พลัส พร็อพเพอร์ตี้  เผยผลสำรวจอสังหาฯ พื้นที่ จ.นครปฐม มีกำลังซื้อเติบโตโดดเด่น ยอดขายคอนโดมิเนียมเติบโตดีสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโซน พุทธมณฑล กำแพงแสน และตัวเมืองนครปฐม เหตุเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ชี้ทิศทางในอนาคตสดใสจากปัจจัยบวกภาครัฐพัฒนาโครงการคมนาคม อาทิ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และมอเตอร์เวย์ ช่วยหนุนราคาอสังหาริมทรัพย์เติบโตต่อเนื่อง

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ จ.นครปฐม  ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 พบว่ามีกำลังซื้อที่เติบโตอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะในโซนพุทธมณฑล กำแพงแสน และตัวเมืองนครปฐม ในบริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน และมหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งจากการสำรวจตลาดอสังหาฯ ในรอบสำรวจ มิถุนายน 2560 พบอุปทานเสนอขายในตลาดทั้งหมด 14,783 ยูนิต จาก 77 โครงการ ด้านอุปสงค์ตอบรับแล้ว 75% ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เน้นเสนอขายโครงการคอนโดมิเนียม มีจำนวนอุปทาน 9,625 ยูนิต (ส่วนแบ่ง 65%) , รองลงมาคือ ทาวน์เฮาส์ 2,884 ยูนิต (ส่วนแบ่ง 20%) และบ้านเดี่ยว 2,774 ยูนิต (ส่วนแบ่ง 15%) โดยเฉลี่ยเปิดขายแล้วประมาณ 2-3 ปี

 

ตลาดคอนโดมิเนียม มีจำนวนยูนิตเสนอขายสูงสุดในพื้นที่นี้ เริ่มพบคอนโดมิเนียมโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดในช่วง 2-3 ปีก่อน เน้นกลุ่มดีมานด์จากอาจารย์ บุคลากรในมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ปกครองที่ซื้อไว้ให้บุตรหลานพักอาศัย ซึ่งเป็นกลุ่มดีมานด์ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในรอบสำรวจนี้พบว่าตลาดคอนโดฯมีอัตราการดูดซับดี ยอดขายได้สูง  ประมาณ 10.1 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ

 

ส่วนโครงการแนวราบ พบว่าตลาดทาวน์เฮาส์  อุปทานส่วนใหญ่อยู่ในโซนพุทธมณฑล ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท พบอัตราการดูดซับเฉลี่ย 3.66 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ สำหรับตลาดคอนโดมีแนวโน้มดูดซับได้ดีขึ้น เนื่องจากมีการดึงส่วนแบ่งอุปสงค์จากทาวน์เฮาส์ เนื่องจากคอนโดมิเนียมมีสิ่งอำนวยความสะดวก และรูปแบบโครงการที่สวยงามกว่า และคอนโดมิเนียมยังสามารถนำไปปล่อยเช่าได้ง่ายกว่า ตลาดบ้านเดี่ยว ส่วนใหญ่อยู่ในโซนพุทธมณฑล ในราคา 3 – 5 ล้านบาท อุปสงค์ตอบรับได้ช้า เป็นอุปสงค์จากโครงการเก่าที่เปิดขายมานาน ประมาณ 2-3 ปี อัตราการดูดซับเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ

 

หากพิจารณาถึงทำเลบริเวณมหาวิทยาลัย พบว่าในแต่ละปีจะมีจำนวนนิสิต นักศึกษาที่เข้ามา ในแต่ละโซนเป็นจำนวนมาก ประมาณ 36,000 คนต่อปี โดยเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน มากที่สุด ประมาณ 14,000 คน รองลงมามหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ ประมาณ 13,000 คน และนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ประมาณ 9,000 คน

 

สำหรับในทำเลกำแพงแสน ยังไม่พบจำนวนคอนโดมิเนียมมากนัก แต่จำนวนดีมานด์ที่เข้ามาในแต่ละปียังมีจำนวนมากเนื่องจากมีนักศึกษาจำนวนมาก จากการสำรวจพบว่าราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน อยู่ที่ 50,000 – 60,000 บาทต่อตารางเมตร สำหรับรูปแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27 – 30 ตารางเมตร หากนำมาปล่อยเช่าจะได้ค่าเช่าเฉลี่ย 6,000 – 7,000 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอยู่ที่ 5-6% ต่อปี

 

“ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่นครปฐมเริ่มเติบโตอย่างน่าสนใจ โดยตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มเติบโตกว่าตลาดอื่นๆ ซึ่งช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นโครงการใหม่เริ่มเปิดขายทำเลเน้นบริเวณใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อดึงกลุ่มอุปสงค์จากอาจารย์มหาวิทยาลัย บุคลากร ผู้ปกครองที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่เล็งเห็นถึงผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าในอนาคต ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนดี เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยธนาคาร ส่วนตลาดแนวราบยังพอไปได้ในบางทำเล มีแรงตอบรับดีในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในอนาคตพื้นที่นครปฐมมีโอกาสเติบโตสูง จากโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เช่น รถไฟรางคู่นครปฐม-หัวหิน รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน  มอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ และมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาที่ดินในนครปฐมสูงขึ้นได้อีกในอนาคต” นายอนุกูล กล่าว