เดซติเนชั่น แคปปิตอล เปิดตัวธุรกิจร่วมลงทุนซื้อกิจการโรงแรม หวังฟื้นฟูวิกฤตท่องเที่ยวไทยสร้างพอร์ตบริหารโรงแรมสี่ดาว เพื่อพัฒนาสินทรัพย์โรงแรมสร้างมูลค่าเพิ่มตั้งเป้าลงทุน 12-15 แห่งในอีก 18 เดือนข้างหน้า มูลค่าเงินลงทุนแต่ละโครงการประมาณ  1,500 ล้านบาท 

 

นายเจมส์ แคพแลน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มธุรกิจลงทุนและบริหารธุรกิจโรงแรมชั้นนำในเครือ เดซติเนชั่น กรุ๊ป เพื่อการลงทุน โดยร่วมมือกับกองทุนธุรกิจร่วมลงทุนต่างๆทั้ง private equity และกองทุนสถาบัน เสาะหา ซื้อกิจการโรงแรมในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค โดยเน้นที่ประเทศไทยเป็นหลักโดยมุ่งลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพสูงในการสร้างมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งบริษัทยังมีนโยบายเน้นช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งการพัฒนาสินทรัพย์โรงแรมให้สามารถกลับเข้าสู่วงจรธุรกิจได้อย่างแข็งแรง รวมถึงมุ่งช่วยเพิ่มการจ้างงานบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทยที่มีมูลค่าสูงถึง 18% ของจีดีพีต่อปี

ทั้งนี้บริษัทฯกำลังมองหาสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการพัฒนา สร้างผลตอบแทนได้สูงหลังจากที่ได้รับการบูรณะปรับปรุงและปรับตำแหน่งทางการตลาดให้เหมาะสมตามกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทแล้ว โดยสินทรัพย์เป้าหมาย ได้แก่โรงแรมและรีสอร์ทขนาดประมาณ 200 ห้อง ในทำเลชั้นดีในหัวเมืองใหญ่และจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะทยอยซื้อโรงแรมสี่ดาวเข้าพอร์ตให้ได้รวมทั้งสิ้น 12-15 แห่ง ภายในอีก 18 เดือนข้างหน้า แต่ละโครงการประมาณ  1,500 ล้านบาท  โดยรายละเอียดดังนี้

  • สร้างพอร์ตบริหารโรงแรมสี่ดาว เพื่อพัฒนาสินทรัพย์โรงแรมสร้างมูลค่าเพิ่ม
  • ตั้งเป้าลงทุน 12-15 แห่งในอีก 18 เดือนข้างหน้า มูลค่าเงินลงทุนแต่ละโครงการประมาณ  1,500 ล้านบาท
  • เน้นกลยุทธ์บริหารสินทรัพย์โรงแรมห้าประการ: อัดฉีดเงินทุน ปรับ positioning รีแบรนด์ จ้างงานบุคลากรสาขาท่องเที่ยว เปิดธุรกิจดำเนินกิจการอีกครั้ง
  • ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำด้านลงทุนและบริหารธุรกิจโรงแรมชั้นนำ Destination Group
  • บริหารโดยทีมผู้มีประสบการณ์ในการลงทุนซื้อกิจการโรงแรม ฟื้นกิจการเพิ่มมูลค่าและขายสินทรัพย์โรงแรม    โดยมีมูลค่าการตอบแทนสูง

นายเจมส์ กล่าวว่าเขาพร้อมใช้ทักษะและประสบการณ์ยาวนานจากการดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลก รวมถึงการสนับสนุนจาก เดซติเนชั่น กรุ๊ป และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อดึงกองทุนร่วมทุนและกิจการร่วมลงทุนต่างๆทั้งในและต่างประเทศ ให้เข้ามาร่วมลงทุนซื้อสินทรัพย์เป้าหมายและปรับปรุงสินทรัพย์และตำแหน่งทางการตลาดให้เหมาะสมกับตัวโครงการ รวมถึงการบริหารสินทรัพย์โรงแรมทั้งในและภูมิภาคเอเชีย

ทั้งนี้ เขากล่าวว่าประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนประเทศไทยเกือบ 40 ล้านคน ถึงแม้ว่าตัวเลขคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2563 นี้ ล่าสุดจะลดลงเหลือเพียง 8 ล้านคนและ 7 ล้านคนจากจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนประเทศไทยตั้งแต่ก่อนปิดน่านฟ้าเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม

วิกฤติในครั้งนี้ส่งผลให้มีคนตกงานเพิ่มขึ้นนับล้านคนและโรงแรมจำนวนหลายพันห้องจำต้องปิดกิจการ ส่งผลให้เกิดความต้องการแหล่งเงินทุนอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ธุรกิจสามารถเปิดกิจการได้อีกครั้งรวมถึงสามารถจ้างงานบุคลากรที่ถูกเลิกจ้างไปก่อนหน้านี้ ตลอดจนใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไปได้ภายใต้ภาวะซบเซา ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ดังกล่าวน่าจะยืดเยื้อไปจนกว่าจะมีวัคซีนออกมาใช้งานได้และธุรกิจการบินสามารถกลับเปิดเส้นทางการบินได้เป็นปกติ

ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะยังคงอยู่ในสภาพซบเซาและใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการฟื้นตัว จากวิกฤติการณ์ในอดีตที่มีผลกระทบการท่องเที่ยวไทยมาหลายต่อหลายครั้ง จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวไทยสามารถที่จะฟื้นตัวกลับมาได้ และยังแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆทุกรอบ อีกทั้งยังสามารถยืนหยัดต้านแรงเสียดทานจากวิกฤติต่างๆได้ดีขึ้น

นายเจมส์ แคพแลน

“เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะสามารถกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งเช่นเคยและน่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีกลับสู่ภาวะฟื้นตัวเต็มที่ ”

นาย เจมส์ กล่าวอีกว่าบริษัทฯสามารถใช้ทรัพยากรทั้งหลายที่มีอยู่จากความเชี่ยวชาญที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มายาวนาน เข้ามาใช้ในการปรับปรุงกิจการเหล่านี้ให้กลายเป็นสินทรัพย์ชั้นดีและพร้อมดำเนินกิจการให้เดินเต็มสูบได้ทันพอดีกับช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว

นายเจมส์ กล่าว พร้อมย้ำอีกว่าทีมผู้บริหารของบริษัทฯมีความพร้อมทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทอย่างครบถ้วนทุกมิติ โดยทางทีมมีผลงานในการฟื้นฟูกิจการโรงแรมในประเทศไทยมานานกว่า 24 ปี ด้วยพื้นฐานแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ในระยะกลาง ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทฯ

 

เกี่ยวกับ บริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล จำกัด

บริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของ บริษัทเดซติเนชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำที่ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการโรงแรม นำมาพัฒนาศักยภาพ ปรับปรุงฟื้นฟู และบริหารโรงแรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ ไปจนถึงการขายโรงแรม มาตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย.  ท่านสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.destinationcapital.co.th

 เจมส์ แคพแลน

ประธานกรรมการบริหารบริษัทเดซติเนชั่น แคปปิตอล จำกัด

นาย เจมส์ แคพแลน มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลก ทั้งงานด้านการบริหารกิจการ การพัฒนาโครงการ ตลอดจนการซื้อขายโครงการโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ นำมาพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประสบการณ์ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค

เขาได้แสดงผลงานในการพัฒนาโครงการ การทำดีลธุรกิจและธุรกรรมต่างๆ ตลอดถึงประสบการณ์ด้านกฏหมายและการบริหารจัดการธุรกิจล้มละลายมาแล้วทั่วโลก ทักษะและประสบการณ์เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันธุรกิจของ Destination Capital ภายใต้การนำของเขาให้ประสบผลสำเร็จได้ตามเป้าหมาย

ก่อนหน้าที่เขาจะรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ Destination Capital เขาเคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการพัฒนาให้กับ Minor Hotel Group หลายปี นอกจากนี้ ยังได้เคยตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงให้กับโรงแรมชั้นนำต่างๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ยุโรป อัฟริกาและตะวันออกกลาง

เจมส์ แคพแลนจบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์สาขาระบอบการเมืองภูมิภาคเอเชีย จากมหาวิทยาลัยเบิร์กเล่ย์ แคลิฟอร์เนียและจบการศึกษาด้านกฏหมายดีกรีนิติศาสตร์ระดับสูงสาขากฏหมายอสังหาริมทรัพย์จากมหาวิทยาลัยโกลเด้นเกต ซานฟรานซิสโก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*