โจนส์ แลง ลาซาลล์ฯเผยตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรมในประเทศไทยมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าจากปี 63 ด้วยยอดการลงทุนซื้อขายรวมที่อาจแตะถึง 12,000 ล้านบาท หากการเจรจาสำเร็จภายในสิ้นปี ส่งผลมูลค่าการลงทุนซื้อขายของทั้งปีนี้ สูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 10 ปี ระบุราคาเสนอขายโรงแรมในกทม. ที่มีคุณภาพเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อลงทุน มีเสถียรภาพมากกว่าหัวเมืองท่องเที่ยว พบสัดส่วน 62% ของมูลค่าการซื้อขาย เป็นการซื้อโดยนักลงทุนต่างชาติ จับตาปี65 มีแนวโน้มทุบสถิติมูลค่าการลงทุนซื้อขายโรงแรมใหม่
นายจักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา
นายจักรกริช จักรพันธุ์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการภาคพื้นเอเชีย หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JLL เปิดเผยว่า คาดว่าตลอดปี 2564 นี้ ตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรมในประเทศไทยมีความเป็นไปได้สูงที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าจากปี 2563 ด้วยยอดการลงทุนซื้อขายรวมที่อาจสูงถึง 12,000 ล้านบาท หากรายการเจรจาซื้อขายที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้รวมมูลค่า 7,000 ล้านบาทสามารถดำเนินการจนเสร็จทันสิ้นปีตามที่ผู้ซื้อผู้ขายกำหนดไว้ ซึ่งจะหมายความว่า มูลค่าการลงทุนซื้อขายของทั้งปีนี้ จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับช่วง 10 ปีระหว่าง 2552-2562 ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยปีละ 10,000 ล้านบาท โดยการลงทุนซื้อขายโรงแรมที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในปีนี้ มีสาเหตุมาจากการที่มีโรงแรมคุณภาพเหมาะสำหรับการลงทุนเสนอขายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายคาดหวัง ขยับเข้าใกล้กันมากกว่าเดิม

โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ มีการซื้อขายเกิดขึ้นแล้ว 13 โรง คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท เทียบกับทั้งปี 2563 ที่มีการซื้อขาย 4 โรง รวมมูลค่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งมองว่าการลงทุนซื้อขายโรงแรมในประเทศไทยปรับตัวดีขึ้นกลับไปที่ระดับก่อนเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 ซึ่งในส่วนของ JLL ปีนี้เพิ่งเป็นตัวแทนปิดการขาย “ซิทาดีนส์ สุขุมวิท 23 บางกอก” ขนาด 138 ห้อง และกำลังอยู่ในระหว่างการเป็นตัวแทนการลงทุนซื้อขายโรงแรมอีกกว่า 10 รายการ รวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ มี 2 รายการที่คาดว่าจะดำเนินแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ นายจักรกริชกล่าว

นางสาวพิมพ์พะงา ยมจินดา
ด้านนางสาวพิมพ์พะงา ยมจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลงทุนซื้อขายภาคพื้นเอเชีย หน่วยธุรกิจบริการที่ปรึกษาด้านโรงแรม JLL  กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ ทำให้มีเจ้าของโรงแรมจำนวนมากขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้ประกอบการโรงแรม ตัดสินใจเลือก 1-2 โรงแรมในพอร์ตของตนนำออกมาเสนอขายเพื่อให้ได้เม็ดเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่อง ในขณะที่ฝั่งนักลงทุนซื้อ เริ่มมองเห็นแนวโน้มเชิงบวกในภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรม และมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับราคาเสนอขายที่ไม่ได้ปรับลดลงเท่ากันทั้งตลาด

จากการสังเกตการณ์ของ JLL พบว่า โรงแรมระดับห้าดาว แทบไม่มีการปรับลดราคาเสนอขายลงเลย เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ยากจะสร้างใหม่ขึ้นมาได้ใหม่ ประกอบกับเจ้าของโรงแรมในกลุ่มนี้ยังคงมีสถานการณ์ทางการเงินที่ค่อนข้างเข้มแข็ง JLL ยังพบด้วยว่า ราคาเสนอขายโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มีคุณภาพเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อลงทุน ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่าโรงแรมในหัวเมืองท่องเที่ยวตากอากาศ ในขณะที่โรงแรมในหัวเมืองชั้นรอง โดยเฉพาะโรงแรมระดับกลางๆ มีราคาเสนอขายปรับลดลงมากกว่า

ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ซื้อ หากพิจารณาจากจำนวนรายการซื้อขายที่เกิดขึ้นในปีนี้ พบว่า ราว 90% เป็นการซื้อโดยนักลงทุนไทยทั้งประเภทบุคคลระดับคหบดีและบริษัทที่มีสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง และนักลงทุนจากต่างประเทศประเภทกองทุนนอกตลาด (private equity fund) ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้ มีทั้งที่ต้องการซื้อโรงแรมเข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุนของตน และที่ต้องการขยายจำนวนโรงแรมในพอร์ตการลงทุนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากมูลค่าโรงแรมที่มีการซื้อขายแล้วและที่กำลังจะปิดการซื้อขายในปีนี้ พบว่า 62% ของมูลค่าการซื้อขาย มีนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อ

“ในแง่ของมูลค่าการลงทุน นักลงทุนต่างชาติมีบทบาทเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีก่อนหน้า ที่มีนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อเฉลี่ยคิดเป็น 37% ของมูลค่าการซื้อทั้งหมดในแต่ละปี” นางสาวพิมพ์พะงา กล่าว

อย่างไรก็ตาม คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะยังคงให้ความสนใจการลงทุนในตลาดโรงแรมของไทยต่อไป โดยเฉพาะการที่ประเทศไทยได้ผ่อนคลายการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ เชื่อว่า จะช่วยเอื้อให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนได้มากขึ้นในปี 2565 ซึ่งจะทำให้มีการแข่งขันกันมากขึ้นในหมู่นักลงทุนที่ต้องการซื้อโรงแรมคุณภาพดีในประเทศไทย

“ขณะนี้มีการซื้อขายโรงแรมรายการใหญ่ๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา ในขณะที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในอนาคตของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมของไทย จึงมีความเป็นได้ที่มูลค่าการลงทุนซื้อขายโรงแรมในปี 2565 จะทำสถิติใหม่ หากนับช่วงเวลาตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์โควิด-19” นางสาวพิมพ์พะงา กล่าวในที่สุด

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*