ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 7,290 ยูนิต เพิ่มขึ้น 19.0% มูลค่า 36,986 ล้านบาท  ส่งสัญญาณภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมมีการฟื้นตัวแล้ว ขณะที่ลูกค้าชาวจีน รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศไปแล้ว 3,562 ยูนิต

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์  เปิดเผยภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศว่า ยอดสะสมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 7,290 ยูนิต เพิ่มขึ้น 19.0% มูลค่า 36,986 ล้านบาท  โดยมีพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด 337,914 ตารางเมตร  แสดงให้เห็นว่าภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมน่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นแล้ว อีกทั้งยังมีกลุ่มคนซื้อใหม่จากชาวต่างชาติเข้ามาทดแทนแรงซื้อห้องชุดของชาวจีนที่หายไปจากข้อจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศในช่วงที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

ส่วนกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด คือ ลูกค้าชาวจีน มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศไปแล้วทั้งหมด 3,562 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 48.9% ของหน่วยทั้งหมด มูลค่ารวม 17,943 ล้านบาท รองลงมาเป็นรัสเซียจำนวน 420 ยูนิต,สหรัฐอเมริกา จำนวน 375 ยูนิต,สหราชอาณาจักรจำนวน 267 ยูนิต และชาวเยอรมัน จำนวน 231 ยูนิต

ล่าสุดคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) จะยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 แต่ผู้ที่จะเดินทางเข้าจีนยังคงต้องได้รับการตรวจแบบ PCR ก่อนขึ้นเครื่องจากประเทศต้นทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมง นับเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดห้องชุดในประเทศไทย แต่การกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวจีน จะนำมาซึ่งการซื้อห้องชุดเท่ากับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดู เนื่องจากสัดส่วนของหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ชาวจีนลดลงต่ำกว่า 50% ในปี 2565 จากเดิมเคยมีสัดส่วนสูงสุดกว่า 60%

โดยจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมมากที่สุด คือกรุงเทพฯ,ชลบุรี,สมุทรปราการ,ภูเก็ต และเชียงใหม่ แต่ส่วนใหญ่จะกระตัวอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 3,325 ยูนิต คิดเป็น 45.6% และชลบุรี จำนวน 2,155 ยูนิต คิดเป็น 29.6% โดยทั้ง 2 จังหวัดนี้มีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึง 75.2% ของทั่วประเทศ

ไตรมาส 3 ต่างชาติรับโอนกรรสิทธิ์ห้องชุด 2,860 ยูนิต สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส

ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศจำนวน 2,860 ยูนิต เพิ่ม 62.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้นในเชิงจำนวนหน่วยสูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส นับจากไตรมาส 3 ปี 2564 รวมทั้งยังมีจำนวนหน่วยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายไตรมาสในช่วง 3 ปีที่เกิดการระบาดของ COVID-19  (ปี 2563 – 2564) ที่มีจำนวน 2,092 ยูนิตต่อไตรมาส

ส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 14,668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  ซึ่งเพิ่มขึ้นในเชิงจำนวนมูลค่าสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสนับจากไตรมาส 1 ปี 2564 และยังเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ฯ ในช่วง 2 ปี ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีมูลค่าไตรมาสละ 9,979 ล้านบาท

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติระหว่างห้องชุดใหม่กับห้องชุดมือสอง พบว่า ชาวต่างชาติส่วนใหญ่รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดใหม่ถึง 69.3%  และห้องชุดมือสองแค่ 30.7% สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการห้องชุดใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในทำเลพื้นที่ชั้นใน หรือพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจของเมือง ซึ่งปัจจุบันมีอุปทานให้เลือกมากขึ้น ประกอบกับราคาห้องชุดใหม่ในทำเลเหล่านี้มีให้เลือกเพิ่มมากขึ้น ทำให้ห้องชุดใหม่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนต่างชาติ นอกเหนือจากสัญชาติจีนแล้ว ยังได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อจากรัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมัน และฝรั่งเศส

ส่วนราคาห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมากที่สุด จะอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน โดยมีการโอนจำนวน 1,247 ยูนิต คิดเป็น 43.6% ของจำนวนหน่วยทั้งหมดจำนวน 2,860 ยูนิต รองลงมาคือระดับราคา 3.01 – 5  ล้านบาท มีจำนวน 784 ยูนิต ระดับราคา 5.01 – 7.5 ล้านบาท มีจำนวน 395 ยูนิต ราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปมีจำนวน 260 ยูนิต และระดับราคา 7.51 – 10 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด 174 ยูนิต

ด้านขนาดห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ คือ ขนาดพื้นที่ 31 – 60 ตารางเมตรแบบ 1 – 2 ห้องนอน โดยมีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์จำนวน 1,340 ยูนิต ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตรแบบสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอน มีจำนวน 998 ยูนิต  ห้องชุดขนาด 61-100 ตารางเมตรแบบ 2 – 3 ห้องนอนขึ้นไป จำนวน 359 ยูนิต และห้องชุดขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตรแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไป  มีจำนวน 163 ยูนิต เมื่อพิจารณาย้อนหลังไปถึงปี 2561 พบว่า ห้องชุดขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร และขนาด 31- 60 ตารางเมตร เป็นประเภทห้องชุดที่คนต่างชาตินิยมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์รวมกันสูงกว่า 80% ในแต่ละไตรมาส

ส่วนราคาห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมากที่สุด จะอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน โดยมีการโอนจำนวน 1,247 ยูนิต คิดเป็น 43.6% ของจำนวนหน่วยทั้งหมดจำนวน 2,860 ยูนิต รองลงมาคือระดับราคา 3.01 – 5  ล้านบาท มีจำนวน 784 ยูนิต ระดับราคา 5.01 – 7.5 ล้านบาท มีจำนวน 395 ยูนิต ราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปมีจำนวน 260 ยูนิต และระดับราคา 7.51 – 10 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด 174 ยูนิต

ด้านขนาดห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ คือ ขนาดพื้นที่ 31 – 60 ตารางเมตรแบบ 1 – 2 ห้องนอน โดยมีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์จำนวน 1,340 ยูนิต ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตรแบบสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอน มีจำนวน 998 ยูนิต  ห้องชุดขนาด 61-100 ตารางเมตรแบบ 2 – 3 ห้องนอนขึ้นไป จำนวน 359 ยูนิต และห้องชุดขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตรแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไป  มีจำนวน 163 ยูนิต เมื่อพิจารณาย้อนหลังไปถึงปี 2561 พบว่า ห้องชุดขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร และขนาด 31- 60 ตารางเมตร เป็นประเภทห้องชุดที่คนต่างชาตินิยมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์รวมกันสูงกว่า 80% ในแต่ละไตรมาส

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*