ณวรางค์ แอสเซทฯเผยแผนปี64 สนขยายฐานผุดบ้านเดี่ยว ระดับกลางโซนเหนือกทม. ทั้งสนใจร่วมทุนพันธมิตรใหม่โครงการต่อเนื่อง อนาคตเล็งนำคอมมูนิตี้มอลล์ “เดอะ ปอร์ติโก หลังสวน” รีโนเวทใหม่ ด้าน“ณ รีวา เจริญนคร” ยอดขายคืบหน้าแล้วกว่า 30% ระบุพันธมิตรมาเลย์ฯไม่ถอดใจ พร้อมเดินหน้าลุย คาดปลายปี63 ยอดขายแตะ 50%
นายองคฤทธิ์ พรหมโยธี
นายองคฤทธิ์ พรหมโยธี ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด เปิดเผย ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปี 2564 ว่า มีแผนที่จะรุกตลาดแนวราบย่านชานเมืองมากขึ้น โดยเริ่มจากการพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับกลาง แบรนด์ใหม่ ในโซนเหนือของกรุงเทพฯ รวมไปถึงการศึกษาข้อมูลในการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติเพื่อพัฒนาโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบ ซึ่งขณะนี้มีการเจรจาแล้วหลายราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนจากประเทศในเอเชีย แต่ยังไม่มีความชัดเจน และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สำหรับที่ดินสะสมของบริษัทฯทำเลย่านหลังสวนอีกประมาณ 1 ไร่เศษ ซึ่งปัจจุบันที่ตั้งโครงการ “เดอะ ปอร์ติโก หลังสวน” ที่พัฒนาโดยบริษัท ปอร์ติโก พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในรูปแบบของคอมมูนิตี้มอลล์ สูง 5 ชั้น เป็นพื้นที่เช่าประมาณ 3,500 ตารางเมตร  รวมถึงที่เป็นที่ตั้งสำนักงานของกลุ่มณวรางค์ แอสเซทฯด้วย ซึ่งมีแผนที่จะนำมารีโนเวทใหม่ แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “ณ รีวา เจริญนคร” ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ กลุ่มพาราเมาท์ คอร์ปอเรชัน เบอร์ฮาด(Paramount Corporation Berhad) จากประเทศมาเลเซีย  ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม สูง 29 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 32.50-60 ตารางเมตร ราคาตั้งแต่ 2.9 ล้านบาทขึ้นไป ราคาเฉลี่ยที่ 112,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 253 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2564 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 30% และตามแผนเดิมตั้งเป้าจะปิดยอดขาย 50% ในปลายปี 2563

“การที่เราสนใจเข้ามาพัฒนาโครงการในทำเลเจริญนคร เพราะมองว่าเมืองมีการขยายตัวมาทางโซนนี้ ผู้ประกอบการหลายรายรุกมาพัฒนาโครงการย่านนี้กันมากขึ้น โดยการแข่งขันมีทุกรูปแบบ แม้ว่าจะมีซัพพลายใหม่ๆเกิดขึ้นมาก แต่เรามั่นใจว่าโครงการของเรามีความต่างทั้งในเรื่องราคา ขนาดพื้นที่ใช้สอย และสินค้า โดยยอดขายกว่า 30% ที่ทำได้ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งทางพันธมิตรมาเลย์ก็มีความเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี และพร้อมที่จะเดินหน้าการร่วมทุนอย่างต่อเนื่อง” นายองคฤทธิ์ กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*