เฮอริเทจ เชียงรายฯเผยภาพรวมตลาดโรงแรมในจ.เชียงราย หลังวิกฤติโควิด-19 เติบโตต่อเนื่อง  แนะผู้ประกอบการหากจะลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดี การเงินแกร่ง สายป่านยาว แนะภาครัฐหนุนเพิ่มไฟลท์บินตรงจากต่างประเทศมากขึ้น หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวหัวเมืองรอง ส่วนประกาศฟรีวีซ่า ไม่ช่วยกระตุ้นชาวจีนกลับมา เหตุยังมีหลากปัจจัยลบในประเทศจีน มั่นใจศักยภาพการบริการ ลูกค้าเข้าพักต่อเนื่อง ระบุหมดยุคแข่งขันตัดราคาชิงลูกค้าเข้าพัก หันเสริมแกร่งเอื้อตลาดท่องเที่ยวจังหวัดบูม ล่าสุดร่วมมือภาครัฐเอกชน เปิดพื้นที่รร.ให้ศิลปินร่วมแสดงงานศิลปะ จากการจัดงาน  “ไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023”
นายบัณฑิต มาลัยลักษณ์
นายบัณฑิต มาลัยลักษณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดโรงแรมในจังหวัดเชียงราย ปี 2566 ว่า ปัจจุบันเชียงรายมีโรงแรมระดับ 2-6 ดาว มากถึงกว่า 10,000 ห้อง ซึ่งเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการในท้องถิ่น และผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อว่าหากธุรกิจท่องเที่ยวมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มก็จะมีโรงแรมเปิดให้บริการใหม่อย่างต่อเนื่อง

แต่ทั้งนี้ จ.เชียงราย ยังถือว่าเป็นเมืองรอง หากผู้ประกอบการจะเข้ามาพัฒนาธุรกิจโรงแรม คงต้องมีการพิจารณาและศึกษาข้อมูลให้มาก เพราะธุรกิจโรงแรมในจ.เชียงราย จะมีอัตราการการเข้าพักที่ดีเฉพาะในช่วงไฮซีซั่น (ช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์)ของทุกปีเท่านั้น อีกทั้งเที่ยวบินของสายการบินต่างๆก็มีจำนวนจำกัด หากจะมีการลงทุนโรงแรม ก็คงต้องใช้ระยะเวลานานในการคืนทุน  แต่ที่ผ่านมายังมีผู้ประกอบการบางรายกล้าลงทุนในธุรกิจโรงแรมใน จ.เชียงราย เพราะไม่มีความเสี่ยง ทั้งในเรื่องของต้นทุนที่ดิน มีศักยภาพทางด้านการเงิน และมีสายป่านที่ยาว

ทั้งนี้จึงอยากให้ภาครัฐให้การช่วยเหลือในเรื่องการเพิ่มเที่ยวบินในประเทศ และเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศได้มากขึ้น อีกทั้งอยากให้ลดค่าบัตรโดยสาร(Boarding Pass)เครื่องบิน เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวจ.เชียงราย ได้มากขึ้น

สำหรับในส่วนของโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น นั้น หลังผ่านวิกฤติโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้ หลังที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาประกาศเปิดประเทศและปลดล็อกโควิด-19 ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวเร่ิมฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา โรงแรมฯมีอัตราการเข้าพักประมาณ 60% โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นลูกค้าคนไทย 40% และต่างชาติ 20% ซึ่งเป็นชาวเกาหลีมากสุด สัดส่วน 12-15% รองลงมาเป็นชาวสเปน,ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ที่ส่วนใหญ่มาพักเป็นกรุ๊ปใหญ่

ขณะที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ยังไม่ค่อยมีเดินทางกลับมาเที่ยวมากนัก อันเนื่องมาจากหลายปัจจัยในประเทศจีน อาทิ การจำกัดเรื่องพาสปอร์ต และกังวลในเรื่องความปลอดภัยในประเทศไทย เป็นต้น ดังนั้นการที่รัฐบาลประกาศฟรีวีซ่าชั่วคราวให้ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนนั้น มองว่าอาจจะไม่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในส่วนนี้มากนัก

อย่างไรก็ตามในส่วนของโรงแรมจะเน้นเรื่องกลยุทธ์ทางการตลาด เน้นเรื่องคุณภาพและบริการ ที่สร้างความหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของห้องอาหาร ก็เปิดให้บริการเร็วขึ้น โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30 น.เพื่อรองรับลูกค้าที่นิยมกีฬาตีกอล์ฟ ที่ต้องไปออกรอบในเวลาเช้า ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากเอเยนต์และลูกค้าป็นอย่างดี

อีกทั้งทางโรงแรมยังมีแผนที่จะนำอาคารพาณิชย์ บริเวณด้านหน้าโรงแรม จำนวนทั้งสิ้น 14 ยูนิต จากทั้งหมด 26 ยูนิต รีโนเวทเป็นเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ ราคาประมาณ 590-690 บาท/ห้อง/คืน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อปานกลาง ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการวางแผนงาน

สำหรับการแข่งขันของโรงแรมต่างๆใน .เชียงราย นั้น ในอดีตจะแข่งขันกันในเรื่องของราคาแต่หลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา สมาคมโรงแรมใน จ.เชียงราย ได้มีการประสานงานสมาชิกโรงแรมในพื้นที่ ในการร่วมกันช่วยพัฒนาและเกื้อกูลการท่องเที่ยวในจ.เชียงราย ให้ฟื้นตัวและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาหากทางจังหวัดในกิจกรรมใดๆทุกโรงแรมในพื้นที่ก็จะให้ความร่วมมือและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เช่น หากห้องพักโรงแรมไหนมีอัตราการเข้าพักเต็ม ก็จะดีลให้กับโรงแรมอื่นในพื้นที่ที่ยังมีห้องพักรองรับ ซึ่งจะช่วยให้การท่องเที่ยวในจังหวัดมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดทางโรงแรมได้มีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย ในการจัดงานไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023” (Thailand Biennale, Chiang Rai 2023) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566-30 เมษายน 2567 ด้วยการเปิดพื้นที่ของโรงแรมในโซนแกลลอรี่พื้นที่ประมาณ 60 ตารางเมตร และในส่วนที่เป็นอาคารพาณิชย์ด้านหน้าโรงแรมอีก 6 คูหา ให้ศิลปินทั้งที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียง ได้แสดงผลงานด้านศิลปะ

ซึ่งงานดังกล่าวมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ

1.นิทรรศการหลักที่จัดโดยทีมภัณฑารักษ์ จะจัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทั่วตัวเมืองเชียงราย และเชียงแสน

2.Pavilion หรือ ศาลา เป็นการแสดงผลงานนิทรรศการกลุ่มของศิลปิน และองค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ โดยมีศาลาประมาณ 10 แห่ง ทั่วตัวเมืองเชียงรายแสดงคู่ขนานไปกับนิทรรศการหลัก

3.Collateral Events เป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในช่วงเบียนนาเล่ เช่น เทศกาลดนตรีชาติพันธุ์โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย งานฉายภาพยนตร์โดยทำงานร่วมกับ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และการแสดงสดอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้น ผู้ชมจะมีโอกาสเยี่ยมชมบ้านสตูดิโอศิลปินเชียงรายซึ่งกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ทั่วเชียงราย ซึ่งจะมีข้อมูลระบุไว้ในแผนที่เดินทางชมงานเบียนนาเล่ด้วย อาทิ ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน (.วชิรเมธี),พิพิธภัณฑ์บ้านดำ,วัดร่องขุ่น และหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย เป็นต้น

หลังจากที่ทางจังหวัดและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้มีการแถลงข่าวเพื่อจัดงานดังกล่าวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา และทางโรงแรมก็ได้ให้ความร่วมมือในการเปิดพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะด้วย ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า มีโทรมาสอบถามข้อมูลอย่างต่อเนื่องอีกทั้งมีศิลปินที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียง ต่างจองห้องพักตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไปอย่างต่อเนื่องรวมไปถึงลูกค้าทั่วไปด้วยเช่นกันนายบัณฑิต กล่าวในที่สุด

ปัจจุบันโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 15 ไร่ สูง 11 ชั้น เปิดให้บริการทั้งหมด 321 ห้องพัก โดยในช่วงโลว์ซีซั่น บุคคลทั่วไป อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,800 บาท/คืน และช่วงไฮซีซั่น อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 2,200-2,500 บาท/คืน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*