ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ แจงข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติไตรมาส 4 ปี 2565 เพิ่มขึ้น 82.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันมา 5 ไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 รับปัจจัยบวกรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 เปิดรับนักท่องเที่ยว ห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทรับโอนกรรมสิทธิ์มากสุด สัญชาติจีนยืนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากสุดปี 2565 โอนไปแล้ว 5,707 ยูนิต มูลค่า 29,038 ล้านบาท จับตาชาวพม่ารับโอนห้องชุดมูลค่าสูงถึง 2,551 ล้านบาทแซงหน้าสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศปี 2565ว่า การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมมีจำนวน 11,561 ยูนิต เพิ่มขึ้น 41% รวมเป็นมูลค่า 59,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2% โดยมีพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์รวม 530,430 ตารางเมตร แสดงให้เห็นว่าความต้องการซื้อห้องชุดในเมืองไทยของชาวต่างชาติน่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นแล้ว รวมทั้งยังมีแรงซื้อใหม่จากชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้ซื้อชาวจีนเข้ามาเพิ่มด้วย
โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมามีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศจำนวน 3,780 ยูนิต เพิ่มขึ้น 82.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเชิงจำนวนหน่วยนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 และเป็นจำนวนหน่วยที่สูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2562 รวมทั้งยังมีจำนวนหน่วยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายไตรมาสในช่วง 2 ปี (ปี 2563-2564) ประมาณ 80.7% ที่มีมูลค่าเฉลี่ยจำนวน 2,092 ยูนิตต่อไตรมาส
ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 19,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ปี 2565 และเป็นมูลค่าที่สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส นับจากไตรมาส 1 ปี 2561 และยังเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ฯ ในช่วง 2 ปี ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีมูลค่าเพียงไตรมาสละ 9,979 ล้านบาทต่อไตรมาส
โดยพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 170,942 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 85.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยการโอนกรรมสิทธิ์ฯในช่วง 2 ปีที่มีการระบาดของ COVID-19 ที่มีพื้นที่เพียง 90,316 ตารางเมตรต่อไตรมาส
ห้องชุดมือสองรับอานิสงค์ยอดโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติเพิ่ม
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติระหว่างห้องชุดใหม่กับห้องชุดมือสองเป็นอัตราส่วนอยู่ที่ 66.2 : 33.8 และมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทั้งส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนต่างชาติมีความต้องการห้องชุดมือสองในทำเลพื้นที่ชั้นในหรือพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจของเมือง ซึ่งในปัจจุบันมีอุปทานให้เลือกน้อยลง ประกอบกับราคาห้องชุดมือสองในทำเลเหล่านี้มีราคาที่ต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ ทำให้ห้องชุดมือสองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อจากจีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส
ห้องชุดราคาไม่เกิน3ล้านต่างชาตินิยมซื้อมากที่สุด
สำหรับราคาห้องชุดในไตรมาส 4 ปี 2565 ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมากที่สุด จะอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์มาตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 1,812 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 47.9% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด จำนวน 3,780 ยูนิต รองลงมาคือระดับราคา 3.01 – 5 ล้านบาท มีจำนวน 968 ยูนิต ระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท มีจำนวน 440 ยูนิต และระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 345 ยูนิต
ขนาด1-2ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 31-60 ตร.ม.ขายดี
ส่วนขนาดห้องชุดที่นิยมของคนต่างชาติ คือ ขนาดพื้นที่ 31 – 60 ตารางเมตรแบบ 1 – 2 ห้องนอน ซึ่งมีสัดส่วนจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์รวมกันสูงกว่ 80% ในแต่ละไตรมาสมาตั้งแต่ปี 2561 โดยมีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติ 1,842 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 48.7% รองลงมา คือ ห้องชุดขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร แบบสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอน มีจำนวน 1,290 ยูนิต และห้องชุดขนาดพื้นที่ 61-100 ตารางเมตรแบบ2 – 3 ห้องนอนขึ้นไป จำนวน 438 ยูนิต
สัญชาติจีนยืนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากสุด
ในปี 2565 กลุ่มลูกค้าชาวจีนถือเป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดไปแล้วทั้งหมด 5,707 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 49.4% ของหน่วยทั้งหมด รองลงมาเป็นชาวรัสเซีย จำนวน 813 ยูนิต สหรัฐอเมริกาจำนวน 542 ยูนิต สหราชอาณาจักรจำนวน 393 ยูนิต และฝรั่งเศส จำนวน 351 ยูนิต
ส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้คนต่างชาติทั่วประเทศในปี 2565 ชาวจีนมีมูลค่าสูงสุดจำนวน 29,038 ล้านบาท ชาวรัสเซียจำนวน 2,682 ล้านบาท ชาวพม่าจำนวน 2,551 ล้านบาท สหรัฐอเมริกาจำนวน 2,389 ล้านบาท และฝรั่งเศสจำนวน 1,912 ล้านบาท
“จากข้อมูลผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดชาวจีนจำนวน 5,707 คน คิดเป็น 49.4% และมีมูลค่า 29,038 ล้านบาท คิดเป็น 49.0% ของชาวต่างชาติที่โอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด พบว่าสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของผู้ซื้อชาวจีนได้ปรับลดลงเหลือประมาณ 50% จากในปีช่วงก่อนหน้าอยู่ที่ประมาณ 55% – 60% ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจาการดำเนินนโยบาย Zero-COVID ในประเทศจีน ทำให้การเดินทางของชาวจีนมีข้อจำกัดในช่วงที่ผ่านมา
จังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุด
ด้านจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 5,260 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 45.5% และชลบุรี จำนวน 3,567 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน30.9%
ดร.วิชัยกล่าวว่า จากการประมวลภาพของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั้งหมด พบว่าปริมาณทั้งในมิติของจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้ว โดยเป็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงที่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นว่าการซื้อขายห้องชุดที่ผ่านมาสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง
