นิติบุคคลโครงการ “เดอะ เม็ท สาทร”เผยศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคอนโดฯหรูหยุดก่อสร้างพร้อมเพิกถอน EIA และใบอนุญาตก่อสร้าง “125 สาทร” อ้างโครงการขนาดใหญ่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
นางสาวชิดชนก เลิศอำพรไพศาล
นางสาวชิดชนก เลิศอำพรไพศาล ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด “เดอะ เม็ท สาทร” เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งให้คอนโดฯหรู “125 สาทร” หยุดก่อสร้างพร้อมเพิกถอนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ “125 สาทร” บนถนนสาทรใต้ ที่แม้จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว โดยคดีดังกล่าวเป็นการฟ้องคดีโดยเจ้าของร่วมอาคารชุด “เดอะ เม็ท สาทร” (ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินผืนเดียวกัน)

ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางนิติบุคคล โครงการ “เดอะ เม็ท สาทร” ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความเห็นชอบการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการออกใบอนุญาตก่อสร้างสำหรับโครงการ “125 สาทร”  โดยเดิม บริษัท เพบเบิล เบ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ “เดอะ เม็ท สาทร” และ เป็นเจ้าของที่ดินขนาด 10 ไร่ ซึ่งต่อมาเมื่อปี 2547 เพบเบิล เบ ประเทศไทย ได้แบ่งที่ดินดังกล่าวออกเป็นสองแปลง ได้แก่ ที่ดิน 7 ไร่ สำหรับการก่อสร้างโครงการ “เดอะ เม็ท สาทร” และที่ดิน 3 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่จะมีการก่อสร้างโครงการ “125 สาทร” ปัจจุบันที่ดินดังกล่าวเป็นของ บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และหุ้นส่วนบริษัทญี่ปุ่นสองราย ได้แก่ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (Kanden Realty & Development Company Limited) และ บริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (Toray Construction Company Limited)

เนื่องจากที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว ได้ใช้ในการขออนุญาตก่อสร้างโครงการ “เดอะ เม็ท สาทร” ไปแล้ว ดังนั้นที่ดินทั้ง 10 ไร่ จึงอยู่ภายใต้การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ในคดีนี้นิติบุคคลโครงการ “เดอะ เม็ท สาทร” ได้กล่าวอ้างว่าแบบอาคารของโครงการ “125 สาทร” มีขนาดใหญ่เกินกว่าขนาดอาคารที่กฎหมายกำหนด หลังจากหักพื้นที่ดินของ “เดอะ เม็ท สาทร” ออกจากพื้นที่ 10 ไร่

คำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีนี้ เกิดขึ้นภายหลังคำพิพากษาคดีคอนโดฯหรูหลายแห่ง รวมถึง “แอชตัน อโศก” แสดงให้เห็นว่าศาลได้ให้น้ำหนักมากขึ้นกับข้อกังวลและการดำเนินคดีของชุมชนแวดล้อม ที่มีความเสี่ยงว่าจะถูกโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่บดบังไปเสียหมด

ในคดีนี้ ศาลปกครองกลางได้อาศัยอำนาจตามกฎหมายและมีคำสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบรายงาน EIA และใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ “125 สาทร” โดยมีผลย้อนหลัง ซึ่งคำพิพากษานี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบได้พิจารณาและหากลไกทางกฎหมายที่ปกป้องสิทธิของชุมชนที่อยู่มาก่อนได้ดีกว่านี้เพื่อที่การฟ้องคดีเพื่อขอพึ่งบารมีศาลจะเกิดขึ้นเฉพาะในกรณีข้อยกเว้นมากกว่าที่จะเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันเป็นปกติ

อนึ่ง โครงการ “125 สาทร”ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 3.1 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดฯ สูง 36 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 28.5-330 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 5.9 ล้านบาทขึ้นไป จำนวนทั้งหมด 755 ยูนิต มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท

และก่อนหน้านี้ทางโครงการ “125 สาทร”  ได้ประกาศที่จะให้ตรวจสอบเอกสารที่ยื่น EIA จำนวนกว่า 8,000 หน้า ซึ่งมั่นใจว่าทุกอย่างดำเนินการอย่างโปร่งใส โดยใช้ระยะเวลาในการยื่นของ EIA ตามมาตรฐานคือระยะเวลา 1 ปี โดยดำเนินการถูกต้องภายใต้กฎหมายและพยายามให้เกิดการกระทบกับเพื่อนบ้านน้อยที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อมีการออกแบบโครงการเสร็จเรียบร้อย จะต้องส่งให้กับทางสถานทูตสิงคโปร์ตรวจสอบก่อน ซึ่งก็ผ่านหมดทุกอย่าง

อีกทั้งที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐเองก็ได้มีการแถลงชี้แจงให้รับทราบแล้วว่า การดำเนินการทุกอย่างพิจารณาอย่างโปร่งใส่และดำเนินการภายใต้กฎเกณฑ์ของกฎหมายทุกฉบับ ส่วนลูกค้าเองก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะก่อซื้อโครงการทุกคนก็ต้องมีการค้นคว้าข้อมูลก่อนอยู่แล้ว ซึ่งบริษัทก็มีข้อมูลให้ตรวจสอบ โดยลูกค้าก็เข้าใจและไม่เปลี่ยนใจในการตัดสินใจซื้อ และมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนกับโครงการคอนโดฯในย่านสุขุมวิทอย่างแน่นอน ด้านการก่อสร้างก็จะเป็นไปตามแผน

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*