ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เผยข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศช่วงไตรมาส 2 มีสินค้าประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง 162,716 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 9 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 6 ไตรมาสที่ผ่านมา สินค้าบ้านเดี่ยวประกาศขายมากที่สุดกว่า 6 หมื่นยูนิต ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นกลุ่มที่มีการประกาศขายมากขึ้น
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศในไตรมาส 2 ปี 2565ว่า มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 162,716 ยูนิต และมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 995,488 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภทที่อยู่อาศัยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าถึง 17.9%
สำหรับประเภทบ้านมือสองที่มีการประกาศขายมากที่สุด ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวจำนวน 64,392 หน่วย ห้องชุดจำนวน 49,250 ยูนิตและทาวน์เฮ้าส์จำนวน 42,626 ยูนิต ส่วนราคาบ้านมือสองที่ประกาศขายในช่วงไตรมาส พบว่า ระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทมีสัดส่วนประกาศขายมากที่สุด รองลงมาเป็นบ้านราคา 3.01 – 5 ล้านบาท และราคา 2.01 – 3 ล้านบาท
ส่วนระดับราคาบ้านที่มีอัตราการขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามากที่สุด คือ ระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าสูงถึง 56.1% รองลงมาคือ ระดับราคา 1.01–1.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% และระดับราคา 1.51–2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% สะท้อนให้เห็นว่าบ้านมือสองระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นกลุ่มที่มีการประกาศขายมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งให้สิทธิครอบคลุมบ้านมือสองด้วย
ทำเลที่มีการประกาศขายบ้านมือสองมากที่สุด 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ปทุมธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และนครราชสีมา โดยเฉพาะกรุงเทพฯมีสัดส่วนจำนวนหน่วย 38.6% และสัดส่วนมูลค่า 62.2% ของการประกาศขายทั้งหมด
