ภายหลังจากที่กลุ่ม “นางสาวจิณิณ ตระการสืบกุล” ทายาทของผู้ผลิตรองเท้าแตะ “ม้าดาว” และผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ภูพบฟ้า จำกัด ได้นำที่ดินบริเวณเขาใหญ่ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการรวบรวมกว่า 10 ปี จำนวนทั้งหมด 226 ไร่ โดยได้เริ่มต้นจากการแบ่งที่ดินจำนวน 99 ไร่ พัฒนาโครงการ ภายใต้ชื่อ “เดอะ เครสตัน ฮิลล์” (The Creston Hills) ห่างจากถนนธนะรัชต์ประมาณ 500 เมตร พัฒนาในรูปแบบของที่ดินจัดสรร เพื่อสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศ จำนวน 57 แปลง แบ่งพัฒนาเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกมีจำนวน 25 แปลง และเฟสสอง มีจำนวน 32 แปลง ราคาขายในขณะนั้นคืออยู่ที่ประมาณ 6.5-7.5 หมื่นบาท/ตารางวา พร้อมสัญญาให้ปลูกบ้านบนที่ดินดังกล่าว มีแบบบ้านสไตล์อเมริกันให้เลือก  4 แบบ พื้นที่ใช้สอย 600-800 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำทุกหลัง ระดับราคา 55-100 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายไปเมื่อปี 2557 ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 40 กว่าแปลง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80%
และเพื่อเป็นการเดินหน้าการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่ม “ตระการสืบกุล” จึงได้ทำที่ดินที่เหลือมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีก 2 ส่วน คือ ส่วนของที่อยู่อาศัย ภายใต้แบรนด์ “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์” และ “Veya Wellness Resortโดยได้ดึง “นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ มาบริหารงานในตำแหน่ง ประธานกรรมการ บริษัท เครสตั้น โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารโครงการ “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์” และ “Veya Wellness Resort
นายชยดิฐ หุตานุวัชร์
นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานกรรมการ บริษัท เครสตั้น โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทุกคนจะทราบกันดีว่า เป็นทำเลที่นิยมซื้อพักเป็นบ้านหลังที่สองเพื่อมาพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินบริเวณเขาใหญ่ มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) หากแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ จะยิ่งส่งผลให้ราคาที่ดินย่านาเขาใหญ่ ปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ดินติดน้ำจะค่อนข้างหาได้ยาก ปัจจุบันราคาที่ดินสูงสุดอยู่ที่ประมาณเกือบ 200,000 บาท/ตารางวา

ล่าสุดได้ร่วมมือกับบันยันทรี กรุ๊ป ในรูปแบบของ JOINT COLLABORATION โดยบันยันทรี กรุ๊ป จะดูแลในส่วนของ Branding  ภาพลักษณ์ การออกแบบ และกลยุทธทางการตลาด ด้วยการนำที่ดินจำนวน 71 ไร่ มาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์” โดยเฟสแรกจะประกอบด้วยพูลวิลล่า 3-4 ห้องนอน ขนาดที่ดินตั้งแต่ 200-330 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 60-96 ล้านบาท จำนวน 21 ยูนิต และคอนโดมิเนียม จำนวน 16 อาคาร  ขนาด 1-3 ห้องนอน  พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 65-300 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 13-56 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น Branded Residences ระดับลักชัวรีแห่งแรกของเขาใหญ่ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทยสัดส่วน 80% และชาวต่างชาติที่ทำงานและพักอาศัยในประเทศไทย สัดส่วน 20% ซึ่งได้เปิดพรีเซลไปเมื่อไตรมาส 2/2566 ที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2571 สำนักผู้ซื้อเพื่อการลงทุน มั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 4-5% ต่อปี

ส่วนเฟสที่ 2 จะพัฒนาในรูปแบบของโรงแรมภายใต้แบรนด์บันยันทรี และ Veya Wellness Resort  ที่เป็นแบรนด์ใหม่ของบันยันทรี ตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเป็นหลัก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2570-2571  และเฟสที่ 3 ก็จะเป็นการพัฒนาวิลล่า และคอนโดฯ เช่นกัน รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 17,000 ล้านบาท

นายสจ๊วต เรดดิ้ง
นายสจ๊วต เรดดิ้ง กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มบริษัทบันยันทรี กล่าวว่า แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปี 2566 โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของเขตเมืองที่เพิ่มขึ้น ตามการคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดหลัก รวมถึงนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขาใหญ่จะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นช่วงปี 2566-2568 ด้วยปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะกลับมามีจำนวนเท่าช่วงก่อนโควิด-19 ภายในปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์นครราชสีมาและเขาใหญ่ได้รับแรงหนุนจากบทบาทในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนนมอเตอร์เวย์ และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่จะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายบ้านพักตากอากาศในอนาคต

“โครงการ Branded Residences ในเมืองไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถือเป็นพื้นที่เปี่ยมศักยภาพ เป็นทำเลสุดไพรม์สำหรับตลาดในประเทศมาเป็นเวลาหลายปี ด้วยระยะทางที่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 200 กิโลเมตรเพียง 200 กิโลเมตร ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ การท่องเที่ยวแนวผจญภัย และอากาศที่บริสุทธิ์ เขาใหญ่ถือเป็นเดสติเนชันการพักผ่อนที่ช่วยให้คนไทยได้หลีกหนีความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ตลอดเวลาที่ผ่านมา บันยันทรี ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการคงไว้ซึ่งธรรมชาติอันงดงาม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกับพันมิตรในทุ ๆ พื้นที่ที่เราให้บริการ เรายึดมั่นในพันธกิจ 3 ประการ ได้แก่ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างคุณค่าให้แก่สังคม และความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม” นายสจ๊วต กล่าว

นายสจ๊วต กล่าวเพิ่มเติมว่า วิลล่าทุกหลังได้รับการตกแต่งอย่างครบครันและให้คุณลงทุนได้อย่างมั่นใจ ด้วยการบริหารจัดการระดับโรงแรม 5 ดาว อีกทั้งเจ้าของวิลล่ายังได้รับการสิทธิพิเศษในการเข้าพักโรงแรมในเครือบันยันทรีทั่วโลก พูลวิลล่าได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความเงียบสงบเป็นส่วนตัวเพื่อเพิ่มสุนทรียภาพสูงสุดให้กับผู้พักอาศัยโดยเน้นการดีไซน์ที่เปิดรับธรรมชาติด้านนอก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้หน้าต่างที่สูงโปร่งและประตูกระจกบานเลื่อน ห้องนอนทุกห้องได้รับการออกแบบให้มีสวนส่วนตัว สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวภายนอกได้ทุกครั้งที่พักผ่อนอยู่ภายใน การออกแบบภายในวิลล่าใช้โทนสีที่เข้ากันกับผืนป่าและทิวทัศน์หุบเขาอันเงียบสงบด้านนอก

“เราเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ซื้อไว้ลงทุน ไว้เป็นบ้านพักอาศัยหลังที่สอง หรือบ้านพักตากอากาศ ผู้ครอบครองบ้านในโครงการของเราสามารถมั่นใจได้ในมาตรฐานสูงสุดของการอยู่อาศัยภายใต้แบรนด์บันยันทรี เรานำเสนอโครงการเปี่ยมคุณภาพเพื่อการใช้ชีวิตที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมด้วยทีมงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกตลอดการอยู่อาศัย ซึ่งมั่นใจได้ว่าเจ้าของโครงการจะสะดวกสบายไปกับการจัดการทรัพย์สินที่ไม่ยุ่งยากควบคู่ไปกับการดูแลโครงการเพื่อการขายต่อที่คุ้มค่าในอนาคต” นายสจ๊วต กล่าว

นอกจากนี้ เจ้าของโครงการจะได้เอกสิทธิ์ในการเป็นสมาชิก The Sanctuary Club ซึ่งเป็นโปรแกรมซิกเนเจอร์ที่จะมอบสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ ส่วนลดพิเศษสำหรับที่พักในเครือบันยันทรีทั่วโลก สิทธิ์ในการจองก่อนใคร การเช็กอินก่อนเวลา การเช็กเอาท์หลังเวลา และการรับเชิญก่อนใครผ่านโปรแกรม Xperential Guest นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่บริการได้ในหลายภาษา และมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับโปรเจกต์ใหม่ ๆ ก่อนใครเพื่อยกระดับการอยู่อาศัยขึ้นไปอีกขั้น

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*