โปรเจค แพลนนิ่งฯ เผยงบปี 65 รายได้รวม 438.83 ล้านบาท โต 10.66% กำไรสุทธิ 21.72 ล้านบาท บอร์ดเคาะปันผลในรอบ 3 ปี 0.01 บาท/หุ้น คิดเป็น 30.65% ของกำไรสุทธิฯ ทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/66 แนวโน้มดี ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างส่งสัญญาณฟื้นตัว รุกประมูลงานภาครัฐ-เอกชนรายใหญ่ พร้อมชำระคืนเงินกู้ต่อเนื่อง ลุ้นปิดหนี้ภายในปีนี้ ดันกระแสเงินสดปรับตัวดี ยกระดับความสามารถการทำกำไร
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 438.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 396.56 ล้านบาท จำนวน 42.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.66% และมีกำไรสุทธิ 21.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.04 ล้านบาท จำนวน 1.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.38%
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้โครงการตามแผนดำเนินงานที่วางไว้ รวมถึงปรับประมาณการรายได้จากโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้รับรู้รายได้เพิ่มในเดือนธันวาคม 2565 และมีกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะมีค่าใช้จ่ายผลตอบแทนพนักงานเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วก็ตาม
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในรอบ 3 ปี หลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 จำนวน 0.01 บาทต่อหุ้น จำนวนเงินไม่เกิน 8.60 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 อยู่ที่ 30.65% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) 8 พฤษภาคม 2565 กำหนดจ่ายปันผล 24 พฤษภาคม 2565 โดยมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 วันที่ 26 เมษายน2566 เพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 1 ปี 2566 คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างส่งสัญญาณที่ดี บริษัทจึงเตรียมความพร้อมยื่นประมูลงานภาครัฐ – เอกชน ซึ่งคาดว่าจะมีโครงการที่ทยอยลงทุนหลายงาน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่เป็นกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนชำระคืนเงินกู้ต่อเนื่อง โดยวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ชำระแล้ว 40 ล้านบาท และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ดำเนินการชำระเพิ่มเติม 40 ล้านบาท ซึ่งจะมีเงินต้นคงเหลือจำนวน 120 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถคืนเงินต้นหุ้นกู้ได้หมดภายในปีนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และทำให้กระแสเงินสดของบริษัทปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงาน ประกอบกับการชำระหนี้เงินกู้ครบจำนวน จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทปี 2566 เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
