ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) พลิกแผนลงทุนจากเดิมเตรียมสร้างคอนโดฯขนาด 100 ยูนิตบนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ ติดห้างพาราไดซ์ ปาร์ค ปรับเปลี่ยนเป็นบ้านไฮเอนด์แบรนด์“เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ จับตลาดกลุ่มเศรษฐี ชูจุดเด่นบ้านสังคมส่วนตัวแค่ 5 หลังสไตล์ Japanese Modernพร้อม“Innovation”ผสานศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” วิชาเต๋า-เหมาซานทุกหลัง

นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหารบริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือชินวะ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้บริษัทวางแผนจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ขนาด 100 ยูนิตบนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ติดห้างพาราไดซ์ ปาร์ค เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงานในย่านศรีนครินทร์ แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงกว่า 2ปีที่ผ่านมาไม่เอื้ออำนวย จึงได้ปรับแผนพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์แทน เอเจาะกลุ่มลูกค้าฐานะดี มีรายได้สูง รวมถึงกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่แต่งงานแยกครอบครัวใหม่

โดยพัฒนาเป็นบ้านแนวราบสูง 4ชั้นจำนวน 5 ยูนิต ขนาดเนื้อที่ 46.4-49.6 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 531-524 ตารางเมตร มี 4-5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน ใช้ชื่อโครงการว่า “เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์” มูลค่าโครงการ 200ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 39.8 ล้านบาท

“ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยยังเผชิญกับวิกฤติต่างๆหลายด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกประเทศ ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวตามการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น แต่วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อรายได้และการจ้างงานที่ลดลง ทำให้กลุ่มคนวัยทำงานได้รับผลกระทบด้านรายได้ ขณะที่รายจ่ายเพิ่มสูงขึ้นจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการลงทุนใหม่เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์จริงในปัจจุจุบัน”

โดยบริษัทชินวะฯ มีแผนลงทุนหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องตามนโยบายของบริษัทแม่ “ชินวะ กรุ๊ป” ญี่ปุ่น ที่เข้ามาลงทุนอสังหาฯในไทยตั้งแต่ปี 2560 ในรูปแบบการร่วมทุน แต่ปี 2565 นี้จะเป็นปีแรกที่บริษัทชินวะ ฯ จะลงทุนพัฒนาเองโดยไม่มีผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาร่วมทุนเหมือนกับการลงทุนโครงการในช่วงก่อนหน้า โดยนำแลนด์แบงค์ที่ซื้อเก็บไว้ในมือหลายแปลงในทำเลที่มีศักยภาพทะยอยนำออกมาพัฒนาตามความเหมาะสมกับสภาวะตลาดและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในแต่ละทำเล

ซึ่งโครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ ออกแบบเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Japanese Modern สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในบ้านให้เป็น Private Empire ได้ด้วยการแบ่งเป็นโซนทำงานและอยู่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันได้  ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจและกลุ่มครอบครัวขยาย นอกจากนี้ยังได้นำเอาศาสตร์ด้านฮวงจุ้ย วิชาเต๋า-เหมาซานมาใช้ออกแบบบ้านทุกหลัง

โดยฟังก์ชั่นใช้สอยภายในตัวบ้านยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นบ้านที่ผสมผสานวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่เน้นความเรียบหรูบ่งบอกถึงรสนิยมเหนือระดับ ออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า มีการซ่อนฟังก์ชั่นอยู่ในพื้นที่ใช้สอยเพื่อเน้นการใช้งานจริงของการอยู่อาศัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*