ศุภาลัยฯเผยไม่คาดหวังความช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดใหม่กระตุ้นภาคอสังหาฯ หวั่นปรับขึ้นค่าแรง 450 บาท/วัน ดันราคาที่อยู่อาศัยพุ่งอีก 5% ครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่ไปแล้ว 10 โครงการ รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท ด้านตลาดต่างจังหวัดแชมป์ยืนหนึ่ง มั่นใจภายใน 4-5 ปีขยายเพิ่มรวม 35 จังหวัด ทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะชลบุรี ขยายมากสุดรวม 22 โครงการ ล่าสุดเตรียมเปิดพรีเซล “ศุภาลัย เอสเซ้นส์ อ่างศิลา” มูลค่า 1,200 ล้านบาท วันที่  15-16 ..66 นี้ คาดยอดขาย-รายได้ทั้งปีตามเป้าเท่ากัน 36,000 ล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลัง 2566 ว่า มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรก และไม่ได้มีความคาดหวังรัฐบาลชุดใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นภาครวมธุรกิจอสังหาฯมากนัก ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงเป็น 450 บาท/วัน ตามนโยบายของพรรคที่จะขึ้นเป็นรัฐบาลชุดใหม่นั้น มีความเห็นด้วยในเรื่องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ แต่ก็ควรที่จะค่อยๆทยอยปรับขึ้นมากกว่า เพราะหากปรับขึ้นรวดเดียว เชื่อว่าราคาที่อยู่อาศัยต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นอีก 5% แน่นอน
สำหรับการลงทุนของบริษัทฯในครึ่งปีแรก 2566 ในครึ่งปีแรก เปิดตัวไปแล้ว 10 โครงการ รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท จากแผนทั้งปีที่จะเปิดตัว 37 โครงการ รวมมูลค่า41,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในกทม.สัดส่วน 58% และต่างจังหวัด42% ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)ช่วงระยะเวลา 5 ปี (2561-2565)สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ของอสังหาฯในภูมิภาคมีมูลค่ารวมกว่า 300,000 ล้านบาท และแนวโน้มตลาดอสังหาภูมิภาค โดยเฉพาะพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)นั้น ตลาดคอนโดฯมีอัตราการเติบโตคิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท  ขณะที่แนวราบ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าเกือบ 120,000 ล้านบาท

ซึ่งตลาดต่างจังหวัดนั้นจนถึงปี 2566 บริษัทฯมีการพัฒนาแล้ว 28 จังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคโดยเป็นการลงทุนในภาคใต้และภาคตะวันออกมากที่สุด 11%เท่ากัน รองลงมาเป็นภาคอีสาน10% ,ภาคเหนือ 7%,ภาคกลาง 2% และภาคตะวันตก 1% ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถทำยอดขายจากโครงการแนวราบเกือบ 14,000 ล้านบาท และในปี 2566 คาดว่าจะสามารถดันยอดขายเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท โดย 5 จังหวัดแรกที่มียอดขายสูงสุด คือ ชลบุรีสัดส่วน 15% ,ภูเก็ต 13%,ระยอง 10%,เชียงใหม่ 9% และสงขลา 8% 

ภายในระยะเวลา 4-5 ปีนี้จะขยายโครงการในต่างจังหวัดให้ได้ 35 จังหวัด ทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งมีที่ดินรองรับการพัฒนาเกือบทั้งหมดแล้ว โดยเราจะไม่พัฒนาโครงการเดียวแบบตีหัวเข้าบ้านแค่โครงการเดียวแล้วกลับอย่างแน่นอน โดยเฉพาะชลบุรี มีผู้ประกอบการที่แข็งแกร่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้พัฒนาแล้วเกิดความสนุก เพราะสามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ อีกทั้งสามารถสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าเกิดการบอกต่อได้ แม้ว่าเราจะไม่ใช่รายใหญ่ในชลบุรี แต่ก็เป็นบิ๊กแบรนด์ที่ชลบุรีเช่นกัน”นายไตรเตชะ กล่าว

นายไตรเตชะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจ.ชลบุรี มีสัญญาณการขยายตัวมาตั้งแต่กลางปี 2565 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ดีมานด์ตลาดต่างชาติยังคงสูง โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่อยู่พื้นที่EEC ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรจริงและประชากรแฝง ก่อให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นจากกลุ่มผู้ประกอบการส่วนกลางและในพื้นที่ โดยศุภาลัยซึ่งได้เข้ามาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ในจ.ชลบุรีมานานถึง 10 ปี รวมทั้งสิ้น 22 โครงการ ก็แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากชาวชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงมาโดยตลอดจากยอดขายที่เติบโตขึ้นในทุกปี และด้วยประสบการณ์อันแข็งแกร่งผสานความเป็นมืออาชีพทั้งในด้านทำเล ผลิตภัณฑ์และการตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้อยู่อาศัย ทำให้ในปี 2565 โครงการในจังหวัดชลบุรี ทำยอดขายยืน 1 ในส่วนตลาดภูมิภาค ด้วยมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และยังคงรักษาการเติบโตที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องในอันดับ 1 เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
“ชลบุรี เป็นจังหวัดที่เราพัฒนาโครงการมากที่สุดถึง 22 โครงการ รวมมูลค่า 19,240 ล้านบาท แต่ก็ทำตลาดได้ยากที่สุด โดยเฉพาะปีแรกๆ โดยพฤติกรรมของลูกค้าจะแปลกที่สุด เช่น พัทยาเปิดสำนักงานขายตอนเช้าจะยังไม่มีลูกค้ามา แต่จะมาชมโครงการในช่วง 11.00 น. เป็นต้นไปเนื่องจากส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในช่วงกลางคืน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีตัวขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจอีกมากมาย อาทิ มีนิคมอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก ดังนั้นลูกค้าจะเลือกซื้อโครงการที่อยู่ในแนวเส้นทางที่รถรับ-ส่งวิ่งผ่านเท่านั้น และไม่ได้ให้ความสำคัญโครงการที่อยู่ริมถนนใหญ่มากนักอีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งการขนส่ง นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีแหล่งการแพทย์ แหล่งท่องเที่ยวสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า เป็นจำนวนมาก”นายไตรเตชะ กล่าว

 

สำหรับในครึ่งปีแรก 2566 บริษัทฯสามารถทำยอดขายรวมได้ 17,285 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากดีมานด์เกิดความไม่มั่นใจอละชะลอตัวก่อนการเลือกตั้งเมื่อวันวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ไปเล็กน้อย แต่ทั้งปี 2566บริษัทฯมั่นใจว่ายอดขายรวมได้ตามเป้าที่วางไว้ 36,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 36,000 ล้านบาทเช่นกัน

นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์
ด้านนายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) หรือ SPALI  กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556-2566)ราคาที่ดินบริเวณถนนสุขุมวิทอ.เมือง จ.ชลบุรี พุ่งสูไปถึง 100% คือจากราคา 10,000-60,000 บาท/ตารางวา ในปี 2556 และปรับขึ้นไปที่ 90,000-130,000 บาท/ตารางวา ทั้งนี้ด้วยความสำเร็จและเสียงตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในจ.ชลบุรีและใกล้เคียงที่ให้ความไว้วางใจในบริษัทฯ อย่างดีเสมอมา ทำให้ ศุภาลัย เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ล่าสุดระดับลักชัวรี ภายใต้แบรนด์“ศุภาลัย เอสเซ้นส์ อ่างศิลา” ขึ้นมาบนพื้นที่กว่า 29 ไร่ ประกอบด้วย บ้าน New Series สูง 3 ชั้น สไตล์ Modern Luxury ขนาดตั้งแต่57-108 ตารางวา ราคาเร่ิมต้นที่ 13-18 ล้านบาท ,บ้านแฝด ขนาด 49-61 ตารางวา ราคาเร่ิมต้นที่ 11-13 ล้านบาท และทาวน์โฮม ขนาด 20-36 ตารางวา ราคาเร่ิมต้นที่ 4.9-6.5 ล้านบาทจำนวนทั้งหมด 147 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าและทำยอดขายทะลุ 150 ล้านบาทไปแล้ว ซึ่งจะเปิด PRE-SALE อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 – 16 กรกฎาคม 2566 นี้ โดยจองภายในงานรับรถไฟฟ้า TESLA Model 3 หรือส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท* สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ มูลค่าสูงสุด100,000 บาท* ก่อนใครที่ https://bit.ly/3Podmq6  (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*