กลุ่มธรรมสรณ์ฯ อัดงบการตลาด 3 เท่าตัว ประกาศสร้างการรับรู้สินค้าถังเก็บน้ำถังบำบัดน้ำเสีย แบรนด์ “DOS Life”ผ่านการจัดแคมเปญ โอ้มายดอส Oh My DOS! เพราะความห่วงใยมันใหญ่บะเร่อบะร่าครั้งแรกในรอบ 30 ปี พร้อมดึงครอบครัวตันจรารักษ์ถ่ายทอดเรื่องราวสื่อสารให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงความห่วงใย  ผ่านนวัตกรรมด้วยแนวคิด Constant Caring  Innovation ตั้งเป้ารายได้ปี66 แตะ 4,100 ล้านบาท
นายดิศนิติ  โตวิวัฒน์
นายดิศนิติ  โตวิวัฒน์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท ธรรมสรณ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถังเก็บน้ำ และถังบำบัดน้ำเสีย แบรนด์DOS Life (ดอสไลฟ์) เปิดเผยว่า จากการที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เร่ิมกลับมาฟื้นตัว และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็จะยิ่งช่วยหนุนธุรกิจของบริษัทฯให้มีอัตราการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา ธุรกิจของบริษัทฯมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำมาก เพราะน้ำถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกครอบครัว ทุกอุตสาหกรรมต้องใช้ แต่เรื่องที่จะมีความเสี่ยงมากที่สุดคือเรื่องต้นทุนมากกว่า หากน้ำมันมีการปรับราคาขึ้นสูง ก็จะส่งผลให้เกิดความผันผวน ซึ่งต้องคอยเฝ้าระวัง เพราะหากน้ำมันมีการปรับราคาขึ้นสูงมาก บริษัทก็คงต้องมีการปรับราคาสินค้าขึ้นมาอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาเคยปรับราคาขึ้นไปสูงถึง 15% และได้มีการแบกรับภาระไว้บางส่วน

อย่างไรก็ตามจากการที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจดังกล่าวมาประมาณ 30 ปี ยังสามารถคงความเป็นเจ้าตลาดอันดับ 1 โดยปี 2565 ที่ผ่านมามีรายได้กว่า 3,700 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2566 จะสามารถทำรายได้ที่ 4,100 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากลูกค้าโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม ของผู้ประกอบการอสังหาฯทั้งหมดที่จดทะเบียนในและนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในสัดส่วนประมาณ 30% ,กลุ่มร้านค้า Business to Business (B2B) ที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 800 รายทั่วประเทศ ในสัดส่วน 30% ,กลุ่มโมเดิร์นเทรด สัดส่วน 30% และที่เหลืออีก 10% จะเป็นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มผู้สร้างบ้านเอง โดยกลุ่มลูกค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ทำรายได้ดีที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่แล้งที่สุด จึงมีความต้องการการกักเก็บน้ำสูง และเป็นภาคที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน

และแม้ว่าปัจจุบันจะเร่ิมมีคู่แข่งขันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างจังหวัดทั่วทุกภาค แต่บริษัทจะมีจุดแข็งในเรื่องของโรงงานผลิตที่มีทั้งหมด 7 แห่ง ครอบคลุม 6 จังหวัดในทุกภาค ได้แก่ สมุทรสาคร (โรงงานใหญ่),ลำพูน,สระบุรี,ภูเก็ต,หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีจังหวัดละ 1 แห่ง และ ขอนแก่น 2 แห่ง โดยมีกำลังการผลิตรวม 120,000 ใบ/เดือน โดยถังเก็บน้ำ มีขนาดตั้งแต่ 500-100,000 ลิตร ราคาตั้งแต่ 1,900-300,000 บาท ซึ่งเป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้บริษัทฯในสัดส่วน 70% ส่วนถังบำบัดน้ำเสีย มีราคาตั้งแต่ 500-100,000 บาทขึ้นไป

นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย ในการสร้างโรงงานและจำหน่ายถังเก็บน้ำ เนื่องจากมองว่าตลาดถังเก็บน้ำในประเทศอินโดนีเซียยังไม่มี ในขณะที่จำนวนประชากรมีมาก และความต้องการใช้ถังเก็บน้ำมีสูง โดยที่ผ่านมามีกำลังการผลิต 9,000 ใบ/เดือน สามารถสร้างรายได้ประมาณ 30 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ยังได้ขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา ด้วย โดยเป็นการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ในแต่ละประเทศ ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนโดยรวมไม่ถึง 10%

และในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯยังได้ร่วมมือกับดีลเลอร์ในประเทศกัมพูชา ในการขยายดีลเลอร์ในประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU)ประมาณปี 2567 ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

นายดิศนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้มากกว่าเดิมและสร้างการจดจำ-รับรู้แบรนด์สินค้าที่มากขึ้น จึงได้ประกาศจัดแคมเปญโอ้มายดอส Oh My DOS! เพราะความห่วงใย มันใหญ่บะเร่อบะร่าเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งเกิดขึ้นจากการเก็บรวบรวม Market Data และนำมาวิเคราะห์จนพบว่าน้ำคือสิ่งจำเป็นที่ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั้งอุปโภคและบริโภคดังนั้นความสะอาดคือปัจจัยหลักที่ผู้ใช้ต้องการ ในขณะเดียวกัน DOS เองได้มีการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองเรื่องความสะอาด ในแง่ของการกำจัดเชื้อโรคแบคทีเรีย  รวมถึงเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงทำให้ ผู้บริโภคให้การยอมรับในแบรนด์ DOS Life ทำให้ดอสไลฟ์คือแบรนด์ที่ได้ความนิยมในเรื่องของคุณภาพและทำให้ยอดขายเป็นอันดับ 1  ด้วยส่วนแบ่งสูงสุดของตลาดถังเก็บน้ำในปีที่ผ่านมา   และยังสามารถคว้า 2 รางวัลคุณภาพที่การันตีความเป็นเจ้าตลาดของเมืองไทย ได้แก่ รางวัล  NO.1 Brand Thailand และ รางวัลSuper Brands Thailand อีกทั้งยังมีผลพิสูจน์จริงในเรื่องของความสะอาด โดยได้รับการรับรองในระดับมาตรฐานสากล  ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในแบรนด์ DOS Life ในเรื่องความสะอาด และความปลอดภัย และจากฐานลูกค้าที่มีความหลากหลายในไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน   ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้คิดค้นนวัตกรรมป้อนสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง  รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายขึ้นและดีไซน์ที่ตอบโจทย์กับบ้านที่หลากหลายขึ้น ยืนยันด้วยรางวัล GOOD DESIGN AWARD ที่เป็นรางวัลระดับโลก  

ที่ผ่านมา DOS Life ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทุกคนในบ้าน ด้วยแนวคิดที่มุ่งมั่นจะทำให้ทำทุกๆคุณภาพชีวิตดีขึ้น เราจึงอยากสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยให้ทุกคนหันมาคำนึงถึงความสำคัญของถังเก็บน้ำ ทางทีมได้มีการพูดคุยและปรึกษากันเยอะมาก เพื่อที่จะหาตัวแทนครอบครัวที่จะมาเป็น DOS FAMILY และในแคมเปญนี้สุดท้ายเราก็ได้รับเกียรติจากครอบครัวตันจรารักษ์โดยมีคุณบีมกวี คุณออย และน้องพีร์ น้องธีร์  มาร่วมถ่ายถอดเรื่องราวและสื่อสารให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงความห่วงใย  ใส่ใจที่  DOS Life สั่งสมมานาน ถ่ายทอดผ่านนวัตกรรมด้วยแนวคิด Constant Caring  Innovation  เพื่อคงความเป็นผู้นำในด้านการออกแบบ

นวัตกรรมที่ใส่ใจห่วงใยในทุกคุณภาพชีวิต ให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ว่า DOS Life ไม่ได้เป็นแค่ถังเก็บน้ำเท่านั้น แต่ภายในยังบรรจุความห่วงใยที่สะท้อนผ่านนวัตกรรม เพื่อช่วยทำให้น้ำสะอาดและปลอดภัย มั่นใจทุกครั้งที่ใช้น้ำ ส่งมอบความสุขง่ายๆ ผ่านสายน้ำที่ผู้บริโภคได้สัมผัสในทุกวัน ซึ่งเหมือนกับครอบครัวตันจรารักษ์ที่มีความห่วงใยคนในครอบครัวที่ดีนายดิศนิติกล่าว

โดยแคมเปญดังกล่าวจะทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้ความเข้าใจครั้งใหม่ โดยจะมองเรื่องน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่ถังเอาไว้สำรองน้ำดังเช่นปัจจุบัน และถังเก็บน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญในบ้าน ที่จะส่งมอบน้ำที่มีคุณภาพ สะอาดและปลอดภัยสู่ผู้บริโภค โดยในปี 2566 นี้ DOS Life ได้เพิ่มงบด้านการตลาดสูงขึ้น 3  เท่า เพื่อกระจายการรับรู้ผ่านสื่อโฆษณาเพื่อให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มในทุกช่องทางการสื่อสาร และ DOS Life คาดการณ์ว่าในปี 2566 จะสามารถเติบโตได้มากกว่า15% คิดเป็นตัวเลขประมาณ 4,170 ล้านบาทในตลาดถังเก็บน้ำ นอกเหนือจากนี้  ในด้านกิจกรรมเพื่อสังคมที่ดอสไลฟ์ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ตั้งเป้าในการส่งมอบถังเก็บน้ำให้แก่โรงเรียน ชุมชน หรือองค์กรที่ต้องการถังเก็บน้ำประมาณ 800-1,000 ใบ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในสังคมให้ดีขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*