กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ เผยธุรกิจร้บสร้างบ้านยังเติบโต ลูกค้ามีความต้องการต่อเนื่อง สวนกระแสเศรษฐกิจขาลง มั่นใจยอดขายทั้งปี64 ตามเป้ากว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 20%  ล่าสุดจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดสร้างบ้าน Biggest Sale 20%” พร้อมของสมนาคุณสุด Surprise ในช่วงเดือนส.ค.นี้
นายสุธี เกตุศิริ
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ เปิดเผยว่า ตามที่ทราบกันดีว่าตั้งแต่ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ได้กลับมาแพร่ระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเมื่อต้นปีจะมีทิศทางที่ดูเหมือนจะคลี่คลายมากขึ้น จึงทำให้ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมกลับมาชะงักไปพอสมควร และปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลต่อการชะลอการตัดสินใจและกำลังซื้อของประชาชนอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ดีในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงต้องเดินหน้าต่อ แม้ว่าภาพรวมของประเทศจะไม่สู้ดีนัก แต่ยังคงมีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่มีความสนใจโดยสอบถามข้อมูลการสร้างบ้านเข้ามาอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงจัดโปรโมชั่นสร้างบ้านราคาพิเศษซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/2564  เป็นต้นมา

ทั้งนี้หากมองงภาพอนาคตของธุรกิจรับสร้างบ้าน ในฐานะที่ได้อยู่ในแวดวงธุรกิจรับสร้างบ้านมาเป็นเวลายาวนานกว่า 35 ปี และประสบความสำเร็จในการบริหารกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ซึ่งประกอบด้วย  บิวท์ ทู บิวด์  , บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์  และ สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์ จนปัจจุบันเตรียมย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 อย่างมั่นคงนั้น เชื่อมั่นว่าธุรกิจรับสร้างบ้านสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และในอนาคตความต้องการของลูกค้าที่จะปลูกสร้างบ้านยังมีอีกมากอย่างไม่สิ้นสุด เพราะเป็นดีมานด์ที่หมุนเวียนกลับมาอยู่ตลอดเวลา ลูกค้ามีความต้องการปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัย มีการทุบ รื้อ เพื่อสร้างบ้านใหม่ หรือขยายครอบครัวตามเหมาะสม จึงทำให้ดีมาน์ในส่วนนี้จะมีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งระบบโครงสร้างบ้านสำเร็จรูปของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ก็ได้รับความเชื่อมั่นและชื่นชมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ในความแข็งแรงมั่นคง รักษาสิ่งแวดล้อม สามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว สร้างได้ทุกฤดูกาล และมีความยืดหยุ่นในการออกแบบและเลือกวัสดุ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ดำเนินได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงมีความเชื่อว่าธุรกิจรับสร้างบ้านยังมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน

ภาพรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ถึงแม้จะยังทำไม่ได้ตามเป้าที่คาดการณ์ไว้เมื่อช่วงต้นปี แต่ยังทำได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยังสามารถรักษาเป้าหมายทางการขายไว้ได้ ทั้งนี้ยังคงตั้งเป้ายอดขายในปี 2564 นี้ว่าจะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท (ตามเป้าที่เคยทำได้ไว้เมื่อปี 2562)  หรือเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20%  ซึ่งปัจจุบันยังมีลูกค้าติดต่อสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นโดยเฉพาะช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นแรงๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของลูกค้าที่จะได้สร้างบ้านคุณภาพในราคาสุดคุ้ม รวมถึงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจปลูกสร้างภายในปีนี้อยู่พอสมควร โดยกลยุทธ์ทางการตลาดในช่วงยุคโควิด-19 นี้ต้องยกให้การทำตลาดออนไลน์เป็นพระเอกของปี เพราะมีบทบาทสำคัญอย่างมากที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังได้เพิ่มช่องทางออนไลน์ต่างๆ ในการติดต่อโดยไม่เป็นอุปสรรคในการสื่อสารกับลูกค้าแม้จะอยู่ในช่วงที่โควิด-19 ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้

“อีกส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินธุรกิจไม่ว่าเผชิญกับสถานการณ์ใดก็ตามยังคงเป็นโยบายด้านคุณภาพ มาตรฐานงานก่อสร้าง และการบริการ ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะช่วงของการเกิดวิกฤติ ยิ่งทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในคุณภาพและบริการมากเท่าใด ก็จะเกิดการบอกต่อการแนะนำในที่สุด” นายสุธี กล่าว

นายสุธี กล่าวต่อว่า  การที่ผลประกอบการออกมาในเชิงบวก และอาจสวนกระแสกับสถานการณ์การตลาดของธุรกิจนี้ที่โดยทั่วไปอาจจะดูชะลอลงมาก แต่ต้องการให้กำลังใจว่าธุรกิจนี้ยังสามารถเดินต่อไปได้อย่างดี แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ เพราะลูกค้าธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นดีมานด์จริง มีความต้องการปลูกสร้างบ้านจริง ซึ่งยังมีอยู่มากและจะมีอย่างไม่รู้จบ เมื่อลูกค้ามีความพร้อมก็ยังคงต้องการปลูกสร้างบ้าน เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มีการวางแผนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และยังมีลูกค้าอีกมากเมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้นก็จะกลับมาปลูกบ้านอย่างแน่นอน

ล่าสุดกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ได้จัดโปรโมชั่นสร้างบ้านในราคาสุดพิเศษเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจให้แก่ลูกค้าที่กำลังมีแผนสร้างบ้านได้มีโอกาสมีบ้านคุณภาพในราคาสุดคุ้มกันต่อเนื่อง โดยการมอบส่วนลดสร้างบ้าน Biggest Sale 20%  พร้อมของสมนาคุณสุด Surprise ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*