หลังจากกลุ่มโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ได้มีการลงนามสัญญาทางธุรกิจร่วมกันกับกลุ่มยู ซิตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนการถือหุ้นโครงการละ 50:50 เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกันทั้งคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์และโลว์ไรส์ บ้านแฝด และทาวน์โฮม โดยเปิดตัวโปรเจ็กต์นำร่องไปแล้ว 1 โครงการเมื่อช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา  คือ นิว โนเบิล รัชดา-ลาดพร้าว มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท

นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมทุนกันระหว่าง 2 บริษัท ถือเป็นการผนึกกำลังการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัท โดยเฉพาะกลุ่มโนเบิลฯที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากกว่า 50 โครงการ มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มยู ซิตี้ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง เพราะเป็นบริษัทในกลุ่มของบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โดยได้เตรียมแผนร่วมมือพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บนทำเลติดเส้นทางรถไฟฟ้า เพื่อรองรับกับความต้องการอยู่อาศัยของชีวิตคนเมือง

โดยโครงการแรก นิว โนเบิล รัชดา-ลาดพร้าว พัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุน คือ บริษัทรัชดา อัลไลแอนซ์ จำกัด เป็นคอนโดฯไฮไรส์ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 2 ไร่  ห่างจาก MRT สถานีรัชดา ของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองประมาณ 170 เมตร  และ180 เมตรถึง MRT สถานีลาดพร้าวของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

ส่วนแผนการลงทุนในช่วงปี 2565 ทั้ง 2 บริษัทวางแพลนจะเปิดตัวโครงการใหม่ร่วมกันอีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 23,000 ล้านบาท ในย่านสุขสวัสดิ์ ราษฎร์บูรณะ คูคต และพระราม 9  ในทำเลที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า

โดยเฉพาะบิ๊กโปรเจ็กต์มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทบนถนนคูคต ซึ่งกลุ่มยู ซิตี้ มีแลนด์แบงก์ผืนใหญ่อยู่ในมือแล้วกว่า 50 ไร่ติดสถานีคูคต  ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ส่วนต่อขยาย หมอชิต-คูคต  เบื้องต้นได้วางแผนพัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์มีทั้งหมด 4 เฟส เน้นเจาะกลุ่มคนมีรายได้น้อยถึงปานกลาง ในระดับราคาขายเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อยูนิตหรือเฉลี่ย 60,000 บาทต่อตารางเมตร

โดยจะเปิดตัวเฟสแรกก่อนใช้ชื่อว่า “นิว ครอส คูคต สเตชัน”(์Nue Cross khukhot Station) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างสำนักงานขายและห้องตัวอย่าง  ตามแผนจะเปิดพรีเซลในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565 และมีกำหนดแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 4 ปี 2566  ส่วนเฟสที่ 2-4 มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,200 ล้านบาท จะทยอยเปิดตัวในช่วงปี 2566-2568

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*