แสนสิริฯเดินเกมผุดคอนโดฯ 8 โครงการปีนี้ตามแผน พร้อคัมแบ็ก แบรนด์ “เดอะ มูฟ”ในรอบกว่า 10 ปี หวังเข้าถึงลูกค้าในราคาจับต้องได้ นำร่อง “เดอะ มูฟ เกษตร”มูลค่า 482 ล้านบาท พิเศษรอบ Early Bird Deal จำกัดเพียงเกือบ 50 ยูนิตเท่านั้น เริ่มเพียง 1.67 ล้านบาท ผ่าน Online Booking ในวันที่ 27 พ.ค.64 เที่ยงวัน-เที่ยงคืน คาดปิดขายภายในวันเดียวสวนกระแสโควิด-19 ล่าสุดโกยยอดขายแล้ว 4,200 ล้านบาท มั่นใจ ‘เดอะ มูฟ’ ดันเป้ายอดขายคอนโดฯรวม 11,000 ล้านบาทภายในปีนี้
แสนสิริฯเดินเกมผุดคอนโดฯ 8 โครงการปีนี้ตามแผน พร้อคัมแบ็ก แบรนด์ “เดอะ มูฟ”ในรอบกว่า 10 ปี หวังเข้าถึงลูกค้าในราคาจับต้องได้ นำร่อง “เดอะ มูฟ เกษตร”มูลค่า 482 ล้านบาท พิเศษรอบ Early Bird Deal จำกัดเพียงเกือบ 50 ยูนิตเท่านั้น เริ่มเพียง 1.67 ล้านบาท ผ่าน Online Booking ในวันที่ 27 พ.ค.64 เที่ยงวัน-เที่ยงคืน คาดปิดขายภายในวันเดียวสวนกระแสโควิด-19 ล่าสุดโกยยอดขายแล้ว 4,200 ล้านบาท มั่นใจ ‘เดอะ มูฟ’ ดันเป้ายอดขายคอนโดฯรวม 11,000 ล้านบาทภายในปีนี้
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทฯมีแผนเปิดขายคอนโดฯทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ที่ราคาเข้าถึงได้ โดยเฉพาะ “เดอะ มูฟ” จะมีประมาณ 4 โครงการ ซึ่งในไตรมาส 2/2564 จะทยอยเปิดตัว จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ มูฟ เกษตร, เดอะ มูฟ รามคำแหง และเดอะ มูฟ บางนา และอีก 1 โครงการ คือ เดอะ มูฟ รัชดาฯ จะเปิดตัวในไตรมาส 4/2564
โดยเริ่มจากโครงการ“เดอะ มูฟ เกษตร” เป็นคอนโดฯโครงการแรก ภายใต้ ‘เดอะ มูฟ’ (THE MUVE) แบรนด์คอนโดฯแนวคิดใหม่ของแสนสิริฯ และยังเป็นแบรนด์คอนโดไฮไลท์แห่งปี ในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่แสนสิริไม่ได้พัฒนามานานกว่า 10 ปี และมีกระแสตอบรับสุดร้อนแรงตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์ จนถึงปัจจุบันที่กวาดยอดจองล่วงหน้าเต็มทุกรอบ VVIP โดย “เดอะ มูฟ เกษตร” ได้รับการพัฒนาขึ้นจาก Insight ของคนรุ่นใหม่
โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น ขนาดเริ่มต้นที่ 22-28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.69 – 2 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 80,000 บาท/ตารางเมตร จำนวนทั้งหมด 248 ยูนิต มูลค่าโครงการ 482 ล้านบาท และมีตลาดปล่อยเช่ารองรับชัดเจน Yield ดีสูงถึง 5.8% หรือสามารถปล่อยเช่าได้ 9,000-10,000 บาท/เดือน โดยคาดว่าจะเป็นลูกค้ากลุ่มนักลงทุนประมาณ 30-40% และเรียลดีมานด์ 60% ซึ่งหากมีเรียลดีมานด์มาก ก็จะมีกลุ่มนักลงทุนมีความมั่นใจและซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวมากขึ้น
โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น ขนาดเริ่มต้นที่ 22-28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.69 – 2 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 80,000 บาท/ตารางเมตร จำนวนทั้งหมด 248 ยูนิต มูลค่าโครงการ 482 ล้านบาท และมีตลาดปล่อยเช่ารองรับชัดเจน ทั้งนี้จะเริ่มรอบ Early Bird Deal เตรียมจอง “เดอะ มูฟ เกษตร” ก่อนใคร พบกับห้องในราคาคุ้มค่า ดีกว่ารอบ Presale และมีจำนวนจำกัดเพียงเกือบ 50 ยูนิตเท่านั้น เริ่มเพียง 1.67 ล้านบาท ผ่าน Online Booking ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 นี้ (เที่ยงวัน-เที่ยงคืน) คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ปิดการขายภายในวันเดียว และกำหนดเปิดพรีเซล ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 โดยสามารถนัดหมายเวลาเพื่อเข้าชมโครงการที่ THE MUVE Sales Center ย่านพระราม 4 ได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้บริษัทฯจะเก็บห้องชุดไว้ประมาณ 2 ชั้น จำนวน 70 ยูนิต มูลค่า 140 ล้านบาท เพื่อเเปิดขายอีกครั้งเมื่อคอนโดฯก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2566 ส่วนจะปรับราคาขึ้นมาเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ทำเลย่านเกษตร มีซัพพลายอย่างต่อเนื่อง และทุกโครงกาที่เปิดขาย ล้วนได้รับการตอบรับที่ดีทั้งหมด เพราะเป็นทำเลที่มีดีมานด์สูง ที่ผ่านมาจึงไม่ค่อยมีดีมานด์คงเหลือ และโครงการ “เดอะ มูฟ เกษตร”บริษัทฯพัฒนาในราคาที่คุ้มค่า และถูกที่สุดในย่านเกษตรอย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทฯได้มีการวางวางแผนการพัฒนาไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ระลอก 3 จึงมั่นใจว่าสินค้าที่เน้นเรียลดีมานด์ และตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่คุ้มค่า และมีการบริหารจัดการที่ดี จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้
“ปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่าคอนโดฯต่ำกว่า 80,000-100,000 บาท/ตารางเมตร มีน้อยมาก ดังนั้นในยุคปัจจุบันเทรนด์คอนโดฯที่พัฒนาต้องเป็นราคาเข้าถึงและตอบโจทย์ดีมานด์
โดยเชื่อว่า “เดอะ มูฟ”จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างยอดขายคอนโดฯในปีนี้ให้ถึงเป้าที่ 11,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่สามารถสร้างยอดขายคอนโดฯไปแล้ว 4,200 ล้านบาท” นายองอาจ กล่าวในที่สุด
