คูน เอสเตทฯ เผยไตรมาส3/65 จ่อเปิดตัวบ้านหรูร่วมทุนพันธมิตรต่างชาติ พื้นที่โซนเหนือกรุงเทพฯ มูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท ด้าน“คูเปอร์ สยาม” หลังสร้างปรากฏการณ์ปิดขายในวันเดียว แต่หลังวิกฤติโควิด-19 ลูกค้าไทยต่างชาติ 20% ประสบปัญหาไม่สามารถโอนได้ ต้องขายคืน ส่งผลเตรียมนำห้องชุดกลับมารีเซลใหม่ พร้อมปรับราคาขายขึ้น 3% ชูจุดขายพื้นที่โดยรอบถูกผลักดันเป็น“สามย่านสมาร์ทซิตี้” สามารถตอบโจทย์กลุ่มสตาร์ทอัพได้ดี ส่วนโครงการร่วมทุนกับตระกูล“ยู”จากฮ่องกง ต้องพับแผนออกไป เหตุหาที่ดินมีศักยภาพยาก
นายณัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท คูน เอสเตท จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนของบริษัทฯว่าไม่ปิดกั้นการลงทุนหากจะมีพันธมิตรสนใจเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส ด้วยความที่เป็นบริษัทขนาดเล็กจึงไม่ต้องได้รับความกดดันจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เหมือนผู้ประกอบการรายใหญ่ จึงสามารถเลือกรูปแบบโครงการที่จะพัฒนาได้

โดยไตรมาส 3/2565 ประมาณเดือนกันยายน บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านหรู ย่านโซนเหนือของกรุงเทพฯ โดยเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติ โดยทำเลที่เข้าไปพัฒนานั้นยังไม่มีซัพพลายบ้านหรูแต่อย่างใด โดยจะเป็นบ้านระดับราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการประมาณ 5,000 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “คูเปอร์ สยาม” ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาเอง 100% หลังจากที่เปิดพรีเซลครั้งแรกไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ปรากฏว่าสามารถปิดการขายได้ภายในวันเดียว แต่หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกค้าสัดส่วน 20% ขอขายคืนห้องชุด ซึ่งมีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ โดยลูกค้าต่างชาติมีเหตุผลที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าคนจีน โดยบริษัทรับซื้อคืนในราคาเดิม และเริ่มนำกลับมารีเซลใหม่ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป โดยปรับราคาขายจากเดิมขึ้นมาประมาณ 3% คาดว่าจะสามารถปิดการขายในส่วนนี้ภายในระยะเวลา 3 เดือน

โครงการ “คูเปอร์ สยาม” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯสูง 24 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 30-220 ตารางเมตร ราคาตั้งแต่ 4.99-30 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ 140,000 บาท/ตารางเมตรจำนวนทั้งหมด 188 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท โดยก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถปล่อยเช่าได้ในราคาตั้งแต่ 22,000 บาท/เดือนขึ้นไป และมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยจากการปล่อยเช่าประมาณ 4.5% ต่อปี โดยจะจัดกิจกรรม Open House เปิดชมคอนโดฯครั้งแรกอย่างเป็นทางการในวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2565 นี้

“มั่นใจว่าเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับห้องชุดในโครงการ และทำให้ราคาปรับขึ้นสูงอีกอย่างน้อย 50% เพราะทำเลที่ตั้งโครงการบริเวณถนนรองเมืองนั้นส่วนใหญ่เป็นที่ดิน Freehold ปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 600,000 บาท/ตารางวา แต่ถ้าหากเลยไปอีกเล็กน้อยก็จะเป็นที่ดินภายใต้การดูแลของ สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ดิน Leasehold ทั้งหมด เชื่อว่าหลังจากที่ทางจุฬาฯประกาศในพื้นที่โดยรอบเป็น “SAMYAN SMART CITY” ก็จะทำให้บรรยากาศในย่านนี้เต็มไปด้วยสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะในพื้นที่ Block 28 จะเน้นผู้เช่าที่เป็นกลุ่มสตาร์อัพ และ Block 33 ที่กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จ จะกลายเป็นไฮไลท์มิกซ์ยูสเช่นกัน และมองว่าในอนาคตจะมีความเป็น Beyond สูง เพราะจุฬาฯมีความเป็น Power สูง ทำให้ย่านนี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังขาดในด้านของ Residential ดังนั้น “คูเปอร์ สยาม”จึงสามารถตอบโจทย์ได้ดี เพราะมีความเป็นส่วนตัวมาก” นายณัฐวัฒน์ กล่าว

 

นายณัฐวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการร่วมทุนกับครอบครัว “ยู”จากฮ่องกง ที่จะพัฒนาโครการมิกซ์ยูส (อาคารสำนักงานและโรงแรม)นั้น คงต้องพับแผนออกไปก่อน เพราะยังไม่สามารถหาที่ดินที่เหมาะสมในการพัฒนาได้

“ที่ดินนอกจากจะหายากแล้ว ตอนนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของต้นทุนการก่อสร้างด้วย ที่มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง 3 เดือนมีการปรับประมาณ 2 ครั้ง หากไม่สามารถล็อกต้นทุนการก่อสร้างได้ ผู้ประกอบการก็จะต้องปรับต้นทุนเองขึ้นมาตั้งแต่ 5% ขึ้นไป ในส่วนของบริษัทฯหากประสบปัญหาเช่นนั้น ก็จะพยายามปรับราคาขึ้นมาให้น้อยที่สุด แต่ที่ผ่านมาก็พยายามจะใช้ซัพพลายเออร์รายเดิม แต่จะมี Solution ใหม่ๆมาทดแทน” นายณัฐวัฒน์ กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*