บิ๊กอสังหาฯแห่แย่งเค้กภูธร

คอลลิเออร์สฯเผยผู้ประกอบการรายใหญ่แห่ตบเท้าขยายฐานคอนโดฯตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง เพิ่มทางเลือกใหม่ดีมานด์ในพื้นที่   ด้านผู้ประกอบการรายเล็กแม้มีความได้เปรียบด้านข้อมูล-พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก แต่ต้องปรับคุณภาพสินค้า สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการหลังการขายเทียบชั้นรายใหญ่

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางยังคงเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่นอกพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง ในภาวะที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นช่วงขาลงของตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทย หลังจากที่ต้องเผชิญกับปัจจัยลบต่างๆ มากมายที่เข้ามากระทบในช่วงที่ผ่านมา  ซึ่งล่าสุดพบว่า บริษัท  ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ จํากัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN  เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ที่ จ.ระยอง จ.นครราชสีมา และ หาดใหญ่ จ.สงขลา  ภายใต้แบรนด์  Escent  Condominium ซึ่งสร้างความสงสัยไม่น้อย ว่าทำไมผู้ประกอบการ รายใหญ่อย่างบริษัท ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ จํากัด ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัดในช่วงนี้ ในภาวะที่ผู้ประกอบการแทบทุกรายประกาศเลื่อนการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ทั้งหมดออกไป ทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดในภาวะที่กำลังซื้อชะลอตัวอย่างชัดเจนทั้งในส่วนของกำลังซื้อภายในประเทศและกำลังซื้อต่างชาติ

ทั้งนี้จากการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางเข้าไปพัฒนาโครงการคอนโดฯในพื้นที่ต่างจังหวัด  พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดกลาง- ใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากการเปิดตัวจะได้รับความสนใจและการตอบรับมากกว่าผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่เป็นอย่างมาก ด้วยชื่อเสียงของบริษัท คุณภาพโครงการ การออกแบบ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งเมื่อโครงการเปิดตัวก็สามารถเรียกกระแสกำลังซื้อในพื้นที่ให้เกิดความสนใจขึ้น  ซึ่งหากมองในมุมของผู้ซื้อ แน่นอนว่ากลุ่มผู้ซื้อจะมีสินค้าที่ดีเข้ามาเป็นตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงว่า หลังจากซื้อไปแล้ว โครงการจะก่อสร้างเสร็จหรือไม่ จะออกมาเหมือนแบบไหม  คุณภาพการก่อสร้างจะเป็นอย่างไร หรือการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามกำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ซื้อได้อย่างแน่นอน ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาและชื่อเสียงของผู้ประกอบการรายใหญ่เหล่านั้น

“แต่หากมองในมุมของผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่แล้ว แน่นอนว่า เมื่อเค้กส่วนใหญ่ถูกช่วงชิงออกไปด้วยกลุ่มทุนรายใหญ่ๆ ที่มีความสามารถในการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ความเหน็ดเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นย่อมเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นอย่างแน่นอน ซึ่งต้องพยายามมากขึ้นที่จะสอดแทรกตัวเข้ามาเป็นทางเลือก ที่จะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งของเค้กให้ได้มากที่สุด แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกพื้นที่ที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปพัฒนา ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดกลาง-ใหญ่ ซึ่งบางโครงการมีห้องชุดขายหลักร้อยไปจนถึงหลักพันยูนิต” นายภัทรชัย กล่าว

แน่นอนว่าแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายเล็กในแต่ละพื้นที่ ที่พัฒนาเพียงแค่ไม่เกิน 100 ยูนิตต่อโครงการ หรือเป็นเพียงโครงการขนาดเล็ก- ขนาดกลางเท่านั้น เมื่อเค้กก้อนใหญ่ถูกช่วงชิงไปด้วยผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่งผลให้โครงการของผู้ประกอบการรายเล็กในท้องถิ่นหลายจังหวัด ไม่สามารถปิดการขายลงได้ และมักจะเหลือยูนิตที่รอการขายที่สร้างความกังวลใจกับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถเปิดตัวโครงการใหม่ได้หากโครงการที่เคยพัฒนาก่อนหน้าไม่สามารถปิดการขายลงได้

ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าทุกโครงการที่เข้าไปพัฒนาของผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางในพื้นที่ต่างจังหวัดจะสามารถปิดการขายได้ 100% หรือปิดการขายทั้งโครงการเช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก็พบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการในหลายจังหวัดที่ถึงแม้ว่าจะเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลาง ยังคงมีหน่วยเหลือขายอยู่ในตลาดจนถึงปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งบางโครงการผู้ประกอบการถึงขั้นยกเลิกการพัฒนา ขึ้นป้ายประกาศขายที่ดิน หรือแม้กระทั่งนำที่ดินโครงการไปพัฒนาเป็นโครงการรูปแบบอื่นๆ หากผู้ประกอบการวิเคราะห์ตลาดผิดพลาด หรือกำลังซื้อไม่ได้มีมากมายอย่างที่คิด จนเป็นเหตุให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดการณ์ไว้และยังคงมียูนิตเหลือขายมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามเมื่อธุรกิจก็คือธุรกิจการแข่งขันจำเป็นต้องเกิดขึ้น และผู้ที่แข่งแกร่งกว่าก็ย่อมเป็นผู้ชนะในที่สุด ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางจะมีความสามารถในการแข่งขันที่แทบจะสูงกว่าผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่แทบทุกด้าน แต่ด้วยความรู้ตลาดและรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มากกว่าของผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่ค่อนข้างคลุกคลีอยู่ในพื้นที่มากกว่า ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้โครงการของผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่สามารถช่วงชิงกำลังซื้อให้มาสนใจโครงการได้ ซึ่งแผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย มองว่า เพียงแต่ผู้ประกอบการในท้องถิ่นจะต้องพัฒนาในส่วนของคุณภาพการก่อสร้าง การออกแบบ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงการบริการหลังการขายให้มากขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้า เพื่อการเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับผู้บริโภคที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ เพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้ในภาวะที่ตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวอย่างเช่นปัจจุบัน