กลุ่ม “ยูดี ทาวน์”สบช่องว่างเนรมิตรพื้นที่ 2 ไร่ ผุดรร.สูงกว่าระดับ 4 ดาว “HOTEL MOCO”มูลค่าการลงทุนกว่า 500 จับกลุ่มเป้าหมายนักลงทุน นักธุรกิจและทัวร์ธรรมะ พร้อมให้บริการครั้งแรก 4 พ.ย.64 รับการเปิดประเทศ คาด 2 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้าพัก 70% และถึงจุดคุ้มทุนภายใน 10 ปี ระบุราคาที่ดินในตัวเมืองอุดรฯพุ่งสูงกว่าราคาประเมินถึง 200 ล้านบาท/ไร่ ขึ้นอยู่กับความพอใจของแลนด์ลอร์ด
นายภาสกร วีรชาติยานุกูล
นายภาสกร วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาทิพย์ 456 จำกัด ซึ่งบริหารงานโรงแรม และศูนย์ประชุม เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดโรงแรมใน อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนถึง 30 กว่าโรงแรม จำนวนประมาณ 4,000 ห้องพัก มีหลากหลายประเภท และหลากหลายระดับราคา โดยสัดส่วน 30% เป็นโรงแรมที่บริหารโดยเชนระดับอินเตอร์เนชั่นแนล  และสัดส่วน 70% เป็นการพัฒนาโดยนักลงทุนท้องถิ่น  และที่ผ่านมามองว่าโรงแรมระดับมากกว่า 4 ดาวขึ้นไป ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้าไปลงทุน บริษัทจึงได้เห็นช่องว่างดังกล่าว ซึ่งได้เตรียมแผนลงทุนโรงแรมระดับสูงกว่า 4 ดาวมาตั้งแต่ปี 2561 แล้วด้วยการนำพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับศูนย์การค้า “ยูดี ทาวน์” จากที่ดินทั้งหมด 35 ไร่ ที่เป็นการเช่าระยะยาว 36 ปี จากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) โดยที่ผ่านมาได้เช่าพื้นที่มาแล้ว 13 ปี ซึ่งโรงแรมดังกล่าวพัฒนาภายใต้แบรนด์ HOTEL MOCO”สูง 7 ชั้น  จำนวน 68 ห้องพัก ราคาห้องพัก 3,556-15,500 บาท/คืน มูลค่าการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักธุรกิจ นักลงทุน นักท่องเที่ยว ข้าราชการ กลุ่มทัวร์ธรรมะ โดยชูจุดขายในเรื่องความสวยงาม และยกระดับการให้บริการที่พิเศษเหนือกว่าโรงแรมอื่นๆในจ.อุดรธานี เช่น มีแพ็กเกจเสริมด้านการท่องเที่ยว หรือทัวร์ธรรมะให้ลูกค้า ซึ่งพร้อมไปด้วยอาหาร เครื่องดื่ม รถยนต์ เป็นต้น  โดยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา และก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 นี้

โดยในแผนระยะยาวบริษัทจะเน้นการบริหารโรงแรมเอง โดยไม่ใช้เชนเข้ามาบริหารแต่อย่างใด คาดว่าหลังเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ จะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นคงเน้นลูกค้าชาวไทยก่อน ขณะเดียวกันก็ทำตลาดให้ลูกค้าชาวต่างชาติได้รับทราบด้วย โดยที่ผ่านมามียอด Booking เข้ามามากพอสมควร โดยเฉพาะวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 มียอด Booking จากลูกค้าคนไทยเต็ม 100%  และคาดว่าในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปี 2564 จะมีอัตราการเข้าพักรวมประมาณ 70% พร้อมมั่นใจว่าจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนภายในระยะเวลา 10 ปี

“การพัฒนาโรงแรมของเรานั้นอยู่ในแผนอยู่แล้ว และได้พลิกวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการก่อสร้างโรงแรม ซึ่งก็พร้อมเปิดให้บริการในช่วงเปิดประเทศพอดี  เชื่อว่าหลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลายลง จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปเป็นจำนวนมาก จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 50% เนื่องจากไม่มีไฟล์ทบินเลย  จากในช่วงปกติจะมีไฟลท์บินมาจ.อุดรธานี ถึง 52 เที่ยวบิน/วัน แต่ตอนนี้เราเริ่มเห็นบรรยากาศที่มีนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว สังเกตได้จากการที่ประชาชนกล้าออกมาใช้ชีวิตประจำวัน เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์  มากขึ้น” นายภาสกร กล่าว

ซึ่งการรุกธุรกิจกลุ่มโรงแรมครั้งนี้ เชื่อว่าจะยิ่งช่วยสนับสนุนทราฟฟิก ของการเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้า “ยูดี ทาวน์”ให้มีมากขึ้น เนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับศูนย์การค้า ทำให้แขกที่เข้าพักจะได้รับความสะดวกสบายทั้งในการพักผ่อน และช้อปปิ้งในเวลาเดียวกันแบบครบวงจร  ความคาดหวังในการตอบรับของกลุ่มลูกค้า มุ่งหวังสร้างความรู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเห็น   เพื่อให้เกิดการบอกต่อ และกลับมาใช้บริการอีกครั้ง

ส่วนศูนย์ประชุม “มลฑาทิพย์ ฮอลล์”ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร ได้เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลา 2 ปี และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ได้เปิดให้บริการตามปกติ แต่เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข โดย 1 ห้องสามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้ 50 คน/กรุ๊ป ส่วนใหญ่ผู้มาใช้บริการจะเป็นหน่วยงานราชการ และคู่แต่งงาน จากช่วงระยะเวลาปกติห้องประชุมใหญ่สามารถรองรับได้ถึง 3,000-4,000 คน/กรุ๊ป คาดว่าหลังจากเปิดประเทศแล้ว จะมีผู้เข้ามาใช้บริการศูนย์ประชุมฯมากขึ้น

นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันราคาที่ดินใน อ.เมือง จ.อุดรธานี ทำเลที่แพงสุดจะอยู่บริเวณรอบศูนย์การค้า “ยูดี ทาวน์” ได้แก่ ถนนทองใหญ่ และถนนโพธิ์ศรี มีราคาสูงถึง 200 ล้านบาท/ไร่ ซึ่งเป็นราคาที่เจ้าของที่ดินเสนอขาย สูงกว่าราคาประเมินที่ดิน โดยแต่ละแปลงจะเป็นราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความพอใจของแลนด์ลอร์ด

นางสาวอภิชา วีรชาติยานุกูล
ด้านนางสาวอภิชา วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้ดำเนินการศูนย์การค้า “ยูดี ทาวน์” กล่าวว่า ในช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 ศูนย์การค้าฯมีผู้เช่าพื้นที่ประมาณ 80-90% แต่ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ผู้เช่าพื้นที่ได้หายไปในสัดส่วนกว่า 10% ขณะเดียวกันบริษัทฯก็ไม่ได้มีการปรับค่าเช่าพื้นที่แต่อย่างใด โดยราคาเช่าพื้นที่บริเวณถนนคนเดินอยู่ที่ประมาณ 500 บาท/วัน และค่าเช่าในศูนย์การค้าฯอยู่ที่ประมาณ 1,200-2,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน  แต่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายขณะนี้ผู้เช่าพื้นที่ได้กลับมาในสัดส่วนเท่าเดิมแล้ว ซึ่งมีทั้งผู้เช่ารายเดิม และผู้เช่ารายใหม่

“ในช่วงโควิด-19 ระบาด ได้ส่งผลให้รายได้จากศูนย์การค้าฯหายไปประมาณ 60-70% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ แต่เราก็ถือโอกาสในช่วงนั้นรีโนเวทศูนย์การค้าฯใหม่ โดยใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งแล้วเสร็จพร้อมอวดโฉมใหม่ในช่วงใกล้เปิดประเทศพอดี” นางสาวอภิชา กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*