พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฯ รับสงครามรัสเซียยูเครน กระทบตลาดที่อยู่อาศัยไทย ส่งผลปรับราคาขึ้นสูง 7-10% เชื่อตลาดลักชัวรียังเติบโตต่อเนื่อง เผยแผนปี 65 รุกขยายฐานตลาดบ้านเดี่ยว ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 11% หรือยอดขายที่ 5,320 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว “เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ” โครงการร่วมทุนกลุ่มฮ่องกง แลนด์ แห่งที่ 2 ระบุยอดขายพุ่งแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท คาดทั้งปียอดขายรวมเป็นไปตามเป้า 18,500 ล้านบาท ด้านกลุ่มฮ่องกง แลนด์ ยังมั่นใจอสังหาฯไทย พร้อมเดินหน้าลงทุนพันธมิตรต่อเนื่อง
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน)หรือ PF เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ได้ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา ซึ่งโดยรวมราคาจะปรับสูงขึ้นประมาณ 7-10% และเชื่อว่าผู้ประกอบการอสังหาฯทุกค่าย ได้เตรียมปรับราคาขึ้นมาอย่างน้อย 5% จึงอยากให้ผู้ที่สนใจจะหาที่อยู่อาศัยใหม่รีบตัดสินใจซื้อ ก่อนที่ราคาที่อยู่อาศัยจะปรับสูงขึ้นไปกว่าปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ตามตนยังมีความเชื่อมั่นว่าตลาดระดับลักชัวรียังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบริษัทฯจะต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันและสร้างความแตกต่างได้

ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยง ซึ่งมาจาก 2 หมวดหลัก คือ พลังงาน และอาหาร ที่กดดันอยู่ในขณะนี้ หากสถานการณ์ดังกล่าวสามารถจบลงได้ภายในปลายปี 2565 ได้ ก็ยังพอแบกรับได้ไหว ทั้งนี้หลังจากประกาศเปิดประเทศแล้ว ก็อยากให้รัฐบาลกระตุ้นรายได้ให้กับประชาชน ด้วยการเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น ด้านท่องเที่ยว และ บันเทิง เป็นต้น

สำหรับภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยว ลักชัวรี ระดับราคาตั้งแต่ 3-20 ล้านบาทขึ้นไปในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการขายรวมอยู่ที่ 121,574 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 100% ขณะที่ในส่วนของ PF มีส่วนแบ่งตลาดที่ 8,826 ล้านบาท หรือสัดส่วน 7% ขณะที่บ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป PF จะมีส่วนแบ่งตลาดที่ 2,785 ล้านบาท หรือ 6% จากมูลค่าตลาดรวมระดับราคาดังกล่าว 4,3534 ล้านบาท หรือ 36% และในปี 2565 บริษัทฯคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดบ้านเดี่ยวทั้งหมดที่  13,960 ล้านบาท หรือ 7% จากมูลค่าตลาดรวม 127,888 ล้านบาท หรือ 100% ส่วนตลาดบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป บริษัทจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็น 5,320 ล้านบาท หรือ 11%

ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ“เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ” ซึ่งถือเป็นโครงการบ้านหรูริมทะเลสาบโครงการที่ 2 ที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง PF และ กลุ่มฮ่องกง แลนด์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 184 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ของที่อยู่อาศัย 83 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ของทะเลสาบขนาดใหญ่ ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 127-256 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 42-130 ล้านบาท จำนวน 127 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท หรือประมาณ 12 ยูนิต  ซึ่งเป็นลูกค้าทั้งคนไทย และรูปแบบนิติบุคคล ที่มีทั้งบริษัทคนไทย และจีน โดยยอดขายดังกล่าวเป็นลูกค้าที่ซื้อในรูปแบบนิติบุคคลเป็นสัดส่วนถึง 70% คาดว่าในปีนี้โครงการดังกล่าวจะมียอดขายถึง 2,000 ล้านบาท และปิดการขายภายในระยะเวลา 4-5 ปี

“ที่ผ่านมาบ้านหลังแรก ที่ราคาต่ำกว่า 20 ล้านบาท ยังมีปัญหาเรื่องการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ในขณะที่บ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ลูกค้าจะไม่มีปัญหาในเรื่องการขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินแต่อย่างใด ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงโฟกัสมาที่บ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปมากถึงสัดส่วน 11% ของมูลค่าตลาดรวมบ้านเดี่ยวทั้งหมด”นายวงศกรณ์ กล่าว

ด้านแนวโน้มยอดขายของบริษัทคาดว่าจะเห็นการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3-4 ปี2565  จากการที่บริษัทจะมีการเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ มากกว่าครึ่งปีแรกที่เปิดตัวไป 4 โครงการ โดยยอดขายครึ่งปีแรกอาจจะทรงตัวหรือต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย จากการแข่งขันในตลาดบ้านแนวราบที่รุนแรงขึ้น ประกอบกับ กำลังซื้อเพิ่งฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง โดยในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯสามารถทำยอดขายรวมได้ 3,600 ล้านบาท และครึ่งปีแรกคาดว่าจะทำยอดขายได้ 8,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 18,500 ล้านบาท

นายวิลเลียม เจมส์ พาร์ค ไบร์ท
นายวิลเลียม เจมส์ พาร์ค ไบร์ท กรรมการบริหาร บริษัท เอชเคแอล (ไทย ดีเวลลอปเม้นท์) จำกัด (HKL) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา  ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯทุกรายประสบปัญหา แต่มองว่าตลาดระดับลักชัวรียังขายได้ดี ประกอบกับผู้บริโภคมีความต้องการโครงการแนวราบเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน จึงมีความมั่นใจตลาดอสังหาฯและตั้งใจที่จะลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยเม็ดเงินในการลงทุนได้ ซึ่งก็ได้มีการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการกับพันธมิตรอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง

โดยที่ผ่านมาได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรอสังหาฯไทยทั้งหมด 5 ราย คือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด(มหาชน) พัฒนาโครงการ ดิ เอส 36,บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) พัฒนาโครงการ เลค เลเจนด์ แจ้งวัฒนะ และ เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ ,บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) พัฒนาอาคารสำนักงาน-รีเทล บนที่ดินสถานฑูตอังกฤษเดิม บริเวณถนนวิทยุ,บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) พัฒนาคอนโดฯระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ย่านถนนวิทยุ และบริษัท จี.เอส. พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเม้นท์ จำกัด พัฒนาศูนย์การค้าเกสรพลาซ่า

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*