RISC by MQDC ได้ฤกษ์เปิดหลักสูตรแรกของโลก “Well-Being Design & Engineering Program” พิเศษสำหรับผู้ขับเคลื่อนความอยู่ดีมีสุข หรือ “Well-Being Champion” ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นในการเฟ้นหาผู้นำหลายสายอาชีพที่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการสร้างWell-Being ที่จะนำองค์ความรู้ในหลักสูตรมาร่วมสร้าง ความเป็นอยู่ที่ดี และเชื่อมโยง ต่อยอดการสร้าง Well-Being Ecosystem เพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง โดยการเปิดหลักสูตรครั้งนี้มีผู้เข้าอบรมให้การตอบรับเกินเป้าหมาย เตรียมพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกในมิติต่างๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคตของทุกชีวิต
รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) และประธานหลักสูตรฯ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เปิดหลักสูตร “Well-Being Design & Engineering Program” ที่จัดทำขึ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างกลุ่มคน “Well-Being Champion” หรือ “ผู้ขับเคลื่อนความอยู่ดีมีสุข โดยหลักสูตร “Well-Being Design & Engineering Program” ถือว่าเป็นเจ้าขององค์ความรู้ (Proprietary Knowledge) เนื่องจาก RISC มีองค์ความรู้เชิงลึกจากงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์หลายศาสตร์ ที่ศึกษามาตลอดกว่า 10 ปี และมีการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลายศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ทำงานในการประยุกต์ความรู้ส่งเสริมให้เกิด Well-Being ในโครงการจริง ด้วยกระบวนการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานร่วมกัน และเรียนรู้จากตัวอย่างโครงการจริงจนสามารถนำความรู้ไปใช้งานจริงได้ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดี และความอยู่ดีมีสุขครบด้าน เป็นหลักสูตรแรกของโลกที่เรียนรู้จากงานวิจัยและการต่อยอดจากโครงการจริง ที่ไม่ใช่เพียงการสร้างความรู้สึก “มีความสุข” เท่านั้น แต่ยังผสานกับวิศวกรรมงานระบบเชิงประยุกต์ทั้งกระบวนการวางแผนและจัดการภาพรวม เชื่อมโยงทุกส่วนของการพัฒนาโครงการได้ เพื่อทำให้ที่อยู่อาศัย อาคารหรือโครงการ นำไปสู่ความอยู่ดีมีสุข (Well-Being) ได้อย่างยั่งยืน
นอกจากผู้เรียนจะได้รับฟังการบรรยายครั้งแรกโดย รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต ได้แนะนำหลักสูตรและสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญและองค์ประกอบของ Well-Being ในด้านความยั่งยืน 3 แกนหลัก คือ
1) ความยั่งยืนทางด้านจิตใจ (Mental/Emotional Well-Being)
2) ความยั่งยืนทางด้านร่างกาย (Physical Well-Being)
3) ความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม (Environment Well-Being) และองค์ความรู้เกี่ยวกับกรอบการปรับตัว เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคตของทุกชีวิต
ในการบรรยายครั้งต่อๆมายังได้รับองค์ความรู้จากวิทยากรหลายท่านที่เป็น “ผู้เชี่ยวชาญการสร้างความอยู่ดีมีสุข” ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการจริงตามความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่ทำงานตลอดกระบวนการจนเกิดการสั่งสมความรู้และประสบการณ์ในทุกแง่มุมของการประยุกต์ความรู้เชิงลึกที่พร้อมจะแบ่งปัน ทั้งผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่คลุกคลีและทำงานร่วมกับ RISC นำความรู้เชิงลึกมาประยุกต์ใช้ในโครงการจริง เช่น นายเกชา ธีระโกเมน ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด, ผศ.ดร.ศิรวัจน์ อิทธิภูริพัฒน์ หัวหน้าศูนย์วิจัยและนวัตกรรมประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และทีมนักวิจัย RISC ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาให้ความรู้ เช่น ดร.จิตพัต ฉอเรืองวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส และ Innovation Integration, ดร.สฤกกาพงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบูรณาการงานวิจัยเพื่อการเผยแพร่ หัวหน้า Happiness Science Hub, นายวสุธา เชน สถาปนิกวิจัยอาวุโส และผู้เชี่ยวชาญระดับ LEED AP BD+C, Fitwel Ambassador และ WELL AP และ นางสาวทิพทับทิม ภูมิพาณิชย์ สถาปนิกวิจัยอาวุโสSustainable Building Materials ฯลฯ
ส่วนการบรรยายครั้งล่าสุด รศ.ดร.สิงห์ ได้บรรยายเรื่อง Resilience Framework การวางแผนเชิงวิเคราะห์ล่วงหน้าเพื่อป้องกัน หรือ แก้ไขปัญหาใดปัญหาหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง อาทิปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ก่อนที่ผู้เรียน จะได้เรียนจากโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นโครงการที่นำเอาองค์ความรู้ด้านความอยู่ดีมีสุขมาสร้างให้เกิดขึ้นจริงเป็นโครงการเมืองคู่ป่าโครงการแรกของโลก
สำหรับผู้เข้าเรียนทาง RISC ได้คัดเลือกจากผู้สมัครจำนวนมาก ให้เหลือเพียง 50 คนมีหลักเกณฑ์สำคัญในการคัดเลือกอันดับแรกคือ พิจารณาจากประสบการณ์ทำงาน เนื่องจากเน้นให้ผู้เรียนรุ่นที่ 1 เป็น “ผู้ขับเคลื่อนความอยู่ดีมีสุข” กลุ่มแรกที่สามารถออกไปขับเคลื่อนองค์กรตนเอง หรือภาพใหญ่ในระดับเมืองให้เปลี่ยนแนวคิด และสามารถดำเนินงานด้าน Well-Being ได้ เพื่อให้เกิดความหลากหลายในการนำเอา Well-Being ไปใช้ให้ครอบคลุมในทุกวงการ เกิดการผลักดัน เชื่อมโยง และต่อยอดจนเกิด Well-Being Ecosystem