MQDC ทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาทเปิด “Whizdom Club” บนเนื้อที่ 900 ตารางเมตร หวังสร้างศูนย์การเรียนรู้และแบ่งปัน แชร์ริ่งเพื่อสังคม เพิ่มพื้นที่และศักยภาพสำหรับเยาวชนกลุ่มนักศึกษา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ รองรับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของคนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป   

 

นายอัษฎา แก้วเขียว

นายอัษฎา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการ-วิสซ์ดอม บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ Whizdom 101 ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงงานตกแต่งภายในโครงการบางส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยห้องชุดมีจำนวนทั้งหมดกว่า 2,000 ยูนิต 3 อาคาร ราคาขาย 130,000-140,000 ต่อตารางเมตร ซึ่งตึกแรกได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วในช่วงปี 2561 พร้อมทั้งกำลังดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ตึกที่สองในปีนี้ 2562 และงานตกแต่งของตึกที่สามคาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในปีหน้า 2563

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว Whizdom Club สถานที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่สังคม สิ่งแวดล้อมให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการสร้างสังคมที่ดี ให้เยาวชนไทยเป็นโมเดลต้นแบบ ‘สังคมแห่งคนดีและคนเก่ง’ เพื่อเสริมศักยภาพทางความคิด ความสามารถของเยาวชนไทยสู่เวทีโลก โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ และขยาย ผลไปในวงกว้าง บนพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร ณ ชั้น 4, 101 True Digital Park ซึ่งถือเป็น Third Place แห่งใหม่ล่าสุดของประเทศ ที่เป็นศูนย์รวมการเรียนรู้ที่ใหม่ที่รวบรวมความเป็น Digital hub งบการลงทุนกว่า 40 ล้านบาท

Whizdom เราต้องการฉีกรูปแบบความคิดเดิมๆ ที่ว่า คอนโดมิเนียมเป็นแค่ที่พักอาศัยเท่านั้น เราจึงมี Whizdom Society เพื่อให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน ภายใต้แนวคิด Knowledge Sharing Society พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยการสร้างสรรค์หลากหลายกิจกรรมที่จะช่วยพัฒนาทักษะและสร้างจินตนาการในด้านต่างๆ ตลอดทั้งปี ทั้งนี้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย ตลอดจนสุขภาพของผู้อยู่อาศัยให้พร้อมในทุกๆ วันของการดำเนินชีวิต

พื้นที่รองรับการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันการเรียนรู้ ไว้ดังนี้

1. Living Place สร้างที่อยู่อาศัยที่ดีมีคุณภาพและเป็นมิตรต่อทั้งผู้อยู่อาศัย ชุมชนโดยรอบ ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เราเชื่อว่าคุณภาพชีวิตและการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ เริ่มต้นจากที่บ้าน หากอยู่ที่บ้านแล้วสุขกายสุขใจ เราจะพร้อมสำหรับวันใหม่เสมอ

2. Community HUB การเรียนรู้ที่ไม่มีกรอบสิ้นสุด เกิดจากการพบปะและเรียนรู้ไปกับผู้คนในสังคมใหม่ๆ เสมอ Networking กับกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถ กลุ่มคนที่มีจิตใจดีงาม จะช่วยให้เราพัฒนาตนเองได้อยู่เสมอ ดังนั้น เราจึงสร้าง Space รูปแบบใหม่ เพื่อรองรับ Networking, Knowledge Sharing, Mindfulness, Sustainability โดยสเปซแรกถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ชื่อ Whizdom Club โดยทุ่มงบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน (knowledge sharing society) เป็น Inspiration Hub สถานที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่สังคม สิ่งแวดล้อมให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการสร้างสังคมที่ดีโดยเริ่มจาก จุดเล็กๆ และขยายผลไปในวงกว้าง

3. Cloud เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงสังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน (Accessible) และให้สามารถเชื่อมต่อสังคมเป็นหนึ่งเดียวได้ (Online-Community) จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ อาทิ Mobile Application / Social Platform ระบบ Cloud จึงถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ชื่อ Whizdom Clouds”

พร้อมเผยถึงความคืบหน้า ของโครงการที่จะเปิดภายในปี 2562 ได้แก่

Whizdom Asoke-Sukhumvit ห้องชุดจำนวน 500 ยูนิต ราคา 300,000 บาท/ตารางเมตร ยอดขาย Pre-sale 20% เป็นไปตามเป้าที่บริษัทฯคาดการณ์ไว้ พื้นที่ส่วน Retail กว่า 1,000 ตารางเมตร และกำลังจะจัดงาน Grand Opening 25-26 พ.ค. 2562

Whizdom The Forestias ราคา 100,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นคอนโดมิเนียม 3 อาคาร โดยอาคารแรกและอาคารทีสอง มียูนิตรวมเกือบ 1,000 ยูนิต และอาคารที่สาม จำนวน 200 ยูนิต และชูกลยุทธ์ของ Pet Friendly ที่ให้ผู้พักอาศัยสามารถเลี้ยงสัตว์ได้

ในอนาคตเราจะพัฒนามิกซ์ยูสแต่ไม่ใช่มิกซ์ที่เราเคยเห็นที่เป็นแค่ Commercial กับ Residential แต่จะเป็นมิกซ์ที่มีอย่างอื่นเข้ามา ซึ่งเรามีทีมที่เข้ามาช่วยทำResearchในทุกโปรเจค เพื่อตอบโจทย์ของการอยู่อาศัยที่นอกเหนือจากคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็น MIX ที่เรากำลังหาส่วนผสมอยู่ โดยจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ที่จะถูกพัฒนาให้กลายเป็นมิกซ์ยูส” นายอัษฎา แก้วเขียว กล่าว

ด้านความเห็นเกี่ยวกับมาตรการทางภาครัฐที่ออกมาเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ นายอัษฎา ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “หากภาครัฐมีการออกมาตรการเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯย่อมส่งผลดีแน่นอน แต่สิ่งที่ดีมากกว่าคือระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีความคืบหน้าไปมาก ปัจจุบันรถไฟฟ้าหลายสายก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังจะเปิดให้บริการในเร็ววันนี้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยตอบโจทย์ที่ทำให้เกิดความมั่นใจสำหรับการอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ส่วนมาตรการต่างๆที่จะออกมานั้นส่วนใหญ่คงจะช่วยโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์มากกว่า ในส่วนของโครงการใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ศักยภาพของการขนส่ง การพัฒนาของภาครัฐ ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ที่ผ่านมา จนวันนี้เห็นผลแล้ว จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นของการอยู่อาศัยได้ดียิ่งขึ้น”

 

โดยมิกซ์ยูสที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นลักษณะ Urban Lifestyle For NewGen เพื่อสร้างความชัดเจนของแบรนด์ ปัจจุบันนวัตกรรมเชิงความคิด วิธีคิดของคนเปลี่ยนไป มุมมองต่างๆ ซึ่งหากพัฒนาคอนโดมิเนียมในรูปแบบเดิมๆไม่ตอบโจทย์แล้วสำหรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมืองปัจจุบัน ซึ่ง Whizdom Club จะเกิดขึ้นอีกในทำเลต่างๆที่เหมาะสมซึ่งอยู่ในขั้นตอนระหว่างศึกษา พร้อมเผยWhizdom Club แห่งที่ 2 ที่จะเกิดขึ้นแห่งต่อไปคือ Whizdom Club The Forestias


Whizdom Club เปิดให้บริการตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่าน โดยได้รับความสนใจจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก มี Member ของ Whizdom Club คือลูกบ้านจากโครงการของ MQDC กว่า 4-5 พันราย รายได้ที่ได้รับจาก Whizdom Club ส่วนใหญ่มาจาก อาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกภายใต้แบรนด์ Whizdom ที่จัดจำหน่ายใน Whizdom Club แห่งนี้ และพื้นที่สำหรับห้องประชุม

ความตั้งใจจริงของ Whizdom Club ไม่ได้ต้องการเก็บค่าเข้าใช้บริการ เพียงแต่เกรงว่าพื้นที่ดังกล่าวผู้ที่จะใช้อาจเป็นผู้ใหญ่มากกว่า เพราะเนื่องจากย่านดังกล่าวในบริเวณโดยรอบยังเป็นทั้งแหล่งออฟิศอีกด้วย อาจทำให้พื้นที่สำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษามีน้อยลง อาจทำให้มีการคิดอัตราค่าเข้าของผู้ใหญ่ในบางกลุ่มซึ่งอัตราดังกล่าวอยู่ในช่วงพิจารณา (ปัจจุบันไม่คิดค่าบริการและเปิดให้ใช้ฟรีถึง สิ้นปี 2562) สำหรับกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาเข้าใช้บริการฟรี

นายกฤษฐ์สยุทธ ชววิทยาธรรม

ด้าน นายกฤษฐ์สยุทธ ชววิทยาธรรม ผู้อำนวยการวิสซ์ดอม โซไซตี้ กล่าวว่า “Whizdom Club เป็น Multi – Function Space ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Whizdom Society ที่ไม่ใช่แค่ Co-working Space แต่เป็นพื้นที่ที่จะสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ และตอบโจทย์ความต้องการไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและล้ำด้วยเทคโนโลยีของออฟฟิศทั่วไป ที่แวดล้อมด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ ท่ามกลางดีไซน์สไตล์โมเดิร์น เพราะเราเชื่อว่าบรรยากาศที่ดีจะนำมาสู่ไอเดียสร้างสรรค์ Whizdom Club จึงได้มีการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ให้เหมาะสมกับทุกกิจกรรม เริ่มจาก โซน Reception/ Product เมื่อก้าวเข้าสู่ Whizdom Club ต้อนรับด้วย Reception จากพนักงานที่จะเป็นเหมือน “เพื่อน” ที่คอยให้คำแนะนำพื้นที่ใน Club รวมไปถึง Product ต่างๆ ในเครือของ MQDC ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม บ้าน และคอนโดมิเนียม และอื่นๆ อย่างเป็นกันเอง พื้นนี้ยังมี Branded Merchandising นำสมัยไม่เหมือนใคร จากแบรนด์ Whizdom ที่หลากหลายให้เลือกช้อปปิ้ง เช่น เสื้อยืด เสื้อแจ็คเก็ต แก้วน้ำ ปากกา เป็นต้น โซนนี้ยังมี F&B จาก Whizdom ที่นี่มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ซึ่งบางเมนูจะหาทานได้ที่ Whizdom Club เท่านั้น เพราะเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นใหม่สำหรับ Whizdom โดยเฉพาะ

โซน Workspace Station ด้วยพื้นที่กว่า 255 ตารางเมตร จะช่วยเติมเต็มกิจกรรมการทำงาน ประชุมพูดคุยที่จะช่วยต่อยอดไอเดีย หรือนั่งทำงานชิลๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่บริการจะมีทั้งโต๊ะ เก้าอี้ อินเตอร์เน็ต ที่สามารถจัดเป็นกลุ่มการประชุมกลุ่มเล็กเพื่อระดมไอเดีย หรือโซน Focus Area สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

โซน Whiz Ground รองรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง “Whiz Talk” ที่จัดขึ้นเป็นประจำโดย Whizdom Society ที่จะมอบความรู้ทั้งในด้านธุรกิจ เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ งาน DIY รวมไปถึงความบันเทิงรูปแบบต่างๆ ที่จะหมุนเวียนไปตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่บริการในการจัดงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งงานสัมนา เปิดตัวสินค้า Meet and Greet ให้กับบริษัทและบุคคลทั่วไป สามารถรองรับผู้ใช้ได้ถึง 100 -150 ที่นั่ง โดยมีระบบภาพและเสียงดีเยี่ยม ด้วยการออกแบบระบบอะคูสติกและเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง จึงมั่นใจได้ว่าการจัดกิจกรรมแต่ละครั้งจะมอบทั้งความรู้และความสุขที่สมบูรณ์แบบ

โซน Whiz Studio พื้นที่ส่งเสริมการจุดประกายเสริมสร้างไอเดียใหม่ เหมาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยเรียน หรือเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ที่ต้องการทำงานกลุ่มระดมความคิด ต้องการอุปกรณ์สนับสนุน รวมไปถึงบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสรรค์ โดยพื้นที่นี้มีอุปกรณ์ต่างๆที่จะะช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ หรือไอเดียใหม่ๆ อาทิ “FitMe” Table โต๊ะเก้าอี้จับกลุ่มได้หลากหลายรูปแบบ รองรับการรวมกลุ่มทำงานได้ทั้งกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ เคลื่อนย้ายง่าย นอกจากนี้ ยังมีการจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ Wheeled Flip Chart & Stationery Box, Personal Movable Locker, Dedicated Wi-Fi Connection, 3D Printers + Filament, Restricted Zone เป็นต้น

โซน Exhibition Room พื้นที่นี้เป็นพื้นที่เพื่อจัดเป็นฟังก์ชั่นแสดงงานนิทรรศการ โดยสิ่งที่นำมาแสดงนั้นจะมีทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี เรื่องราวที่ส่งเสริมการเรียนรู้ใหม่ๆ หมุนเวียนกันไปตาม Trend ในแต่ละช่วงเวลา”

“เราต้องการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน (knowledge sharing society) จึงมุ่งเน้นในการทุ่มงบประมาณในการคัดเลือกคอร์สและกิจกรรมที่มีประโยชน์เป็นอย่างแรก โดยมุ่งเน้นไปที่ทุกคนที่เป็นคนรุ่นใหม่ (New Generation) ทั้งนี้รวมถึงลูกค้า Whizdom นักเรียน นักศึกษา และคนทั่วไป ที่ต้องการสร้างสรรค์ความคิดและพัฒนาตนเอง นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยาย Whizdom Club ในประเทศไทยแล้ว ในอนาคตอันใกล้เรายังมีแผนพัฒนา Whizdom Club ที่ต่างประเทศอีกด้วย” กฤษฐ์สยุทธ กล่าวปิดท้าย

Whizdom Club ตั้งอยู่ที่ 101 True Digital Park ชั้น 4 สามารถรองรับได้ 300 ที่นั่ง ปัจจุบันเปิดให้บริการถึง 22.00 น. และในอนาคตหากความต้องการมากขึ้นระบบSafety และความปลอดภัยที่ครอบคลุมพื้นนี้นี้จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง