แอสเซทไวส์เดินหน้าสู่บริษัทอสังหาริมทรัพย์สีเขียวแบบครบวงจร ปักธงก้าวสู่องค์กร Carbon Neutral ภาคสมัครใจ ภายใต้แนวคิด “GrowGreen” 5 แกน ประเดิมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่สำนักงานใหญ่และ Mingle Mall  โครงการ KAVE TU พร้อมผนึกพันธมิตร Haup Car ให้บริการรถพลังงานไฟฟ้าที่ Mingle Mall และสำนักงานขาย KAVE AVA โดยวางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแนวทางขับเคลื่อนองค์กรให้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงสิ่งแวดล้อม เพราะตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และก่อให้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆ ที่จะสร้างผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนรุ่นต่อไป โดยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย Carbon Neutral ประเทศไทย ภาคสมัครใจ ในการเข้ารับการตรวจประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และจัดหาคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์

ล่าสุดได้รับการรับรองให้เป็นองค์กร Carbon Neutral ภาคสมัครใจอย่างเป็นทางการจากองค์กรบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทย  สอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยที่ได้บรรจุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutral ในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2608 จากการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ UN Climate Change Conference of the Parties (COP26)

ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้ร่วมมือกับพันธมิตรดำเนินงานภายใต้แนวคิด “GrowGreen” 5 แกนหลัก ได้แก่ Green Space การออกแบบพื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Energy Efficiency ดีไซน์ที่อยู่อาศัยเพื่อใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา (Solar Rooftop)ที่สำนักงานใหญ่ และ Mingle Mall KAVE TU รวมทั้งเตรียมติดตั้งที่ โครงการ KAVE Town Space และ KAVE Town Shift ต่อไป

นอกจากนี้ยังได้จับมือพันธมิตร Haup Car นำร่องให้บริการรถพลังงานไฟฟ้าที่ Mingle Mall ในโครงการ KAVE Town Space, KAVE Town Shift และสำนักงานขาย Modiz Rhyme, KAVE AVA เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและชะลอปัญหาภาวะโลกร้อน

Waste Management บริหารจัดการของเสียอย่างยั่งยืน โดยรณรงค์คัดแยกขยะภายในโครงการเพื่อลดปริมาณ Carbon Footprint และ Clean Air ให้ความสำคัญกับอากาศที่สะอาด เน้นเลือกวัสดุก่อสร้างที่ลดการสร้างมลพิษในอากาศ หรือการก่อสร้างที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5

Water Saving การใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการพัฒนาระบบนำน้ำที่ผ่านการใช้แล้วมาผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อกลับมาใช้ใหม่ ล่าสุดได้เชิญชวนลูกบ้านร่วมทำกิจกรรมปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อร่วมลดภาวะโรคร้อน

ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ASW มีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สีเขียว เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและโลกของเรา โดยตั้งใจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ที่มุ่งเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งการออกแบบ  เลือกวัสดุ ลดการใช้ทรัพยากรและหันมาใช้พลังงานสะอาด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย”

ปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 39 โครงการ ภายใต้แบรนด์ เคฟ (KAVE),แอทโมซ (ATMOZ),โมดิซ (MODIZ),เอสต้า (ESTA) และดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 38,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่จำนวน 31 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 8 โครงการ ปัจจุบันมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 7,338 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*