ทกลุ่มดุสิต เปิดเกมรุกเจาะตลาดมิลเลนเนียลที่กำลังโต เปิดตัวโรงแรมแบรนด์ใหม่ ‘อาศัย’ (ASAI) เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักเดินทาง ราคา 1,500-1,800 บาท/คืน ตั้งเป้า 10แห่ง/ปี ทั้งใน-ตปท. ล่าสุดเซ็นสัญญาแล้ว 3แห่งในฟิลิปปินส์ 1 แห่งในเมียนมาร์ ทั้งนำที่ดินย่านสาทรพัฒนา-บริหารเอง พร้อมเปิดบริการสาขาแรกที่จตุจักร ไตรมาส1/62 ย้ำโครงการมิกซ์ยูสร่วมทุนกับCPN เป็นตามแผน พร้อมยื่นขอEIAในครึ่งปีแรก มั่นใจรายได้รวมปีนี้โต5%

 

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายการเติบโตของธุรกิจหลักซึ่งคือโรงแรม ด้วยการเปิดตัวแบรนด์กลุ่มโรงแรมใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘อาศัย’ (ASAI)  ซึ่งเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ ที่เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งและผลตอบแทนที่ดีให้กับกลุ่มดุสิตธานีในระยะยาว ผ่านการดำเนินการ 3 ด้าน คือ การขยายการเติบโตของธุรกิจหลัก  การสร้างความสมดุลของธุรกิจ และการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งบริหารงานโดยบริษัท อาศัย โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งแผนการดำเนินการตั้งเป้าที่จะขยายแบรนด์ดังกล่าวให้ได้ 10 แห่ง/ปี ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและตลาดของแต่ละประเทศ

 

โดยในปี 2561 นี้ มีแผนที่จะขยายไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศญี่ปุ่นภายใต้รูปแบบบริษัทร่วมทุนและสัญญารับจ้างบริหารงาน  ซึ่งขณะนี้เซ็นสัญญาในการเข้าบริหารแบรนด์”อาศัย”แล้ว 3 แห่งในประเทศฟิลิปปินส์ และอีก 1 แห่งในประเทศเมียนมาร์ รวมถึงโรงแรมอาศัยในย่านสาทร กรุงเทพฯ ซอย12 ซึ่งเป็นที่ดินของกลุ่มดุสิตฯ พื้นที่ 208 ตารางวา มีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรม สูง 8 ชั้น ขนาด 15 ตารางเมตร จำนวน 106 ห้องพัก ราคาประมาณ 1,800 บาท/คืน มูลค่าการลงทุน 460-470 ล้านบาท (รวมที่ดิน) ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2562

 

สำหรับโรงแรมแบรนด์ “อาศัย” แห่งแรก ที่จะเปิดให้บริการก่อนเป็นลำดับแรกคือ “อาศัย จตุจักร” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ”มิกซ์ จตุจักร”ของบริษัท ธนสารสมบัติพัฒนา จำกัด ที่ประกอบด้วยห้องพักรวม 250 ห้อง ขนาด 15 ตารางเมตร ราคา1,500-1,800 บาท/คืน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณช่วงไตรมาส 1/2562

 

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะนำที่ดินบนเกาะสมุยอีกกว่า 70 ไร่ มาพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส และจะนำแบรนด์ “อาศัย”เข้าไปพัฒนาด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

“เราเชื่อมั่นว่า แบรนด์อาศัยจะเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มให้กับกลุ่มดุสิตธานี ด้วยตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ ที่มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบมิลเลนเนียล ซึ่งเป็นคนชื่นชอบการเดินทาง ใช้ชีวิตแบบไม่ยึดติดกับกรอบแบบเดิมๆ และเสาะหาประสบการณ์เที่ยวแบบคนในท้องถิ่น จากผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า นักเดินทางในกลุ่มนี้จำนวนถึง 35%  ต้องการพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีการตกแต่งและใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างดี เพราะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความคุ้มค่าของราคา ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวแบบคนท้องที่ที่รู้จักถิ่นนั้นจริงๆ  ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์อาศัยที่กลุ่มดุสิตตั้งใจให้เป็น” นางศุภจีกล่าว

 

นางศุภจี กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มดุสิตธานี กำลังอยู่ในช่วงการเติบโตที่สำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งในปัจจุบันเรามีโรงแรมที่เปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ดุสิต ได้แก่ ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวาราณา  ที่ครอบคลุมตลาดทั้งระดับบนและระดับกลาง จำนวนทั้งสิ้น 27 แห่ง และเตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีกกว่า 70 แห่งทั่วโลกภายใน 4 ปีข้างหน้า  ซึ่ง “อาศัย”เป็นแบรนด์ใหม่ ที่จะมาเสริมศักยภาพทางธุรกิจของเราให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่กว้างกว่าเดิม และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนดุสิตสู่เป้าหมายที่ได้วางเอาไว้

 

ด้านนายศิรเดช โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาศัย โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า แบรนด์”อาศัย” ได้นำแรงบันดาลใจจากการอยู่ร่วมกับชุมชนและการสร้างความยั่งยืนมาสร้างแบรนด์ใหม่ที่นำจุดแข็งของเครือดุสิตที่มีประสบการณ์บริหารธุรกิจโรงแรมมากว่า 70 ปีมาต่อยอดเป็นโรงแรมแนวคิดใหม่ที่จะมาตอบโจทย์ของกลุ่มนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสและเข้าถึงการเที่ยวแบบคนท้องที่ในแต่ละเมืองที่ไปเยือน อีกทั้งคนกลุ่มนี้ยังคำนึงถึงความคุ้มค่าของราคากับคุณภาพอย่างมากด้วย

 

โดยรูปแบบการให้บริการของกลุ่มโรงแรมอาศัย จะแตกต่างออกไปจากกรอบให้บริการรูปแบบเดิมๆ ของโรงแรม โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและเและช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ในการจองและการเข้าพัก อาทิ การเช็คอินด้วยตัวเองที่ตู้บริการอัตโนมัติ บริการคู่มือท่องเที่ยวออนไลน์แบบพิเศษที่ให้ข้อมูลแขกของอาศัยเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่มีแต่เฉพาะคนท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้จัก หรือสถานที่ที่เหมาะกับการเป็นจุดถ่ายรูปเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในโซเชียลมีเดีย  รวมถึงยังมีการลิงค์เข้ากับไกด์ท้องถิ่นเพื่อพาไปเปิดประสบการณ์แปลกใหม่

 

“อาศัย เป็นแบรนด์กลุ่มโรงแรมไลฟ์สไตล์ในราคาที่จับต้องได้ สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากกรอบแบบเดิมๆ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแต่ละคน ซึ่งเรามั่นใจว่า การจับมือร่วมงานกับช่างฝีมือท้องถิ่นในการออกแบบโรงแรมอาศัยในแต่ละทำเลจะสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับแขกที่เข้าพักตามสโลแกน ‘Live Local’ ของเรา” นายศิรเดช กล่าว

นางศุภจี กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณโรงแรมดุสิตธานี(เดิม)ย่านหัวมุมถนนสีลมตัดถนนพระราม 4 ว่า ยังคงดำเนินการตามแผน ขณะนี้ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 11 เมษายน 2561 นี้ และจะเริ่มจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)ภายในครึ่งปีแรก2561 นี้ และจะเริ่มปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2562 หลังจากนั้นอีก 2-3 เดือน จึงจะเริ่มทยอยทุบอาคาร

 

โครงการดังกล่าวพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูส ที่ประกอบด้วย โรงแรม, ศูนย์การค้า, เรสซิเดนซ์ และอาคารสำนักงาน ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือCPN มูลค่ารวม 36,700 ล้านบาท 

 

อย่างไรก็ตามในปีนี้กลุ่มดุสิต ตั้งเป้ารายได้รวมที่5% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,570 ล้านบาท