กลุ่มอุดรพลาซ่าฯเผยมีแผนนำที่ดินสะสมแปลงงามย่านซีบีดี จ.อุดรธานี ผุดโครงการที่อยู่อาศัย หลังราคาที่ดินปรับพุ่งสูงไร่ละ 100 ล้านบาท อนาคต 2-3 ปี เล็งนำพื้นที่ร้านอาหาร ร้านค้าใน “ยูดี ทาวน์”ปรับเป็นโรงแรม เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลางข้าราชการเข้าถึง ด้านโรงแรมโมโค คาดปี 66 ลูกค้าต่างชาติปรับเพิ่มสูงเป็น 30-40% ล่าสุดเตรียมจัดงาน UDON SONGKRAN FESTIVAL 2023″ รับเทศกาลสงกรานต์ 12 – 16 เม.ย. 66 มั่นใจภาพรวมของเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวอุดรธานีในปีกระต่าย เติบโตทะลุ 100 %
นายธนกร วีรชาติยานุกูล
นายธนกร วีรชาติยานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้ดำเนินการศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ไลฟ์สไตล์มอลล์ใน จ.อุดรธานี ,ศูนย์ประชุม “มลฑาทิพย์ ฮอลล์” และ “HOTEL MOCO” (โรงแรมโมโค) เปิดเผยว่า ในอนาคตบริษัทฯมีแผนที่จะนำที่ดินย่านซีบีดีของจ.อุดรธานี ซึ่งมีจำนวน 2 แปลงๆละประมาณ 4 ไร่ มาพัฒนาโครงการอสังหาฯประเภทเรสซิเดนเชียล เนื่องจากราคาที่ดินในย่านซีบีดี เมืองอุดรธานี โดยเฉพาะถนนโพศรี และถนนทองใหญ่ ปัจจุบันราคาพุ่งสูงถึง 250,000 บาท/ตารางวา หรือไร่ละประมาณ 100 ล้านบาท ดังนั้นหากจะมีการลงทุนต้องให้คุ้มค่ากับราคาที่ดิน

โดยในเบื้องต้นอาจจะนำที่ดินแปลงบริเวณถนนทองใหญ่ ซึ่งใกล้กับศูนย์การค้ายูดีทาวน์ มาพัฒนาก่อน ซึ่งอาจจะพัฒนาในรูปแบบของที่พักแบบลองสเตย์ และคอนโดมิเนียม ที่สามารถพัฒนาให้มีความสูงได้ถึง 23 เมตร หรืออาจจะเป็นที่อยู่อาศัยในระดับพรีเมี่ยม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

นอกจากนี้ภายในระยะเวลา 2-3 ปีนี้ ยังมีแผนนำพื้นที่ที่เป็นร้านค้า ร้านอาหารเดิมในยูดีทาวน์ มาปรับเป็นโรงแรมแบรนด์ใหม่ มุ่มเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง และกลุ่มข้าราชการ ราคา 1,500 บาท/คืนขึ้นไป มากขึ้น เพื่อรองรับการประชุมและสัมมนามากขึ้น โดยจะใช้พื้นที่รวมประมาณ 2-3 ไร่ พัฒนาประมาณ 2 อาคารๆละไม่เกิน 79 ห้อง โดยจะแบ่งการพัฒนาเฟสละ 1 อาคาร แต่ละอาคารคาดว่าจะใช้งบในการลงทุนประมาณ 180-200 ล้านบาท และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปีเศษ/อาคาร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล

ส่วนความคืบหน้า“HOTEL MOCO” หลังเปิดให้บริการเกือบ 2 ปีปรากฏว่ามีอัตราการเข้าพักมากกว่า 60% ราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 2,856-8,556 บาท/คืน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย สัดส่วน 80% และต่างชาติ สัดส่วน 20% ส่วนใหญ่เป็นชาวสปป.ลาว โดยในปีนี้คาดว่าหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลาย และการประกาศเปิดประเทศแล้ว สัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติ จะปรับมากขึ้นเป็น 30-40%

ด้านศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ ปัจจุบันมีร้านค้าที่เป็นผู้ประกอบการจากส่วนกลาง ประมาณ 80 ร้านค้า และผู้ประกอบการท้องถิ่น ประมาณ 500-600 ร้านค้า ทั้งนี้แบ้วแต่ฤดูกาล โดยมีสัญญาเช่าตั้งแต่ 3-9 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขสัญญา สำหรับผู้เข้าใช้บริการในช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 ในช่วงวันธรรมดา มีประมาณ 10,000 คน/วัน และหลังวิกฤติ โควิด-19 มีผู้ใช้บริการในวันธรรมดา ประมาณ 8,000-10,000 คน/วัน

อย่างไรก็ตามในปี 2566  บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มร้านค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยในไตรมาส 2 จะมีการขยายอีกหลายเฟสของพื้นที่เปล่าเพื่อสร้างสีสันให้กับศูนย์การค้าฯ  เติมเต็มและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่มอย่างครบวงจร

สำหรับอีกหนึ่งบทบาทในฐานะนายกสมาคมนักธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี เชื่อมั่นว่าหลังการเปิดประเทศ 100% ที่ผ่านมา ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดอุดรธานี อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว เพราะสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดอุดรธานี รวมถึงในส่วนของผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรถเช่า โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร พร้อมรอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สำหรับในด้านบุคลากรทางสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานีได้มีการยกระดับองค์ความรู้รอบด้าน  เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในทุกภาคส่วนให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาคอีสานเต็มรูปแบบ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนมากกว่า 11 ล้านคน และเนื่องด้วย จังหวัดอุดรธานี เป็นจุดยุทธศาสตร์ในด้านการคมนาคมขนส่ง และมีจำนวนเที่ยวบินต่อวันสูงที่สุดในภาคอีสาน ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางเข้ามายังจังหวัดอุดรธานี สูงกว่า 1.77 ล้านคน จึงเชื่อมั่นว่าภาพรวมของเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีในปี 2566 จะเติบโตทะลุ 100 % ในไม่ช้า

นางสาวอภิชา วีรชาติยานุกูล
ด้านนางสาวอภิชา วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด กล่าวว่า การกลับมาของเทศกาลสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ และความพิเศษของการจัดงานUDON  SONGKRAN FESTIVAL 2023” การบริหารงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ที่ผ่านมา ด้วยการปรับ  กลยุทธ์ทางการตลาด ทำให้ศูนย์การค้าและพาร์ทเนอร์ ร่วมกันตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยูดี ทาวน์ ได้ซับพอร์ตร้านค้าในพื้นที่ทุกช่องทาง ทั้งการทำการตลาดผ่านสื่อโซเชียล การสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านคอนเทนต์ต่างๆ   รวมไปถึงการสร้างสรรค์อีเวนต์อย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรการรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด เป็นการกระตุ้นยอดขายในทุกช่วงเทศกาลเพื่อให้พาร์ทเนอร์สำเร็จในเป้าประสงค์ตามยอด และเนื่องจาก ยูดี ทาวน์ เป็นศูนย์การค้าที่ Open Air มีพื้นที่กว้าง หลักการบริหารไม่ใช่แค่ใช้พื้นที่ให้ก่อเกิดรายได้ในทุกมุม อีกหนึ่งไฮไลท์อันเป็นหัวใจสำคัญของ ยูดี ทาวน์ คือการจัดภูมิทัศน์โดยรอบให้มีเสน่ห์เข้ากับช่วงเทศกาลต่างๆ เพื่อให้ประทับใจผู้มาเยือนมากกว่าการเป็นศูนย์การค้า

ในส่วนบิ๊กอีเวนต์ โปรเจกต์สุดยิ่งใหญ่ “UDON SONGKRAN FESTIVAL 2023”เป็นการกลับมาในรอบ 3 ปี ที่ห่างหายไป ซึ่งในปีนี้กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่กว่าเดิม คูณ 2 โดยกำหนดการจัดงาน 5 วัน 5 คืนเต็ม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี

และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดรายได้ภายในจังหวัดอุดรธานี ความโดดเด่นของธีมงานในปีนี้ได้ผสมผสานความเป็นวัฒนธรรมอีสาน และเทศกาลดนตรีเข้าด้วยกัน ด้วยการดึงดีเจที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ Mike William ดีเจชื่อดัง จากประเทศเนเธอร์แลนด์, Gammer จากสหราชอาณาจักร, Bonka จากประเทศโคลัมเบีย, และดีเจชั้นนำระดับประเทศ กว่า 40 ชีวิต พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ วง Paradise Bangkok หมอลำอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นต้น

ในส่วนการเตรียมความพร้อมของพื้นที่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงจุดอำนวยความสะดวกต่างๆ   ที่ลานเดอะแลนด์ ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ 12,000 ตารางเมตรสามารถจุคนได้ถึง 20,000 คน ภายในบริเวณงานยังมีพื้นที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กองอำนวยการ ที่มีจุดบริการ นักท่องเที่ยว จุดตรวจคัดกรอง จุดตรวจอาวุธ ห้องสุขาเคลื่อนที่ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้รูปแบบภายในงานจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซน Family ที่สามารถมาสนุกกันได้ทั้งครอบครัว พร้อมอิ่มอร่อยกับร้านอาหารสตรีทฟู้ด กว่า 100 เมนู ผ่อนคลายไปกับบูธเครื่องดื่มและดีเจแนว House Music ตั้งแต่ 17.00 – 21.00 น. ทุกวัน และในส่วนของโซน EDM Party จำกัดเฉพาะผู้ที่มีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 โซน

โซน VVIP First Class ราคาโต๊ะละ 25,000 บาท / วัน / 6 ท่าน ราคา Early Bird เหมา 4 วัน (13 – 16 เมษายน 2566) จากราคา 100,000 บาท ลดเหลือ 78,000 บาท  จะได้รับ Private Dry Zone พื้นที่ความสนุกยกระดับแบบส่วนตัว Fast Lane ช่องทางเข้าส่วนตัว Restroom ห้องน้ำส่วนตัว Drink Package ชุดเครื่องดื่มสุดพิเศษ Private Parking Area (Shuttle Buggy) พื้นที่จอดรถส่วนตัวพร้อมรถรับ-ส่ง Premium Kit ชุดกิฟท์เซ็ทสำหรับปาร์ตี้เล่นน้ำ Photo Booth 360°C บูธถ่ายภาพสุดเก๋ ก่อนเข้างาน Foot Massage Voucher คูปองนวดเท้าฟรี 30 นาที จากร้านเพลินสปา นอกจากนี้ยังจะได้รับส่วนลด 10% จาก โรงแรม โมโค พร้อมลุ้นรับของรางวัลพิเศษมากมาย

โซน VVIP Business Class ราคาโต๊ะละ 12,000 บาท / วัน / 6 ท่าน  ราคา Early Bird เหมา 4 วัน (13 – 16 เมษายน 2566) จากราคา 48,000 บาท ลดเหลือ 35,000 บาท  จะได้รับ Private Dry Zone พื้นที่ความสนุกยกระดับแบบส่วนตัว Fast Lane ช่องทางเข้าส่วนตัว Restroom ห้องน้ำส่วนตัว Drink Package ชุดเครื่องดื่มสุดพิเศษ Premium Kit ชุดกิ๊ฟเซ็ทสำหรับปาร์ตี้เล่นน้ำ Photo Booth 360°C บูธถ่ายภาพสุดเก๋ ก่อนเข้างาน

โซน VIP (ยืน) ราคาสเตชั่นละ 19,200 บาท / วัน / 4 ท่าน ราคา Early Bird เหมา 4 วัน (13 – 16 เมษายน 2566) จากราคา 19,200 บาท ลดเหลือ 15,000 บาท จะได้รับ Private Dry Zone พื้นที่ความสนุกยกระดับแบบส่วนตัว Fast Lane ช่องทางเข้าส่วนตัว Restroom ห้องน้ำส่วนตัว Drink Package ชุดเครื่องดื่มสุดพิเศษ Premium Kit ชุดกิ๊ฟเซ็ทสำหรับปาร์ตี้เล่นน้ำ Photo Booth 360°C  บูธถ่ายภาพสุดเก๋ ก่อนเข้างาน

โซน GA (ทั่วไป) ราคา 400 บาท / วัน / 1 ท่าน ราคา Early Bird เหมา 4 วัน (13 – 16 เมษายน 2566) จากราคา 1,600 บาท ลดเหลือ 800 บาท

นอกจากนี้ภายในบริเวณการจัดงาน ยังมี Amazing Songkran Herritage กิจกรรมตามวิถีวัฒนธรรมไทย ให้ร่วมสรงน้ำพระพุทธรูป 9 วัดดังจากทั่วประเทศไทย เพื่อเสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ไทย ภายใต้สถาปัตยกรรมจำลองแบบพระอารามหลวงเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง 9 องค์ ที่ประชาชนนิยมเดินทางไปสรงน้ำในเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมร่วมก่อเจดีย์ทราย

“อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความสนุก และเก็บเกี่ยวความสุขในเทศกาลสงกรานต์จังหวัดอุดรธานีด้วยกัน ในวันที่ 12-16 เมษายน 2566 ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น. ณ ลานกิจกรรม เดอะแลนด์ ศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ อุดรธานี” นางสาวอภิชา กล่าว

นายภาสกร วีรชาติยานุกูล
ด้านนายภาสกร วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาทิพย์ 456 จำกัด บริหารงาน โรงแรมโมโค และศูนย์ประชุมนานาชาติมลฑาทิพย์ กล่าวว่า ความสำเร็จ และเป้าหมายส่วนต่อขยายในธุรกิจกลุ่มโรงแรม มีอัตราการเติบโตของธุรกิจกลุ่มโรงแรม โมโค และศูนย์ประชุมนานาชาติมลฑาทิพย์ เติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะโรงแรม โมโค ที่เปิดมาเกือบ 2 ปี นับว่าเป็นสีสันของจังหวัดอุดรธานี ได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง ในสัดส่วนนักเดินทางภายในประเทศ 80% และจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 20% ซึ่งถือว่าเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ราคาห้องพักที่แพงกว่า แต่เป็นที่ต้องการในกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์มาก

สำหรับในปี 2566 ยังคงวางแผนรุกการตลาดอย่างต่อเนื่อง  อาทิ การทำการตลาดทางโซเชียลในด้าน MARKETING COMMUNICATIONS ,การรีวิวโดย INFLUENCER เพราะนอกจากจุดเด่นในส่วนห้องพัก โรงแรม โมโค  ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์คือ “ห้องอาหารพา” ที่ให้บริการในลักษณะ  Chef’s Table โดยครีเอทอาหารเป็นคอร์ส  มีการเปลี่ยนเมนูไปตามซีซั่น เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าที่ต้องการจัดเลี้ยงแบบ Long Table  นับว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คเด็ดของจังหวัดอุดรธานี

ด้านศูนย์ประชุมนานาชาติมลฑาทิพย์ ได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดอีเว้นท์, ประชุมสัมนา, การจัดเอ็กซิบิชั่นกิจกรรมต่างๆ   โดยในเดือนมีนาคม จะมี 2 ร้านบุฟเฟ่ต์ระดับไฮเอนด์ Takeshi Gold และ NAMI เปิดใหม่ ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยระดับพรีเมี่ยม ซึ่งจะยิ่งทำให้ในส่วนของศูนย์ประชุมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรองนักท่องเที่ยว สำหรับงาน UDON  SONGKRAN FESTIVAL 2023  อีกหนึ่งกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ของจังหวัดอุดรธานี โรงแรม โมโค ร่วมส่งเคมเปญมอบส่วนลด 10% สำหรับโซน VVIP First Class ในฐานะเจ้าบ้านโรงแรม โมโค มีความยินดีและพร้อมต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกสารทิศ มุ่งหวังให้ผู้มาพักผ่อนได้รับทั้งความสุขและความประทับใจกลับไปแบบไม่รู้ลืม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*