เมื่อนึกถึงทำเลอยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่นในประเทศไทย เรามักนึกถึงใน 2 ทำเลหลักๆอย่าง Mid sukhumvit ช่วง พร้อมพงษ์ – ทองหล่อ  และ เมืองอุตสาหกรรมหลักของบริษัทญี่ปุ่นอย่างศรีราชา ซึ่งทั้ง 2 ทำเลนี้ มีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน ในย่านทำเลสุขุมวิท มักเป็นกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่มาเป็นครอบครัว และ เป็นผู้ทำงานระดับ Middle Management ขึ้นไป จึงนิยมห้องพักที่ เหมาะสำหรับครอบครัว 2-4 ขึ้นขึ้นไป สำหรับ ทำเลในย่านศรีราชาเป็นกลุ่มตลาดแรงงานที่ ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งระดับบริหาร, นายช่าง ,วิศวกร , ผู้จัดการโรงงาน และที่สำคัญจำนวนคนทำงานชาวญี่ปุ่นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆปี ตั้งแต่หลังปี 54 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ นิคมอื่นๆน้ำท่วมเกือบหมดแต่ที่ศรีราชา ไม่ได้รับผลกระทบ โรงงานต่างๆจึงมองหา ย้ายโรงงานมาอยู่ในย่านนี้กันมากขึ้น  กอรปกับศักยภาพด้านการขนส่ง Logistic ท่าเรือแหลมฉบัง ยังเป็นเมืองท่าที่มีเรือที่มีตู้สินค้าผ่านมากติดอันดับ 22 ของโลก (อ้างอิง) รวมถึงแผนสาธารณูปโภคและขนส่งมวลชน ของภาครัฐเองก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้ ศรีราชา เป็นเขตเศรษฐกิจที่มีความน่าสนใจให้กับบริษัทต่างชาติให้เข้ามาลงทุนเปิดโรงงานกันมากขึ้น

 

 

ว่ากันว่ามีชาวญี่ปุ่นอาศัยในศรีราชา ไม่น้อยกว่า 10,000 คน จนหลายๆสื่อมักเรียกที่นี่ว่า Little Tokyo กันเลยทีเดียว ตลาดที่พักอาศัยในย่านนี้จึงคึกคักทั้ง เซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ คอนโดมิเนี่ยม จึงเปิดขึ้นเพื่อรองรับความตลาดเช่าสำหรับชาวญี่ปุ่นกันมากมาย และ Yield ผลตอบแทนก็สูงถึง 8-10 %   นี่คือเหตุผลว่าทำไมนักลงทุน หลายคนถึงหันมาสนใจลงทุนโครงการเพื่อปล่อยเช่าคนญี่ปุ่นในศรีราชา มากกว่าสุขุมวิท

แล้วอะไรคือปัจจัยที่ต้องดูเมื่ออยากลงทุนปล่อยเช่าให้คนญี่ปุ่น

1.   รูปแบบโครงการต้องตอบสนองความต้องการ การอยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่น 

ชาวญี่ปุ่นใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆ  รูปแบบของที่พักอาศัยจึงต้องเหมาะสมกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตการอยู่อาศัยแบบชาวญี่ปุ่น (สำหรับชาวญี่ปุ่นรุ่นเก่า แต่คนยุคใหม่เริ่มให้ความสำคัญน้อยลง) อาทิ ต้องมีสวนพักผ่อน , มีอ่างอาบน้ำ

2.  มีการบริการการดูแลที่ดี เอาใจใส่

นี่เป็นสาเหตุที่ทำไมชาวญี่ปุ่นถึงชอบอยู่ Service Apartment  เพราะการบริการ  การเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน Home service ต่างๆ ,บริการด้านอาหาร, บริการ รับ-ส่ง เป็นต้น ยิ่งดูแลดี ก็ยิ่งได้ใจมากเท่านั้น

3.  การตกแต่งห้องต้องครบและเหมาะสม

โดยพื้นฐาน ชาวญี่ปุ่นชอบความเรียบง่าย เหมือนวิถี Zen มีความ Minimal  เหมือนสไตล์ MUJI อยู่นิดๆ จึงไม่จำเป็นต้องแต่งห้องให้หรูหรา เยอะจนเกินไป แต่ต้องมีครบ และใหม่อยู่เสมอ พวกเครื่องนอน , เครื่องใช้ ต้องไม่เก่า หรือผ่านการใช้งานมาจนรับไม่ได้ เป็นรายละเอียดที่ต้องให้ความสำคัญ

4.  ต้องมีรายการทีวีที่คุ้นเคย

ชาวญี่ปุ่นยังคงชื่นชอบในการเลือกดูรายการทีวีในภาษาตัวเอง หากสามารถจัดให้ได้จะดีมาก   แต่ปัจจุบัน Internet TV ก็เข้ามาช่วยได้มาก หลายๆคนสามารถดูรายการทีวีผ่านเว็บไซต์ต่างๆได้

5.   ต้องมีนายหน้าที่รู้ภาษาญี่ปุ่นคอยดูแล

กำแพงเรื่องภาษาเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เราอาจจะไม่สามารถสื่อสารกับผู้เช่าได้เอง และผู้เช่าส่วนมากก็มักจะมากับนายหน้าที่ดูแลพูดภาษาญี่ปุ่นได้  โดยเฉพาะในตลาดศรีราชา นายหน้าจะได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ,จากโรงงานญี่ปุ่นเลยในการหาห้องพักให้พนักงานเช่าอยู่อาศัย  ถ้าเราสามารถติดต่อนายหน้าได้ก็สบาย  หรือบางครั้ง นายหน้าหลายๆคนก็จะวิ่งหาห้องเราซะด้วยซ้ำ เพราะที่พักในศรีราชา สำหรับชาวญี่ปุ่นเองนั้นมีไม่มาก และส่วนมากจะเต็มเกือบ 100%

6.   เลือกโครงการที่ออกแบบมาเพื่อชาวญี่ปุ่นเท่านั้น 

ญี่ปุ่นเป็นชาตินิยมแบบที่เราทราบและชอบรวมกลุ่มอยู่อาศัยกับชาวญี่ปุ่นกันเองเท่านั้น  ถ้าเป็นโครงการที่ออกแบบมาสำหรับชาวญี่ปุ่น ก็มักจะเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจพิเศษ และไม่ค่อยมีชาวต่างชาติอื่นๆมากนัก

ส่องโครงการ Knightbridge ocean sriracha โครงการที่ออกแบบมาเพื่อชาวญี่ปุ่น พร้อมโปรแกรมการลงทุนที่เหนือกว่าใครในทำเลศรีราชา

โครงการ Knightbridge The ocean Sriracha  ถูกออกแบบมาภายใต้กรอบงานวิจัยที่ทาง ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  เจาะลึกถึงความต้องการในการใช้ชีวิตอยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง จึงเป็นโครงการที่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิต และเป็นที่สนใจเป็นอย่างสูงจากเอเจ่นต์ญี่ปุ่นในการหาห้องเช่าให้ลูกค้าอย่างคึกคัก เพราะอะไร? ถึงเป็นเช่นนั้น 

KnightBridge  The ocean sriracha  ตั้งอยู่บนทำเลติดถนนใหญ่อย่างสุขุมวิท ไม่ไกลจากแหล่งใจกลางความเจริญของตัวเมืองศรีราชา ที่เป็นแหล่งรวมตัวใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นอย่างย่าน โรบินสัน แปซิฟิค ปาร์ค  ที่ห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร เท่านั้น  รวมถึงรูปแบบโครงการที่นำเสนอจุดขายที่ตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยชาวญี่ปุ่น

  1. Onsen Jacuzzi ผ่อนคลาย…ได้ที่ห้องพัก รวมถึง Shower แบบนั่งอาบตอบรับ Japanese Life Style
  2. Hi-speed internet ภายในห้องพักและรอบโครงการรองรับการเชื่อมต่อไม่ว่าจะส่วนตัวหรือทำธุรกิจ
  3. Japanese Cable Channels  เพิ่มจานรับดาวเทียมเพื่อบริการช่องรายการทีวีสำหรับรายการภาษาญี่ปุ่น
  4. Japanese Multifunctional Closet ตู้เสื้อผ้าหลากหลายฟังชั่นการใช้งานและตู้เซฟเก็บรักษาของมีค่าภายในห้องพัก
  5. Sleep Mode Light Control & SOS Alarm  ปุ่มเดียวก็สามารถปิดไฟได้ทั้งห้อง และ ปุ่ม SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกในกรณีฉุกเฉิน เหมาะสำหรับทั้งผู้สูงอายุและครอบครัวที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ
  6. Rooftop Japanese Shoin-Style Room ห้องพักผ่อนพร้อมเสื่อ Tatami ให้นั่งพักสงบจิตใจในแบบวิถี Zen
  7. Home – Made Kitchen ร้านอาหารที่พร้อมเสริฟ กับอาหารแบบเรียบง่ายทานได้ในทุกๆมื้อ คนญี่ปุ่นไม่ได้ชอบกินอาหารแพงๆหรูเสมอไป อาหารง่ายๆที่ทานได้บ่อยๆจึงเป็นที่นิยมมาก 
  8. Hotel Service  บริการที่เพียบพร้อมในระดับโรงแรม5ดาว ทั้งงานทำความสะอาด,บริการส่งเอกสาร,Concierge
  9. Japanese Agent Service บริการรับฝากขาย – ฝากเช่า ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีชาวไทยและญี่ปุ่น พร้อมดูแลห้องให้ใหม่พร้อมปล่อยเช่าอยู่เสมอ

และตอกย้ำสำหรับนักลงทุนชาวไทย ออริจิ้น จับมือกับ Ariva hostapital Service ที่มีประสบการณ์ในการบริหารโครงการและดูแลปล่อยเช่าชั้นนำ จัด Campaign ที่นักลงทุนไม่อาจปฏิเสธได้

อาทิ การันตีผลตอบแทน 6% นาน 5 ปี  ถามว่าสูงมั้ย ถือว่ามีความน่าสนใจเลยทีเดียวครับ เพราะยากที่โครงการในกรุงเทพ โดยเฉพาะในตัวเมืองชั้นใน จะได้รับ Yield ระดับนี้ หาไม่ง่ายนัก  และยังได้รับการบริหารห้องพักจากทีมผู้เชี่ยวชาญในการดูแลแบบ Hostapital Service ชั้นนำ จึงมั่นใจในเรื่องคุณภาพของผู้เช่า และ การดูแลห้องของผู้ลงทุนว่าต้องดีและใหม่พร้อมให้บริการปล่อยเช่าอยู่เสมอ เหมือนโรงแรมชั้นนำที่เราเข้าไปใช้บริการ อันนี้รวมถึงเครื่องใช้ต่างๆภายในห้อง พร้อมทั้งเครื่องไฟฟ้าทุกชิ้นด้วย ซึ่ง Campaign นี้ผู้ที่สนใจลงทุนในโครงการ Knightbridge The ocean sriracha จะได้รับฟรีค่าแรกเข้าจาก Ariva พร้อมกันด้วย ซึ่งปกติจะคิดค่าบริการอยู่ที่  1000 บาท/ตรม.  แปลว่าถ้าคุณซื้อห้องขนาด เล็กสุดที่ 28 ตรม. ก็ประหยัดค่าแรกเข้ากับ Ariva ไปได้ถึง 28,000 บาท ทันที

คำถามว่าถ้าหลังหมด 5 ปี ที่ การันตีแล้วจะทำอย่างไร  แผนในการ Exit การลงทุนที่นี่  เรายังเชื่อว่า โครงการมี ศักยภาพ ที่ดีและมีความต้องการในการเช่าสูงมากสำหรับตลาดแรงงานญี่ปุ่น เอเจ่นท์ต่างๆเอง ก็พร้อมที่จะหาลูกค้ามาเช่าห้องให้คุณได้อย่างแน่นอน อีกทั้ง Growth ของราคาที่ดินก็จะสูงขึ้นหลังจาก 5 ปีเพราะแผนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆน่าจะเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อยแล้วก็เป็นอีกปัจจัย ที่ช่วยดันราคาโครงการ ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.9 ล้านบาท กับ Yield ปล่อยเช่าไม่ต่ำกว่า 6% ต่อปี  นักลงทุนไม่ควรพลาดหากสนใจโครงการ

พบกันที่งาน โรงแรม Grande centre point Terminal 21  วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคมนี้  เวลา 13.00 –18.00  กับยูนิตพิเศษและเงื่อนไขที่นักลงทุนไม่น่าพลาด ลงทะเบียนเข้าร่วมงานที่ http://knightsbridge.origin.co.th/theocean หรือ โทร 0614190999