บิ๊กซีคอน โฮม “ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์”ประกาศวางมือธุรกิจ ดึงอดีตมือเก๋าจาก 2  ค่ายดังอสังหาฯ “มนู ตระกูลวัฒนะกิจ”สวมบทแม่ทัพคนใหม่  สตาร์ทเร็วเร่งดึงบริษัทฯออกจากสงครามราคาภายใน1-2ปี หวังเป็นตัวอย่างบริษัทรับสร้างบ้านดันตลาดโต ปี61เปิดตัว 12 แบบบ้านใหม่ ราคา 5-18 ล้านบาท มั่นใจปลายปีกวาดยอดขาย 1,300 ล้านบาทตามเป้า

 

 

นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการบริษัท บริษัท ซีคอน โฮม จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะวงการรับสร้างบ้านในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงมีความต้องการสร้างบ้านที่อยู่อาศัยหลังแรกและมีเหตุผลในการตัดสินใจใช้จ่ายเงินตามความจำเป็น ส่วนในครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่า น่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นเพราะเป็นฤดูกาลของการจองปลูกสร้างบ้าน ซึ่งเป็นไปตามกลไกทางการตลาดที่ครึ่งปีหลังมักจะมีการเติบโตกว่าครึ่งปีแรกประมาณ 15 % ในส่วนกลุ่มลูกค้าของซีคอน โฮม เองนั้นพบว่า กลุ่มลูกค้าเก่าจำนวนมากจะมีการแนะนำบอกต่อกัน โดยให้เหตุผลในเรื่องของคุณภาพความแข็งแกร่งของโครงสร้างบ้าน ซึ่งเรียกว่า “ระบบซีคอน” เป็นระบบการก่อสร้างที่โดดเด่นและเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของซีคอน โฮม ขณะเดียวกัน รูปแบบบ้านที่มีให้ลูกค้าเลือกอย่างหลากหลายตรงตามความต้องการในการใช้ชีวิตของแต่ละครอบครัว ทำให้ ซีคอน โฮม เป็นแบรนด์รับสร้างบ้านที่ผู้บริโภคนึกถึงและเลือกใช้บริการในลำดับต้นๆ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกผู้บริโภคจะใช้จ่ายเงินด้วยความระมัดระวัง

 

 

อย่างไรก็ตามมแม้ผลประกอบการครึ่งปีแรกจะทำได้ดีเกินกว่ายอดขายที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือที่ 660 ล้านบาท  และมั่นใจว่าทั้งปีจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ 1,300 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 8-9%  อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันซีคอน โฮม ก็ไม่หยุดนิ่งที่จะเสริมสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ ด้วยพัฒนาการดำเนินงานของบริษัทให้ก้าวทันกระแสโลกและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (ยุคแห่ง Storm of Change) บริษัทจึงได้แต่งตั้ง  “นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ” ซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูงและแนวราบจากบริษัทอสังหาฯรายเล็ก-รายใหญ่มาร่วม 30 ปี มาดำรงตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการ” แทนตนที่จะดำรงตำแหน่งเพียง กรรมการบริษัท เท่านั้น

 

“ได้มีการวางแผนชีวิตไว้แล้วว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้อง Retire ซึ่งก็ได้เกษียณตัวเองเมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมา และมีการหาแม่ทัพใหม่คือ คุณมนู ตระกูลวัฒนะกิจ เข้ามากำหนดทิศทางการดำเนินงานของซีคอน โฮม ต่อไป แต่ดิฉันก็ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทอยู่” นางสาวศุภิชชา กล่าว

 

ด้านนายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน โฮม จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์ในแวดวงอสังหาฯมาประมาณ 30 ปี คิดว่าคงถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ประกอบกับผู้บริหารซีคอน โฮม ได้ทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว จึงได้ตัดสินใจมาร่วมงาน ซึ่งการเข้ามาในแวดวงธุรกิจรับสร้างบ้านนั้นไม่ต่างจากการพัฒนาโครงการอสังหาฯมากนัก เพียงแต่การเข้ามาดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ทำให้สามารถกำหนดทิศทางการดำเนินงานได้เอง

 

โดยนโยบายแรกที่ต้องรีบดำเนินการคือการนำซีคอน โฮม ออกจากสงครามราคา เนื่องจากมองว่าที่ผ่านมาธุรกิจรับสร้างบ้าน ส่วนใหญ่จะแข่งขันในการดัมพ์ราคาบ้าน โดยบริษัทรายใหญ่จะเน้นการแจก แถม เมื่อลูกค้าใช้บริการรับสร้างบ้าน ส่วนรายเล็กก็จะเคลมในเรื่องราคาที่ถูก ส่งผลให้ธุรกิจไม่เติบโต เมื่อเทียบกับธุรกิจอสังหาฯริมทรัพย์ ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ของซีคอน โฮม ในครั้งนี้จะเน้นการเสนอราคาบ้านตามต้นทุนจริง ออกแบบวัสดุก่อสร้างให้เหมาะสมกับสินค้า โดยไม่มีการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม แต่จะนำเรื่องจุดแข็งและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ซีคอน โฮม ที่มีมายาวนาน เรื่องคุณภาพความแข็งแกร่งของโครงสร้างบ้าน ซึ่งเรียกว่า “ระบบซีคอน” (SEACON Construction System ) ซึ่งเป็นระบบก่อสร้างบ้านกึ่งสำเร็จรูป เป็นระบบการก่อสร้างที่โดดเด่นและเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของซีคอนฯและมีส่วนสำคัญ เพราะสามารถดีไซน์โครงสร้างให้มีความปลอดภัยสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 1.5-3 เท่า   โดยรูปแบบการดำเนินการใหม่นี้จะเริ่มถูกทดแทนจากการพัฒนาแบบบ้านใหม่ในปี 2561 นี้ทั้งสิ้น 12 แบบ ระดับราคาตั้งแต่ 5-18 ล้านบาท  ซึ่งจะมีการทำการตลาดให้ลูกค้าเข้าใจ  คาดว่าจะสามารถออกจากสงครามราคาได้ภายในระยะเวลา 1-2 ปี  

“จากประสบการณ์ในการร่วมงานในบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ ทำให้เรารู้จักซัพพลายเออร์มาก จึงสามารถควบคุมราคาและคุณภาพสินค้าได้  ทำให้มีผลกำไรได้เทียบเท่ากับบริษัทรับสร้างบ้านทั่วไปซึ่งอยู่ที่ประมาณ 30% โดยไม่ต้องมีการจัดแคมเปญแต่อย่างใด และด้วยประสบการณ์ในการรับสร้างบ้านของซีคอน โฮม ระยะเวลา 57 ปี จะทำผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายอื่นหันมาให้ความสนใจ และออกจากสงครามราคาได้ ซึ่งจะทำให้ตลาดกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว คาดว่าตรงนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี”นายมนู กล่าว

 

ในส่วนของบริษัทลูก ทั้งบริษัท คอมแพคโฮม จำกัด และบริษัท บัดเจท โฮม จำกัด ที่รับสร้างบ้านตลาดกลาง-ล่าง จะยังคงมีอยู่ เพราะลูกค้ายังมีอัตราการเติบโตอยู่ ทั้งนี้ประเมินว่า ตลาดรับสร้างบ้านระดับกลางค่อนข้างสูง 5-20 ล้านบาท เป็นตลาดที่บริษัทฯสามารถทำได้ ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านระดับแมสที่ยังเติบโตจะอยู่ประมาณ 5-10 ล้านบาท แต่ทั้ง 2 แบรนด์ดังกล่าว กลายเป็นซับแบรนด์ของซีคอน โฮม ที่จะเป็นตัวชูโรงในการทำตลาด

 

“ธุรกิจอสังหาฯจะมีเครื่องกีดขวางในการทำธุรกิจหลายอย่าง โดยอันดับแรกคือเงิน แต่ในธุรกิจรับสร้างบ้านจะไม่มีเครื่องกีดขวาง สามารถนำพาให้บริษัทสามารถเติบโตได้ แม้ว่าขณะนี้ภาพรวมตลาดจะมีอัตราการเติบโตที่ช้าก็ตาม เนื่องจากไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งตลาดได้หมด เพราะที่ผ่านมาการรวบรวมข้อมูลนั้นได้มาจากสมาชิกสมาคมฯที่เป็นตัวเลขกว่า 10,000 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่ยังมีกลุ่มรับสร้างบ้านรายย่อยที่ซ่อนตัวอยู่ในตลาดอีกมากกว่า 100,000 ล้านบาทด้วย”นายมนู กล่าว

 

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการลงทุนในด้านการปรับปรุงศูนย์รับสร้างบ้าน ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังปรับปรุงศูนย์รับสร้างบ้านที่ศูนย์ศรีนครินทร์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน ปัจจุบันซีคอน โฮม มีศูนย์รับสร้างบ้านจำนวน 5 ศูนย์ ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนการตลาดอื่นๆ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการขาย ได้แก่ การก่อสร้างบ้านตัวอย่าง เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นโครงสร้างและระบบการก่อสร้างที่เป็นจุดแข็งของซีคอน โฮม การขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในต่างจังหวัดที่ใกล้เคียงกรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

รวมไปถึงการออกแคมเปญ “สร้างบ้านไม่ต้องควักเงินซักบาทกับซีคอน โฮม” โดยตอบรับกระแสความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ของผู้บริโภคที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น งัดกลยุทธ์เด็ดเอาใจคนอยากสร้างบ้าน แต่ไม่มีเงินก้อนให้สามารถเป็นเจ้าของบ้านในฝันที่มีคุณภาพมาตรฐานได้ในทุกระดับราคา (ตั้งแต่ราคา 2-30 ล้านบาท) ด้วยข้อเสนอพิเศษวงเงินกู้สูงสุด 100% จาก 4 สถาบันการเงินหลักคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด(มหาชน)