดยมีลูกค้าต่างชาติ 20-25% และในช่วงนี้มีลูกค้าต่างชาติแสดงความจำนงที่จะเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์เป็นจำนวนมาก บริษัทฯจึงมีความมั่นใจว่าสามารถที่จะโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถทำยอดขายได้ 12,300 ล้านบาท คิดเป็น 40% จากเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 33,500 ล้านบาท  และตั้งเป้ารับรู้รายได้ (รวม 100% โครงการร่วมทุน) ที่ 40,500 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*