การเคหะแห่งชาติ  เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอ โครงการร่วมดำเนินกิจการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Joint Support) ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป โดยการเคหะแห่งชาติจะเป็นที่ปรึกษาการดำเนินโครงการให้กับภาคเอกชน มีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 5 ปีและต้องมีจำนวนหน่วยพักอาศัยไว้รองรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ไม่น้อยกว่า 10% ของจำนวนหน่วยรวมทั้งโครงการ
ดร.ธัชพล กาญจนกูล
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ หรือ กคช. กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติเดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี(พ.ศ.2560 – 2579) เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์เป็นของตนเอง ทั้งยังเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสในการเข้าถึงระบบการเงินและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในทุกระดับทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการเคหะแห่งชาติได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาที่อยู่อาศัยร่วมกับการเคหะแห่งชาติใน โครงการร่วมดำเนินกิจการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Joint Support) โดยการเคหะแห่งชาติรับเป็นที่ปรึกษา (Consultant) ในลักษณะดังนี้

ข้อแรกคือ
การสอบทานผลการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study : FS) เบื้องต้น เพื่อขออนุมัติสินเชื่อ (Pre Finance) ประกอบธุรกิจโครงการจากสถาบันการเงิน และให้คำแนะนำ การบริหารสินเชื่อลูกค้ารายย่อย (Post Finance) ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงิน รวมทั้งติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของผู้ยื่นข้อเสนอ

ข้อที่สองคือ
ให้ข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการโครงการก่อสร้าง (Project Management) แบบครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนก่อน ระหว่าง และหลังการก่อสร้าง เช่น การออกแบบ การวางผัง และองค์ประกอบต่างๆ       ของโครงการ การบริหารต้นทุนค่าก่อสร้างและงบประมาณโครงการ การบริหารจัดการก่อสร้าง รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎหมายอาคารชุด และกฎหมายการจัดสรรที่ดิน และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการส่งมอบหน่วยพักอาศัยให้กับลูกค้า ตลอดจนให้คำแนะนำในการบริหารจัดการชุมชน และการบริการหลังการขาย (After Sale Service)

สำหรับเอกชนที่สนใจต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น ประกอบด้วย เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลไทย จะต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า
5 ปี
ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หรือมีทีมงานและผู้บริหารมืออาชีพ และต้องมีเงินลงทุนสำรองเพียงพอต่อการพัฒนาโครงการในขั้นต้น ถ้ามีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองจะมีการพิจารณาเป็น กรณีพิเศษ และการก่อสร้างโครงการจะต้องมีจำนวนหน่วยพักอาศัยไว้รองรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ไม่น้อยกว่า 10% ของจำนวนหน่วยรวมทั้งโครงการ
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอซื้อแบบเอกสารขอรับสนับสนุนโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป ณ กองพัฒนาธุรกิจและสินทรัพย์ ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ ชั้น 5 อาคาร 1 สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2351 6438 และ 0 2351 6439 ในวันและเวลาราชการ