แกรนด์ แอสเสทฯเผยภาพรวมธุรกิจเริ่มฟื้นตัวหลังวิกฤติโควิด-19 โดยเฉาะ ธุรกิจโรงแรม นักท่องเที่ยวแห่งเข้าพัก สูงกว่าช่วงก่อนโควิด ปี67 เล็งหาที่ดินกลางเมืองผุดบ้านหรูราคา 100 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ระหว่างเจรจาซื้อกับแลนด์ลอร์ด 5 ราย คาดสรุปได้ต้นปีหน้า ล่าสุดพร้อมเปิดขายวิลล่าหรู “อมาธารา เรสซิเดนซ์เซส ระยอง” แล้วเสร็จพร้อมโอน 9 หลัง ลูกค้าชาวไทยสนใจซื้อแล้ว 3 ราย พร้อมจ่อก่อสร้างเฟส2 ต่อเรื่องอีก 9 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 35-45 ล้านบาท ส่วนโรงแรมคาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ปลายปี 67 และแล้วเสร็จภายใน 2 ปี
นายวิทวัส วิภากุล
นายวิทวัส วิภากุล กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 2566 ว่าเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นเป็นอย่างมาก นับจากประสบวิกฤติในช่วงโควิด-19 โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่มีผลการดำเนินงานกลับมาฟื้นตัวอย่างมาก หลังจากกลับมาเปิดประเทศ และภาครัฐมีการสนับสนุนการท่องเที่ยวให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักในโรงแรมมากขึ้น โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพฯที่เห็นอัตราการเข้าพักปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ที่มีอัตราการเข้าพัก (OCC) สูงถึง 80% อีกทั้งอัตราค่าห้องพักในภาพรวมยังปรับสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว ทำให้เป็นปัจจัยที่หนุนต่อธุรกิจของบริษัทให้เห็นการฟื้นขึ้นได้ดีในปีนี้

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการในปี 2567 ว่า ยังคงเดินหน้าที่จะพัฒนาบ้านแพง โดยเฉพาะระดับราคา 100 ล้านบาทขึ้นไป ในย่านกรุงเทพกรีฑา หรือเลียบทางด่วน เป็นต้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินกับแลนด์ลร์ดประมาณ 5 ราย คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ประมาณต้นปี 2567

ส่วนความคืบหน้าโครงการ“อมาธารา เรสซิเดนซ์เซส ระยอง” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหลมแม่พิมพ์ บนพื้นที่ทั้งหมด 92 ไร่เศษ แบ่งการพัฒนาในรูปแบบของวิลล่า,คอนโดฯและโรงแรม โดยเริ่มจากการพัฒนาในส่วนของวิลล่าหรูก่อน ซึ่งจดทะเบียนในรูปแบบของอาคารชุดเพื่อให้ต่างชาติสามารถซื้อได้ตามสัดส่วน 49% แบ่งเป็นทั้งหมด 6 เฟส รวมมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท

โดยเฟสแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 9 หลัง พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ เป็นโซนติดทะเล ขนาดเริ่มต้นที่ 250-536 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 55-135 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเริ่มพรีเซลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ปัจจุบันมีลูกค้าคนไทยสนใจแล้วประมาณ 3 ราย ขณะเดียวกัน ก็มีลูกค้าชาวต่างชาติให้ความสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะชาวจีนและรัสเซีย ที่เป็นเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)

พร้อมเดินหน้าทยอยก่อสร้างเฟส 2 ต่อเนื่องในกลางปี 2567 อีกจำนวน 9 หลัง ขนาดเริ่มต้นที่ 165-203 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 35-45 ล้านบาท โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี

“ที่ผ่านมาเราได้มีการปรับรูปแบบของวิลล่าให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ เนื่องจากศักยภาพของที่ดินถือว่าเป็นทำเล และราคาก็ถูกกว่าเมื่อเทียบกับจังหวัดภูเก็ต ซึ่งที่ภูเก็ตที่ดินทำเลดีเริ่มหายาก และราคาสูง ในขณะที่ทำเลระยอง ราคาที่ดินยังพอรับได้” นายวิทวัส กล่าว

ส่วนโรงแรมจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2567 และแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 ปี และคอนโดฯไฮไรส์ จะก่อสร้างเป็นลำดับสุดท้าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*