ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ฯ เปิดตัวเลขตลาดคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในกรุงเทพฯไตรมาส 1 /2562 ลดลง37% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและลดลงมากถึง 58% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้ คาดแนวโน้มตลาดทั้งปีจำนวนยูนิตเปิดขายใหม่ลดลงค่ 15% พร้อมระบุราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตร.ม.มีอัตราการขายเฉลี่ยสูงกว่า 50% ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงซื้อชาวต่างชาติ

ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ในภาวะชะลอตัวด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างอีกทั้งมาตรการ LTV (Loan to Value )ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ก็เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อภาวะตลาดคอนโดมิเนียมซึ่งมีผลโดยตรงต่อกลุ่มผู้ซื้อที่มีการผ่อนสินเชื่อธนาคารมาแล้วต่ำกว่า 3 ปีและต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มอีก 1 แห่ง ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจและความกังวลใจต่อการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากการเลือกตั้งก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลให้ผู้ประกอบการเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปก่อนในไตรมาสนี้เพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากการเลือกตั้งก่อน

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 8,762 ยูนิต ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ประมาณ 37% และน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้านี้(Q4/2561)ถึง 58% ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังคงเป็นผู้ประกอบการที่เปิดขายโครงการมากที่สุดในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของยูนิตเปิดขายใหม่ทั้งหมด มูลค่าของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 34,850 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีคอนโดฯ อีกไม่น้อยกว่า 2,700 ยูนิตที่เปิดขายในจังหวัดปริมณฑลในพื้นที่ที่ติดกับกรุงเทพมหานครโดยเป็นโครงการที่อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการถึง 38% และอีกประมาณ 39% อยู่ในจังหวัดปทุมธานี โดยที่เหลืออยู่ในจังหวัดนนทบุรี

ทั้งนี้ คอนโดฯที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าปัจจุบันถึง 52% และอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอีกประมาณ 46% ที่เหลืออยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครรอบนอ โดยพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ค่อนข้างมาก คือ พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีส้ม ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีโครงการเปิดขายใหม่มาระยะหนึ่งแล้วคือ พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงแม้ว่าจะเปิดให้บริการแล้วแต่ผู้ประกอบการยังต้องการเร่งระบายยูนิตคงเหลือออกไปก่อนมากกว่าจะเปิดขายโครงการใหม่ในพื้นที่นี้

แม้ว่าผู้ประกอบการจะให้ความสนใจต่อพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วมากกว่าพื้นที่อื่นๆ เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนของยูนิตที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 พบว่าคอนโดมิเนียม 46% เปิดขายในระดับราคา 50,001 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) รองลงก็ในระดับราคา 100,0001 – 150,000 บาทต่อตารางเมตร ผู้ประกอบการยังคงให้ความสนใจต่อคอนโดฯในระดับราคาที่ไม่แพงเกินมาไปเพราะผู้ประกอบการเข้าใจในศักยภาพของกำลังซื้อของคนไทย

สำหรับคอนโดฯ บางโครงการที่เปิดขายในระดับราคามากกว่า 180,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปในไตรมาสที่ 1 ปี2562 หรือก่อนหน้านี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าไปมากกว่า 1 กิโลเมตร แม้ว่าจะเป็นทำเลที่อยู่พื้นที่เมืองและอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า BTS เพราะว่าราคาที่ดินที่สูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลโดยตรงต่อราคาขายโครงการคอนโดฯ ที่พัฒนาบนที่ดินเหล่านี้ ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องเปิดขายโครงการคอนโดฯในราคาขายที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 2 – 3 ปีก่อนหน้านี้

แรงซื้อต่างชาติหนุนคอนโดฯราคาขายกว่า 2 แสนบาทพุ่ง

คอนโดฯที่เปิดขายในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 อาจจะมีอัตราการขายเฉลี่ยที่ไม่สูงมาก แต่ก็มีความน่าสนใจในส่วนของโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรที่มีอัตราการขายเฉลี่ยสูงกว่า 50% ซึ่งอัตราการขายที่สูงเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิดขายให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติโดยเฉพาะจากฮ่องกง หรือผู้ซื้อชาวจีนที่มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศจีน เพราะผู้ประกอบการมีการออกไปเปิดขายโครงการที่ต่างประเทศก่อนหน้านี้แล้วโดยอาศัยนายหน้าหรือว่าบริษัทในเครือดำเนินการในเรื่องนี้ นอกจากนี้ส่วนใหญ่จะสามารถปิดการขายในโควตาของฝั่งผู้ซื้อชาวต่างชาติได้เต็มโควตาในเวลาไม่นานจากการออกไปขายในต่างประเทศโดยเฉพาะโครงการราคาไม่แพง

ผู้ซื้อต่างชาติโดยเฉพาะผู้ซื้อชาวจีนหรือผู้ซื้อที่สามารถพูดภาษาจีนได้เข้ามาเป็นกลุ่มผู้ซื้อสำคัญในตลาดคอนโดฯในกรุงเทพมหานครรวมไปถึงในจังหวัดท่องเที่ยวได้หลายปีแล้ว ปีที่ผ่านมาก็มียอดโอนเงินจากจีนและฮ่องกงเข้ามาในประเทศไทยเพื่อโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์มากถึง 39,179 ล้านบาทคิดเป็น 42.5% ของเงินที่โอนจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

นายสุรเชษฐ ยัวกล่าวในตอนท้ายว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯปี 2562 มีแนวโน้มที่ชัดเจนว่าชะลอตัวลง จำนวนยูนิตเปิดขายใหม่ลดลงค่อนข้างมากคือประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงต้อการรอดูสถานการณ์ในปีนี้ก่อนที่อาจจะมีช่วงเวลาสำคัญๆ อยู่หลายช่วง โดยเฉพาะเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลที่แม้จะผ่านการเลือกตั้งมาแล้วแต่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่มีบทสรุปที่ชัดเจน รวมไปถึงนโยบายและทิศทางในการบริหารประเทศที่ยังไม่มีการประกาศออกมาตราบใดที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่แบบเป็นทางการ โครงการระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ยังไม่เป็นรูปธรรมจะยังคงไว้หรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ บ้างยังไม่สามารถสรุปได้ตอนนี้ ผู้ประกอบการจึงเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปก่อน แต่เลือกที่จะเพิ่มสัดส่วนของโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้นเพื่อชดเชยรายได้ที่อาจจะลดลงในปีนี้