“เสนาดีเวลลอปเม้นท์” หรือ SENA วางหมากรบ หาช่องว่างธุรกิจลุยคอนโดฯต่ำล้านบาท เจาะกลุ่ม First Jobber ล่าสุดส่งแบรนด์คอนโดน้องใหม่ “เสนา คิทท์” ย่านเทพารักษ์ – บางบ่อ ประเดิมนำร่องเปิดรอบ VIP เพียง 2 วัน กวาดยอดขายเกลี้ยง 3 อาคาร เล็งโค้งสุดท้ายปลายปี2563 เปิดโปรเจกต์ต่ำล้านบาทเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 โครงการ

 

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่าในปี 2563 ถือเป็นปีที่หนักหน่วงของเศรษฐกิจไทยที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนเป็นกลายเป็นวิกฤตที่ประเทศไทยไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านช่วงเวลาต่ำสุดไปแล้ว แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาฟื้นตัว ซึ่ง อาจจะกินเวลานานถึง 3 ปีเป็นอย่างน้อย

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์

จากสถานการณ์โควิด – 19 สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนสอนให้ทุกคนได้เรียนรู้ ก็คือ เราควรสร้างความแน่นอนให้กับชีวิต และสิ่งแรกที่ต้องลงทุน คือ การมีที่อยู่อาศัยเป็นตัวเอง ซึ่งทำให้ทางบริษัทฯ เล็งเห็นช่องว่างทางการตลาด และต้องการสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง รวมถึงลูกค้ากลุ่มวัยทำงาน หรือ  first jobber อายุ 25-30 ปี รายได้เฉลี่ย 15,000 บาท ที่ต้องการซื้อคอนโดเป็นสินทรัพย์แรกของชีวิต และลูกค้าที่ต้องการบริหารจัดการเงินออมเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการออมเงินในแบงค์ที่ไห้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งมองว่าการลงทุนในอสังหาฯ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

สำหรับในปี 2563 นอกจากทางเสนาจะเน้นโครงการแนบราบแล้ว ยังหันมาโฟกัสคอนโดฯต่ำล้าน ซึ่งบริษัทฯได้ยื่นขอสนับสนุน BOI ภายใต้แบรนด์คอนโดน้องใหม่ “เสนา คิทท์”  เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ที่แท้จริง และมองว่ายังมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นบริษัทฯเปิดขายคอนโดต่ำล้านไปแล้วทั้งหมด 8 โครงการ รวมมูลค่า 2,376 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวในครึ่งปีแรก 2563 จำนวน  4 โครงการ ประกอบด้วย 1. เดอะ คิทท์ รังสิต – ติวานนท์ 2. เดอะ คิทท์ ไลท์ บางกระดี – ติวานนท์ 3. เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน – คูคต และ 4.เสนา คิทท์ เพชรเกษม – สาย 7

โครงการเสนา คิทท์ เทพารักษ์-บางบ่อ

ในครึ่งหลังปี 2563 เตรียมเปิดเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเสนา คิทท์ เทพารักษ์-บางบ่อ และอีก 2 ทำเลที่เตรียมเปิดขายเร็ว ๆ นี้ สำหรับโครงการ เสนา คิทท์ เทพารักษ์ – บางบ่อ หนึ่งเดียวย่านเทพารักษ์-บางบ่อ คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์สไตล์ยุโรป สูง 5 ชั้น จำนวน 6 อาคาร จำนวน 328 ยูนิต เหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือ ลงทุนเพื่ออนาคต โดยมีห้องพักให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตรหรือตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 38 ตร.ม. โดดเด่นในความแตกต่างของการดีไซน์และตอบสนองทุกความต้องการ ภายในห้องออกแบบฟังก์ชั่นกว้างขวางพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ตอบโจทย์การพักอาศัยอย่างแท้จริง กั้นห้องนอน ห้องรับแขก และห้องครัวเป็นสัดส่วนสามารถลิงค์กับไลฟ์สไตล์ได้ลงตัว

ล่าสุด หลังจากเปิดรอบ VIP เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถปิดยอดขายเฟสแรก 3 อาคาร (158 ยูนิต) คิดเป็นมูลค่า 126 ล้านบาท และเตรียมพรีเซลล์อย่างเป็นทางการ วันที่ 3 – 4 ตุลาคม 2563 นี้  พร้อมพบโปรโมชั่นพิเศษ เริ่มเพียง 779,000 บาท ผ่อนเบา ๆ 1,900 บาท

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดที่อยู่อาศัย

ปัจจัยบวกหลัก

-รถไฟฟ้าสีเขียวส่วนต่อขยาย สีชมพู สีเหลือง สีส้ม

– มอเตอร์เวย์ ทางด่วน ถนนตัดใหม่

– มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ (เน้นผู้มีรายได้น้อย)

– การเคลื่อนย้ายของประชากร

ปัจจัยลบหลัก

– COVID-19

– การเมือง

– หนี้ครัวเรือน

นายสัมมา คีตสิน

นายสัมมา คีตสิน กรรมการและกรรมการอิสระ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพและปริมณฑล (ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม) พบว่าคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563  มีจำนวน  8,792 ยูนิต เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 ที่มีจำนวน 66,367 ยูนิต

ในด้านประเภทและราคาที่เปิดขายใหม่เหลือขายสะสมในช่วงครึ่งแรกปี 2563 ส่วนใหญ่เหลือขายสะสม มีจำนวน 6,076 ยูนิต โดยระดับราคา 1-3 ล้านบาทเหลือขายมากที่สุด  ขณะที่ระดับราคาต่ำล้านบาทเหลือขายเพียง 221 ยูนิต

เมื่อเทียบกับรายได้ประชากรไทยแล้ว นับว่าคนไทยมีรายได้ที่ไม่สูงมากหรือมีรายได้ต่อครัวเรือนค่อนข้างต่ำ อีกทั้งยังมีภาระหนี้สินต่างๆ ที่มาผูกมัดตัวเองยิ่งขึ้นไปอีกทำให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยระดับกลาง – บนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*