.การช่างฯ แจ้งผลประกอบการงวด 3 เดือน ไตรมาส 3/2563 กวาดรายได้รวม 4,528 ล้านบาทลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา  แต่ก็ยังสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 774 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,100% เผยโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างไม่รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มั่นใจปี 64 คว้างานประมูล เสริมBacklog อีกอย่างน้อย 150,000-200,000 ล้านบาท
นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์
นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท .การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK  เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 3/2563 ว่า มีรายได้ก่อสร้าง 3,798 ล้านบาท รายได้รวม 4,528 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา  แต่ก็ยังสามารถรักษาอัตรากำไรไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีกำไรสุทธิ 774 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1,100% จากไตรมาสที่แล้ว อัตรากำไรขั้นต้น 7.73% อัตรากำไรสุทธิ 17.10%  ซึ่งความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด covid-19 แต่ประการใด

 

โดยในวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ลงนามสัญญาก่อสร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้และวิจัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ กับ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มูลค่า 4,041 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มนอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมในการเข้าแข่งขันการประมูลราคาโครงการต่าง ในปีหน้าซึ่งมั่นใจว่า จะมีงานเพิ่มเติมเข้ามาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์ศูนย์วัฒนธรรม  มูลค่ากว่า120,000 ล้านบาท ที่ได้มีการยื่นประกวดราคาไปแล้วเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมาโดยบริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน  การติดตั้งงานระบบ  และพันธมิตรที่แข็งแกร่งคือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM ที่มีประสบการณ์ในการบริหารการเดินรถมากว่า 16 ปี

 

สำหรับโครงการก่อสร้างของภาครัฐ .การช่าง มีความเชื่อมั่นว่าจะมีอีกหลายโครงการที่มีความพร้อม สามารถเปิดประกวดราคาได้ในปี 2564  อาทิ รถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ ช่วงเตาปูนราษฎร์บูรณะ มูลค่า 100,000 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ จำนวน 3 สาย ได้แก่ สายเด่นชัยเชียงรายเชียงของ  สายบ้านไผ่นครพนม และสายขอนแก่นหนองคาย รวมมูลค่ากว่า 150,000 ล้านบาท  รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางใน สปป.ลาว ที่     .การช่าง ได้เข้าร่วมลงทุนซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้เร็วๆนี้  ซึ่งโครงการเหล่านี้จะช่วยเสริมมูลค่างานในมือ (Backlog) ขึ้นมาอย่างน้อย 150,000-200,000 ล้านบาทในปี 2564    

 

ส่วนการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานของ .การช่าง ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM หลังจากได้ต่อสัมปทานทางด่วนอีก 15 ปี 8 เดือนจำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A B C  ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D   และทางด่วนสายบางปะอินปากเกร็ด  ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการการแพร่ระบาดของ covid-19 ก็ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติแล้ว   และในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2563 จะมีพิธีเปิดโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ส่วนต่อขยาย สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย และสถานีรถไฟฟ้าหลักสอง

 

ในส่วนของบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตน้ำประปาเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของภาคครัวเรือน ส่งผลให้ผลประกอบการยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จ่ายปันผลได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ  นอกจากนี้ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP โรงไฟฟ้าทุกแห่งมีแนวโน้มที่จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ สามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 แห่ง ได้ครบอีกด้วย 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*